บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันครบวงจร เดินเกมรุกต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ ล่าสุดจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศเวียดนาม รับความต้องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเติบโตสูง หลังรัฐบาลเวียดนามประกาศแผนพัฒนา Digital Transformation อย่างจริงจัง พร้อมผลักดันการใช้งานระบบเครือข่าย 5G ภายในปีหน้า ตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ในปี 2566
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK เปิดเผยว่า ในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างก้าวกระโดด บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญในการขยายฐานลูกค้าผ่านการทำตลาดทั้งแบบแนวตั้งที่มุ่งขยายฐานลูกค้าขนาดใหญ่สู่ขนาดกลาง และแบบแนวนอนด้วยการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ ผ่านการให้บริการที่หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะเห็นว่าในหนึ่งปีที่ผ่านมา บลูบิคมีการขยายตลาดสู่ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในประเทศอังกฤษ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จนมาถึงประเทศเวียดนาม
เวียดนามเป็นประเทศที่กำลังถูกจับตามองจากนักลงทุนทั่วโลก สะท้อนผ่านจำนวนเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่อยู่ระดับสูง อีกทั้งภาพรวมของเศรษฐกิจเวียดนามยังคงเติบโตท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดย GDP ของประเทศเวียดนามในปี 2565 เติบโตถึง 8.02% นอกจากนี้ การสนับสนุนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันจากภาครัฐที่มีเป้าหมายนำเทคโนโลยีและดิจิทัลเข้าไปพัฒนาระบบของทุกอุตสาหกรรม รวมถึงการขยายเครือข่ายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตระดับครัวเรือนให้ครอบคลุม 80% ของประเทศนั้น จะเป็นกลไกสำคัญที่กระตุ้นให้ความต้องการนำเทคโนโลยีไปใช้งานทั้งภาครัฐและเอกชนในเวียดนามเป็นไปอย่างน่าสนใจ
“บริษัทฯ ได้ทำศึกษาโอกาสทางธุรกิจในประเทศเวียดนาม ผ่านการรับงานในโครงการออกแบบสถาปัตยกรรมระบบให้กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง จึงพบว่าประเทศเวียดนามยังมีความต้องการในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันอีกมากจากปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐและภาคเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสของบริษัทฯ ในการเข้าไปจับตลาดในประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะบริการส่วนงานด้านพัฒนาซอฟต์แวร์และระบบดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งอยู่ภายใต้หน่วยงาน Digital Excellence & Delivery โดยเชื่อว่า บริษัท บลูบิค (เวียดนาม) จำกัด ที่เพิ่งจัดตั้งไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2565 อีกทั้งการเข้าซื้อหน่วยงาน Digital Delivery ของ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จะสามารถรองรับความต้องการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี” นายพชร กล่าว
จากประสบการณ์การทำงานระดับสากลของบลูบิคที่ผ่านมา ผนวกกับจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นจาก 350 คน เป็น 780 คน หลังบรรลุผลสำเร็จตามแผนการควบรวมกิจการ 2 บริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้แก่ หน่วยธุรกิจของ MFEC ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และดิจิทัลแพลตฟอร์ม และบริษัท อินโนวิซ โซลูชั่นส์ จำกัด (Innoviz Solutions) ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญการวางระบบ Microsoft Dynamics 365 – ERP อันดับหนึ่งของไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมในการให้บริการและรุกตลาดเวียดนามอย่างจริงจัง และเชื่อมั่นว่าการขยายธุรกิจในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนรายได้จากตลาดต่างประเทศของบริษัทฯ ที่คาดว่าจะมีสัดส่วน 10 – 20% ของรายได้รวมในปี 2566
สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2565 (YoY) บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 425 ล้านบาท เติบโตขึ้นราว 115% และมีกำไรสุทธิแตะ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 119% โดยมีรายได้จากต่างประเทศมากกว่า 42 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนราว 10% ของรายได้รวม ซึ่งการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 ไตรมาส ผนวกกับยอดรอรับรู้รายได้จากแบ็คล็อก (Backlog) สะสมอีก 431 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของบริษัทฯ และความสำเร็จจากการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ 3 ปีที่ต้องการเติบโตอย่างน้อยปีละ 70% อย่างต่อเนื่อง