เพราะว่าทำเล “ย่านคลองสาน” เป็นแหล่งที่พักอาศัย – ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง ผู้คนที่อาศัยอยู่ในทำเลนี้มีหนาแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนโดมิเนี่ยมระดับไฮเอนด์มีกำลังซื้อสูง ตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขณะเดียวกันก็มีทางเลือกในการเดินทางทั้ง รถยนต์ เรือ และรถไฟฟ้า นั่นทำให้ “โลตัส” เลือกที่จะประเดิม เปิดตัวแบรนด์ใหม่ Lotus’s Privé (โลตัส พรีเว่) พรีเมียมไฮเปอร์มาร์เก็ต สาขาแห่งแรกที่โครงการไอซีเอส (ICS) มิกซ์ยูส ไลฟ์สไตล์ ทาวน์ ตรงข้าม ICONSIAM ด้วยคอนเซ็ปต์ “Premium Inclusive ความพิเศษที่ใช่ สำหรับคุณ”
Lotus’s Privé แตกต่างจากสาขาอื่นอย่างไร
Lotus’s Privé อ่านว่า “พรี-เว่” มีความหมายเหมือนคำว่า private ในภาษาอังกฤษ สื่อถึงความเป็นส่วนตัว พิเศษสำหรับแต่ละบุคคล แบรนด์ Lotus’s Privé จึงสะท้อนความพรีเมียมและพริวิเลจที่ออกแบบมาเหนือระดับ ให้เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล เป็นแบรนด์สำหรับพรีเมียมไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่ต่างจาก Lotus’s ไฮเปอร์มาร์เก็ต ทั้งในด้านของรูปลักษณ์ การออกแบบ ประเภทและความหลากหลายของสินค้า และบริการเสริม โดยเน้นความพรีเมียม ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้นกว่า Lotus’s ไฮเปอร์มาร์เก็ต
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองแบรนด์ ให้ความสำคัญกับการเป็น SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตในแบบสมาร์ทของชุมชนรอบข้าง ที่โลตัสมุ่งเน้นมาโดยตลอด
คุณสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นของโลตัส คือการทำให้ลูกค้าของเรา รู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส ผ่านการส่งมอบสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง ไม่ว่าจะใช้บริการทั้งในสาขาหรือแพลทฟอร์มออนไลน์ โดยเราออกแบบประสบการณ์และสินค้าที่แตกต่างกันไปตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่และเซกเมนต์ เราเล็งเห็นโอกาสจากไลฟ์สไตล์ของลูกค้าปัจจุบันที่มีความต้องการสินค้าพรีเมียมมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการพัฒนาคอนเซ็ปต์ภายใต้แบรนด์ใหม่คือ Lotus’s Privé (โลตัส พรีเว่) พรีเมียมไฮเปอร์มาร์เก็ตที่มีจุดยืนที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากแบรนด์ Lotus’s ซึ่งถูกสะท้อนผ่านทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์แบรนด์ การออกแบบตกแต่งภายในสาขา ประเภทของสินค้าที่มีความพรีเมียมและหลากหลายมากขึ้น บริการเสริมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแผนกอาหารสด แต่สิ่งที่ยังคงเอกลักษณ์ของโลตัส คือความคุ้มค่าที่มากกว่าราคาที่เอื้อมถึง ซึ่งลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์สุดพรีเมียมเหล่านี้ได้ในสาขาแรก ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการไอซีเอส และผ่านช่องทางออนไลน์สำหรับลูกค้าที่อาศัยอยู่ภายในรัศมี 10 กิโลเมตรจากสาขา”
นั่นทำให้สาขาแห่งนี้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าในละแวกใกล้เคียงได้ โดยมีสินค้ากว่า 27,000 รายการ บนพื้นที่ประมาณ 2,900 ตารางเมตร
ที่ Lotus’s Privé มีอะไรเด็ด
เริ่มกันที่ “ดีไซน์” ที่แปลกตากว่าสาขาอื่นๆ สีเขียวเข้ม ตัดกับสีทอง แม้แต่ยูนิฟอร์มของพนักงาน สร้างความแตกต่าง แต่ก็ยังอิงกับภาพจำของความเป็นแบรนด์ “ไฮเปอร์มาร์เก็ต” อยู่
สำหรับ “สินค้า” ที่วางจำหน่ายใน Lotus’s Privé นั่น เน้นสินค้านำเข้า โดยสินค้าประเภทอาหาร มีกว่า 40% ซึ่งถือว่ามากกว่าสาขาอื่นๆ โดยเป็นความพรีเมียมที่สามารถเข้าถึงได้ คัดสรรสินค้าที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก ชูอาหารสดนำเข้า เช่น เนื้อวัว กุ้งมังกร ปลาแซลมอน หอยเชลล์ ปู ชีส ผักและผลไม้ อาหารแห้งและเครื่องปรุงนำเข้า ขนมและของขบเคี้ยว สินค้าออร์แกนิก สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม รวมกว่า 27,000 รายการ
ผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรส่งตรงจากแหล่งต่าง ๆ ในประเทศไทย อาทิ ปลาทะเลจากระนอง หอยนางรมจากสุราษฏร์ธานี ผักออร์แกนิก ผลไม้ที่คัดสรรจากแหล่งที่มีชื่อเสียงทั้งในไทยและผลไม้นำเข้า เช่น ทุเรียนจันทบุรี ผลไม้นอกฤดูกาล บริการสั่งสินค้าพรีออเดอร์ ประเภท Seafood ที่ขึ้นฝั่งจากทะเลแบบวันต่อวัน สดใหม่ โดยสามารถสั่งสินค้าล่วงหน้า 3 วัน
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งนอกเหนือจากสินค้าที่จำหน่ายในสาขาแล้ว ยังมีสินค้าที่สามารถ pre-order ได้ โดยมีบริการจัดส่งและติดตั้งฟรี และ True Living Tech ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบสมาร์ท
คุณสมพงษ์ มองว่า Lotus’s Privé จะเป็นต้นแบบในการพัฒนาโมเดลที่ตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มพรีเมียมเช่นนี้อีกในอนาคตอันใกล้ โดยในระยะหลัง การเปิดสาขาที่สำคัญๆ ของโลตัสจะคำนึงถึงความสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชุมชน ตั้งแต่การออกแบบ การใช้พื้นที่ สินค้าและบริการ ไม่ใช่แค่การออกแบบในรูปแบบเดียวอีกต่อไปแล้ว