ต้องยอมรับว่า การสร้างแคมเปญการตลาดให้ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ ไม่มีกฎตายตัว เพราะหากเข้าใจ “อินไซต์” ของลูกค้า และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาสร้าง “ประสบการณ์” แปลกใหม่ให้กับผู้บริโภคได้ ย่อมทำให้แคมเปญโดดเด่นและโดนใจผู้บริโภค ที่ผ่านมา เราจึงเห็นหลายแบรนด์มีการนำ Customer Insight มาใช้ในการออกแบบแคมเปญการตลาดกันมากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์แตกต่างให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ
เช่นเดียวกับ “โลตัส” (Lotus’s) ห้างค้าปลีกที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน ที่ลุยจัดแคมเปญ “ราคามหาชน” ติดต่อกันมาหลายปี และในปีนี้ ยังนำแคมเปญนี้กลับมาจัดอย่างต่อเนื่อง แต่เพิ่มเติมความพิเศษให้มากกว่าเดิม เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภคทุกคน ทำไม “โลตัส” จึงเลือกหยิบแคมเปญเก่าอย่างราคามหาชนมาเป็นอาวุธการตลาดทุกปี และในปีนี้จะจัดเต็มคาราเบลแค่ไหน คุณวรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส พร้อมจะไขความลับให้ฟัง
“รับฟังทุกเสียง” เบื้องหลังความสำเร็จแคมเปญราคามหาชน
เมื่อเอ่ยถึง “โลตัส” นอกจากจะเป็นเบอร์ 1 ในตลาดค้าปลีกเมืองไทย ด้วยจำนวนสาขาครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว ยังเป็นห้างค้าปลีกที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างมาก สะท้อนจากจำนวนฐานลูกค้าสมาชิกกว่า 20 ล้านราย ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้โลตัสก้าวสู่เบอร์ 1 ในตลาดค้าปลีกนั้น ไม่ใช่แค่การมีสาขาและฐานลูกค้าจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังมาจากการ “เข้าใจ” และ “รับฟังทุกเสียง” ของลูกค้า
กลยุทธ์ที่ผ่านมาของโลตัส นอกจากการขยายสาขาแล้ว จะเห็นว่าโลตัสยังให้ความสำคัญกับการศึกษาและทำความเข้าใจอินไซต์ผู้บริโภคอย่างมาก เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการพัฒนารูปแบบสาขาที่ต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสมกับผู้บริโภค พัฒนาการบริการ รวมทั้งเสาะหาสินค้าคุณภาพมาตอบความต้องการเฉพาะของลูกค้าในราคาคุ้มค่าอยู่เสมอ ผ่านแคมเปญโปรโมชั่นในรูปแบบต่างๆ ส่งผลให้แต่ละแคมเปญการตลาดที่ออกมาจึงได้รับฟีดแบ็กอย่างล้มหลาม และมีหลายแคมเปญที่ลูกค้าต่างเฝ้ารอทุกปี หนึ่งในนั้นคือ แคมเปญราคามหาชน
“แคมเปญนี้เกิดขึ้นจากการรับฟังเสียงลูกค้าจริงๆ โดยหยิบเอาบิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์เพื่อออกแบบแคมเปญให้ตรงความต้องการลูกค้า โดยจะดูพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคว่าส่วนใหญ่นิยมซื้อสินค้าอะไรเป็นประจำ เพื่อเลือกสินค้าที่จำเป็นมาลดราคา ทำให้ลูกค้าได้สินค้าตรงใจ แถมยังช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น” คุณวรวรรณ บอกถึงความสำเร็จของแคมเปญราคามหาชน
ส่ง Real Man Billboard เจาะทุกอินไซต์ ต่อยอดสู่ราคามหาชน ลดใหญ่และยาวนานกว่าเดิม
จากกระแสตอบรับแคมเปญอย่างล้นหลาม ประกอบกับการศึกษา Customer Insight พบว่า ผู้บริโภคจำนวนมากยังคงกังวลเรื่องค่าครองชีพจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น จึงทำให้โลตัสนำเอาแคมเปญ “ราคามหาชน” กลับมาเสิร์ฟอีกครั้ง เพื่อมอบความสุขความคุ้มค่าในการซื้อสินค้าให้กับคนไทยรับปีใหม่ ทั้งยังขานรับมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” โดยลูกค้าสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวน 40,000 บาท ตามที่ภาครัฐกำหนดด้วย
แม้จะเป็นการนำแคมเปญเก่ามาใช้ใหม่ แต่ คุณวรวรรณ บอกว่า สินค้าที่นำมาร่วมแคมเปญ และโปรโมชั่นในแต่ละปีจะแตกต่างจากเดิมตามสถานการณ์และความต้องการลูกค้าที่เปลี่ยนไป สำหรับในปีนี้ แคมเปญราคามหาชนยังคงความแตกต่างและพิเศษมากขึ้นกว่าเดิม โดยมีการจัดกิจกรรมรับฟังเสียงความต้องการของประชาชน ด้วยการส่ง Real Man Billboard ตู้ใส่พนักงานจริงไปรับฟังความต้องการของมหาชนกลางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเก็บข้อมูลรายการสินค้าที่ผู้บริโภคอยากให้จัดราคาพิเศษ รวมถึงข้อมูลจากการซื้อสินค้ายอดนิยมของลูกค้าโลตัส จากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์และจัดรายการสินค้าจำเป็นที่เป็นที่ต้องการของมหาชน มาจัดโปรโมชั่นตอบความต้องการอย่างเหมาะสมที่สุด
ยังไม่หมดแค่นั้น อีกหนึ่งความพิเศษของแคมเปญในปีนี้ โลตัสยังเพิ่มจำนวนรายการสินค้าจำเป็นที่คนไทยต้องการกว่า 600 รายการ ตรึงราคายาวนานขึ้นถึง 77 วันด้วย โดยสินค้าที่นำมาร่วมแคมเปญครอบคลุมทั้งของกิน ของใช้ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น CLEO พัดลมสไลด์ 16 นิ้ว รุ่น CSF-5162 ราคาปกติ 799 บาท ราคามหาชน 469 บาท, ฉัตร ข้าวหอมผสม 5 กก. ราคาปกติชิ้นละ 155 บาท ราคามหาชน 139 บาท, ดัชมิลล์คิดส์ นมเปรี้ยว 90 มล. แพ็ก 4 กล่อง ทุกรสชาติ ราคาปกติ 23.50 บาท ราคามหาชน 22 บาท, มามีโพโค แพ้นท์ ไซซ์ S แพ็ก 78 ชิ้น ราคาปกติ 445 บาท ราคามหาชน 355 บาท, คอมฟอร์ท อัลตร้า ผ้านุ่มฟ้า 480 มล. แพ็ก 2+1 ราคาปกติ 158 บาท ราคามหาชน 139 บาท
การดึงแคมเปญราคามหาชนกลับมาในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การนำสินค้ามาทำแคมเปญลดราคา แต่เป็นการตอบอินไซต์ผู้บริโภคที่มีความกังวลเรื่องค่าครองชีพ จึงทำให้โลตัสเชื่อว่าแคมเปญนี้จะโดนใจกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และแบรนด์โลตัสจะอยู่ในใจของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น เพราะอยู่เคียงข้างพวกเขา
เพราะฉะนั้น เตรียมตัวกันให้พร้อม แล้วมาช้อปสินค้าในแคมเปญราคามหาชนกันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึง 22 มีนาคม 2566 ที่โลตัสทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ Lotus’s SMART App นอกจากนี้ สมาชิกมายโลตัสยังสามารถสะสมแต้มสมาชิกเพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้อีกด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ รู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส