HomeReal Estate & Condo4 กลยุทธ์ ‘เฟรเซอร์ส’ เปิดเกมอสังหาฯ ปี 66 บุกตลาดคอนโดครั้งแรกรับกำลังซื้อฟื้น

4 กลยุทธ์ ‘เฟรเซอร์ส’ เปิดเกมอสังหาฯ ปี 66 บุกตลาดคอนโดครั้งแรกรับกำลังซื้อฟื้น

แชร์ :

Mr. Saenphin Sukhee_CEO Frasers Property Home (Thailand)ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยได้แรงสนับสนุนจากมาตรการเศรษฐกิจของภาครัฐ การลงทุนเพิ่มขึ้นของภาคเอกชน การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

โดยเฉพาะนโยบายเปิดประเทศที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาและคาดว่าจะมีจำนวนสูงกว่า 20 ล้านคนในปี 2566 ซึ่งภาคการท่องเที่ยวจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญผลักดันเศรษฐกิจไทยขยายตัว 3- 3.5% ในปีนี้ อีกทั้งการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ ในหัวเมืองหลักเพื่อรองรับการกลับมาของการท่องเที่ยว พร้อมทั้งนักลงทุนต่างชาติที่ทยอยกลับเข้ามา ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ปีนี้ตลาดแนวราบ บ้านเดี่ยวราคาแพงยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ปี 2565 พบตลาดบ้านเดี่ยวราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ลูกค้าใช้เงินสดซื้อเป็นส่วนใหญ่ 67% ขณะที่ราคาบ้านเดี่ยวปรับขึ้น 3% เนื่องจากราคาที่ดินหลังโควิด ปรับขึ้น 75% โดยเฉพาะในพื้นที่เชื่อมสู่จังหวัดฝั่งตะวันตก เช่น โซนรัตนาธิเบศร์-ชัยพฤกษ์ เพิ่มขึ้น 64.4% ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์ เพิ่มขึ้น 65.5% สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ เพิ่มขึ้น 63.2% พระราม 2- บางบอน เพิ่มขึ้น 97.9%

ในพื้นที่เมืองขยายตัวจากรถไฟฟ้า เช่น โซนวัชรพล-สายไหม เพิ่มขึ้น 44.2% เกษตร-รามอินทรา เพิ่มขึ้น 60.4% รามคำแหง-อ่อนนุช เพิ่มขึ้น 138% เทพารักษ์- บางพลี เพิ่มขึ้น 38% บางนา-วงแหวน เพิ่มขึ้น 98%

ปีนี้คาดการณ์ว่าโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่จะมีสัดส่วนแนวราบ 71% และคอนโด 29% โดยคอนโดราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เริ่มกลับมาขยายตัวอีกครั้งหลังชะลอตัวในช่วง 2 ปีโควิด

Frasers 2023 land

เฟรเซอร์สฯเดินหน้าเปิด 11 โครงการ กว่า 1.75 หมื่นล้าน

คุณแสนผิน สุขี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าการทิศทางอสังหาฯ ฟื้นตัว ในปี 2566 ตั้งเป้ายอดขายรอรับรู้รายได้ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2565 โดยวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 17,500 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว 7 โครงการ, ทาวน์โฮม 2 โครงการ, บ้านแฝด 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ

“ปีนี้จะเดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ตามแผน เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในการดำเนินธุรกิจครั้งสำคัญให้ก้าวเข้าสู่ความแข็งแกร่งในทุกด้าน ภายใต้วิสัยทัศน์ คิดใหม่ ทำใหม่ (ให้) ใหม่เสมอ เพื่อสร้างผลตอบแทนบนรายได้ที่เติบโตสม่ำเสมอ”

โดยวาง 2 กุญแจหลักในการขับเคลื่อนองค์กร คือ 1. เสริมแกร่งบนน่านน้ำเดิม พัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีศักยภาพด้วยสินค้าที่มีคุณภาพและมีนวัตกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และ 2.เติบโตบนสมรภูมิใหม่ กับการสร้างโอกาสใหม่ ๆ เพื่อสามารถรักษาระดับอัตราการเติบโตของธุรกิจ ตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยได้อย่างครอบคลุม ตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการ และสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยให้แตกต่างจากที่เคย

ชู 4 กลยุทธ์เสริมแกร่งบนน่านน้ำเดิมและเติบโตบนสมรภูมิใหม่

1. เปิดตัวโครงการบ้านในทุกระดับราคา โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนพัฒนาโครงการประเภทบ้านเดี่ยวในทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ ซึ่งหวังเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำในจังหวัดที่มีการขยายตัวของเมืองและแหล่งงาน ด้วยการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพและมีนวัตกรรม ให้ความสำคัญกับเรื่องการใช้งานแบบมีสไตล์สะท้อนตัวตน ปรับฟังก์ชันการใช้งานให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้า ขณะเดียวกันยังคงรักษาการเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮม ด้วยการพัฒนาโครงการคุณภาพบนทำเลศักยภาพสูง และโดนเด่นด้วยฟังก์ชันที่ครองใจลูกค้า รวมถึงพัฒนาบ้านแฝดที่เน้นการออกแบบและฟังก์ชันที่เทียบเท่าบ้านเดี่ยว เน้นทำเลใกล้เมืองและแหล่งอำนวยความสะดวก ด้วยราคาที่จับต้องได้

2. จัด Big Campaign เพื่อกระตุ้นยอดขายตลอดปี 2566 ซึ่งวางแผนจัดแคมเปญทางการตลาดและโปรโมชั่นพิเศษตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อให้กับผู้บริโภค พร้อมทั้งเป็นการสร้างการรับรู้ และจดจำแบรนด์สินค้าของบริษัทอีกด้วย

3. บุกตลาดคอนโดครั้งแรก เนื่องจากเห็นโอกาสทางการตลาดหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทำให้ตลาดคอนโดเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะโครงการคอนโด Low Rise ราคา 3-5 ล้านบาทที่มีสัดส่วนดีมานด์เพิ่มมากที่สุดในปี 2565 ในขณะที่สินค้าคงเหลือในตลาดมีไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

โดยเฟรเซอร์สฯ มีแผนพัฒนาโครงการคอนโด Low Rise ในโลเคชั่นตั้งอยู่ในเมืองและใกล้รถไฟฟ้า โครงการแรกทำเลรัชดาฯ ซอย 7 ภายใต้แบรนด์ KLOS เปิดตัวไตรมาสแรก ทั้งปีนี้คาดเปิดตัว 2-3 โครงการ

4.ขยายพอร์ตโฟลิโอ โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ และระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ซึ่งจะเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ขึ้นไปในระดับราคา 60-120 ล้านบาทใน 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ The Royal Residence (เดอะ โรยัล เรสซิเดนซ์) ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ รวมถึง Alpina (อัลพีน่า) และ The GRAND (เดอะ แกรนด์) เน้นเจาะกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์ความต้องการของตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต


แชร์ :

You may also like