สำหรับประเทศไทย เพลง “ทรงอย่างแบด” อาจกำลังทะลวงไปทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่การทำข้อสอบ แต่ในต่างประเทศ อาจต้องยกให้ AI Chatbot อย่าง ChatGPT ที่พบว่า เมื่อให้มันลองทำข้อสอบของ Wharton MBA มันก็สามารถทำได้ และอาจารย์ผู้ดูแลหลักสูตรดังกล่าวก็มองว่ามันสามารถคว้าเกรด B มาครองได้อย่างเต็มภาคภูมิเสียด้วย
ผู้ที่ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้คือศาสตราจารย์ Christian Terwiesch จากสถาบัน Wharton มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกาโดยระบุว่า ChatGPT3 สามารถทำข้อสอบของ Wharton MBA ในหลักสูตรที่อาจารย์ดูแลได้ดีกว่านักศึกษาบางคนในระดับที่อาจารย์สามารถให้เกรด B ถึง B- กับ AI ดังกล่าวได้ ซึ่งเอกสารชุดนี้นำไปสู่การถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในแวดวงวิชาการที่มองว่า นี่อาจถึงเวลาที่ต้องปฏิรูประบบการศึกษา การออกข้อสอบ และวิธีการสอนแล้วอย่างจริงจัง
กลับสู่ “การเขียนด้วยลายมือ”
หนึ่งในแนวทางรับมือกับ ChatGPT ในการเรียนที่น่าสนใจอาจมาจาก Imperial College Business School ที่คณบดีของสถาบันอย่าง Francisco Veloso ออกมาบอกว่า อาจมีการให้ใช้ลายมือในการเขียนงานส่งมากขึ้น และเน้นการมีส่วนร่วมมากขึ้นในห้องเรียน
“ที่ปรึกษา” อาชีพสุดท้าทายในยุค ChatGPT
สิ่งที่ศาสตราจารย์ Christian Terwiesch แสดงความกังวลอีกข้อหนึ่งก็คือ การทำงานในอาชีพที่ปรึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่บัณฑิตของทาง Wharton ที่จบออกไปมักเลือกเป็นกัน โดยหาก ChatGPT สามารถตอบคำถามด้าน MBA ได้ (อย่างถูกต้อง) องค์กรต่าง ๆ ก็อาจคิดหนักมากขึ้นเวลาจะตัดสินใจจ้างที่ปรึกษานั่นเอง
ไม่เฉพาะในมหาวิทยาลัย เพราะก่อนหน้านี้ก็มีโรงเรียนในนิวยอร์กออกมาประกาศแบนการใช้งาน ChatGPT ในเขตโรงเรียนเช่นกัน เพราะเกรงว่าเด็ก ๆ จะอาศัย ChatGPT ช่วยด้านการเรียนในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ด้วยนั่นเอง
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความกังวลของภาคการศึกษา แต่ในมุมของบริษัทเทคโนโลยี การมาถึงของ ChatGPT กำลังทำให้เกิดความสั่นสะเทือนในหลายด้าน หนึ่งในนั้นคือการประกาศลงทุนใน OpenAI บริษัทผู้พัฒนา ChatGPT ของไมโครซอฟท์ (Microsoft) เป็นมูลค่าถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ Google ก็เตรียมเปิดตัวโปรดักท์ด้าน AI มากขึ้นในปีนี้ด้วยเช่นกัน