ปี 2023 เป็นปีที่ผู้บริโภคจะสามารถใช้ชีวิตได้เกือบปกติ หลังอยู่กับโควิด-19 มา 3 ปีเต็ม ถึงแม้ว่าสถานการณ์ทั่วโลกจะอยู่ในภาวะถดถอย แต่คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) มากกว่า 4% เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า จากปัจจัยบวกทางด้านการท่องเที่ยวและการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายในภาคครัวเรือน
คาดการณ์ว่าปีนี้ อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาจะเติบโตขึ้นประมาณ 5% ประกอบกับเทคโนโลยีของสื่อที่พัฒนาขึ้นและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น โดยผู้บริโภคจะมีการตัดสินใจซื้อสินค้าจากการรีวิวของผู้ใช้จริงและสนใจในโซเชียลคอมเมิร์ซมากขึ้น
คุณพิทักษ์ อินทรทูต กรรมการผู้จัดการ มายด์แชร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่าปีนี้เห็นสัญญาณบวกจากภาคเอกชนและภาคครัวเรือนต่อการใช้จ่ายเงินมากขึ้นตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดคอนเสิร์ต การจัดงานปีใหม่ ฯลฯ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าผู้บริโภคไทยใกล้สู่การกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้เกือบเต็มรูปแบบ
ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมมีเดีย ยังคงมีปัจจัยที่ทำให้การใช้เงินในภาคโฆษณายังคงเป็นบวก และในส่วนของเทคโนโลยีของสื่อที่พัฒนาขึ้น พร้อมทั้งในส่วนของคอนเทนต์ที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น จึงทำให้ปี 2023 เป็นปีที่น่าจะสนุกสำหรับนักการตลาด
“มายด์แชร์” สรุปมุมมองอุตสาหกรรมสื่อปี 2023 ดังนี้
– คาดการณ์เม็ดเงินโฆษณามีมูลค่ารวม 124,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เทียบจากปี 2022
– เมื่อดูตามประเภทสื่อ กลุ่มที่น่าจับตามองในปีนี้ คือ สื่อนนอกบ้านและรองลงมาคือสื่อออนไลน์
– ปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตของสื่อออฟไลน์คือ Connected TV, การแข่งขันทางด้านคอนเทนต์เพื่อดึงคนดู, เทคโนโลยีของสื่อนอกบ้าน หรือ Programmatic OOH และการตระหนักของแบรนด์ต่างๆ ในการสร้างการรับรู้เพื่อนำไปสู่การซื้อสินค้าของผู้บริโภค
– 3 อุตสาหกรรมหลักที่ยังใช้เม็ดเงินโฆษณามากขึ้นคือ ค้าปลีก, เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) และรถยนต์
6 เทรนด์ผู้บริโภคปี 2023 ที่น่าสนใจ
1. ผู้บริโภคให้ความสนใจต่อแบรนด์ที่มีความสนใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมและการรับผิดชอบต่อสังคม
2. การตัดสินใจการซื้อสินค้า จะเชื่อการรีวิวสินค้าจากผู้ใช้สินค้าจริงหรือ Customer Influencer,
3. Super App คือสิ่งที่ผู้บริโภคจับตามองในปี 2023
4. การเพิ่มขึ้นของการหาข้อมูลผ่านทาง Social Search
5. VDO ยังคงเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่ผู้บริโภคสนใจ
6. โซเซียลคอมเมิร์ซ คือ ช่องทางการซื้อของใหม่ของผู้บริโภค