HomeBrand Move !!ปี 2566 เวลาที่ใช่ของ ‘เฮียฮ้อ’ กับวิชั่นใหม่ RS ปั้น 6 กลุ่มธุรกิจเข้าตลาดฯ เป้าหมายมูลค่ากิจการ ‘แสนล้าน’

ปี 2566 เวลาที่ใช่ของ ‘เฮียฮ้อ’ กับวิชั่นใหม่ RS ปั้น 6 กลุ่มธุรกิจเข้าตลาดฯ เป้าหมายมูลค่ากิจการ ‘แสนล้าน’

แชร์ :

RS 2023 CEO

เฮียฮ้อ คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์

ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาไม่ง่ายในการทำธุรกิจ เพราะเจอทั้งสถานการณ์โควิด-19 การเปลี่ยนแปลงธุรกิจอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล ภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ RS ของ “เฮียฮ้อ” รีแบรนด์และทรานฟอร์มองค์กรภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ได้สำเร็จ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

จนกลายเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาการทรานฟอร์มธุรกิจจากกระแส Disrupt ต่างๆ และพิสูจน์ให้เห็นว่า RS เป็นองค์กรยุคใหม่ที่ปรับตัวได้ดี มีความยืดหยุ่นในการทำงาน ที่สำคัญเป็นองค์กรที่ไม่เคยหยุดแสวงหาโอกาสใหม่ๆ และการสร้างโอกาสให้ธุรกิจเดิม

“ปี 2566 จะเป็นปีสำคัญที่สุดของ RS นับจากก่อตั้งและตลอดชีวิตการทำงานกว่า 40 ปีของเฮีย หลังจากโลกถูกบีบด้วยวิกฤติต่างๆ มา 3 ปีเต็ม เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย จะฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ คือ การหาเวลาที่ใช่ให้เจอ และปีนี้ถึงเวลาที่ใช่ของวิชั่นใหม่ RS กับการวางเป้าหมายสร้างมูลค่ากิจการ 100,000 ล้าน” เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าว

3 ยุทธศาสตร์ 6 กลุ่มธุรกิจ กับมูลค่ากิจการ ‘แสนล้าน’ ใน 3 ปี

RS ได้วางวิชั่นใหม่ที่ท้าทายในช่วง 3 ปีจากนี้ โดยขับเคลื่อนผ่าน 3 ยุทธศาสตร์

1. เปลี่ยน Purpose Brand ใหม่ ตั้งเป้าหมายเป็น Life Enriching ยกระดับทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้าผ่านทุกธุรกิจในเครือ

2. ปรับโครงสร้างธุรกิจเป็น 6 กลุ่ม

– RS Multimedia ประกอบด้วย ช่อง 8 และ COOLfahrenheit
– RS Music ค่ายเพลง RSIAM, kamikaze, RoseSound และโฟร์ท แอปเปิ้ล
– RS LiveWell ธุรกิจ RS Mall และแบรนด์ผลิตภัณฑ์ well u, Vitanature+, Lifemate และ Camu C
– RS Connect ธุรกิจขายตรง ULife และ De Beste
– RS Pet All ธุรกิจใหม่สัตว์เลี้ยงครบวงจร
– R Alliance การลงทุนตามกลยุทธ์ M&A และ JV

3. เป้าหมาย 3 ปี Spin-off 6 กลุ่มธุรกิจในเครือเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ กับมูลค่ามาร์เก็ตแคป RS Group 100,000 ล้านบาท

ตามดูแผนธุรกิจ ปี 66 รายได้ 5,500 ล้าน

สำหรับแผนธุรกิจในเครือ RS ปี 2566 วางเป้าหมายรายได้ 5,500 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจคอมเมิร์ซ 3,100 ล้านบาท และธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ 2,400 ล้านบาท สรุปแผนธุรกิจ 6 กลุ่มดังนี้

1. RS Multimedia

– ช่อง 8 โฟกัสการตลาดด้วยกลยุทธ์ “ภูธร มาร์เก็ตติ้ง” เน้นคอนเทนต์เจาะตลาดแมส เช่น ละคร, เอเชียนซีรีส์, มวย 4 รายการที่ครองเรตติ้งเบอร์หนึ่ง ขยายคอนเทนต์ออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม OTT ทั้ง iQIYI, Viu, WeTV, AIS PLAY, POPS.TV และ TrueID

– COOLfahrenheit คลื่นวิทยุ FM 93, แอพพลิเคชัน COOLISM และสตรีมมิง COOLive วางแผนจัด 4 คอนเสิร์ตใหญ่ ได้แก่ RS HITS JOURNEY 2023, D2B 22nd Anniversary Concert 2023, kamikaze party reunion และ RS MEETING HITS MARATHON CONCERT 2023 และ 4 เฟสติวัล ได้แก่ COOL Summer Fest, COOL Rainy Fest, COOL URBAN Fest และ COOL Winter Fest ตลอดทั้งปี

2. RS Music

ปี 2566 จะเป็นปีแรกที่ RS กลับมาให้ความสำคัญในการลงทุนและทำงานเชิงรุกกับ “ธุรกิจเพลง” อีกครั้งในรอบ 15 ปี หลังการเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้ RS ตัดสินใจขายโรงงานซีดีทิ้ง เปลี่ยนจากเพลงแอนาล็อกขายซีดีมาเป็นดิจิทัล แต่ช่วงนั้นต้องเจอกับภาวะขาดทุนอยู่ 5 ปี

“การเปลี่ยนแปลงในช่วงนั้น ถือเป็นช่วงที่ยากและท้าทายที่สุดของอาร์เอส แต่เมื่อผ่านเรื่องยากๆ มาได้แล้ว นั่นคือ การสร้างภูมิต้านทานให้ธุรกิจและสอนให้เราเรียนรู้ว่า ทางข้างหน้าไม่รู้ว่าเราจะเจออะไร แต่อาร์เอสก็ทรานส์ฟอร์มสำเร็จ”

วิชั่น RS 3 ปีจากนี้จะกลับสู่ธุรกิจเพลงอีกครั้ง เพราะเทรนด์ธุรกิจเพลงชัดเจนว่าตลาดสตรีมมิงกลับมาเติบโตและมีขนาดใหญ่มาก ไม่ต่างจากยุคซีดี และช่องทางโชว์บิซก็ยังเติบโต วันนี้จึงเห็นสัญญาณ New Wave ธุรกิจเพลงกลับมาแล้ว

การกลับมาทำธุรกิจเพลงในครั้งนี้ RS จะใช้ความแข็งแรงเดิมมาต่อยอดธุรกิจเพลงในยุคใหม่ และมาพร้อม “พาร์ทเนอร์” ที่จะเข้ามาร่วมทุน (JV) ในไตรมาสแรกปีนี้ เพื่อหารายได้จากธุรกิจเพลงร่วมกันในรูปแบบ Total Music 360 องศา สร้างธุรกิจเพลงยุคใหม่ให้แข็งแรง ปัจจุบันมี 3 ค่ายเพลง คือ Rsiam (อาร์สยาม) Rose Sound (โรสซาวด์) และ Kamikaze (กามิกาเซ่)

RS Music cover

ปีนี้ RS Music เปิดตัว 2 โปรเจกต์

– RS Homecoming กลุ่มศิษย์เก่าอาร์เอสรุ่นต่างๆ ที่ยังมีแฟนคลับติดตามผลงานอยู่ กลับมาสร้างผลงานเพลงอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น แรพเตอร์ (หลุยส์ สก๊อต-จอนนี่ อันวา), แดน-บีม, ดัง พันกร บุณยะจินดา, ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน, Girly Berry, เขื่อน ภัทรดนัย ( K-OTIC)

– RS Newcomers การสร้างศิลปินหน้าใหม่ให้วงการเพลง

โดย “โฟร์ท แอปเปิ้ล” เตรียมทำโปรเจกต์ VIBE VERSE ในกิจกรรม VIBE HOUSE เวทีออดิชันคัดเลือกศิลปิน T-Pop เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้าสู่วงการ และ VIBE SQUARE เป็นโชว์เคสพิเศษจากศิลปินไทยที่มีคอนเซปต์แตกต่างจากการจัดโชว์แสดงดนตรีทั่วไป เน้นการโรดโชว์ไปตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ชายหาดริมทะเล และสวนสาธารณะ เป็นต้น

ในยุคที่ RS มีรายได้หลักจากธุรกิจเพลง เคยทำรายได้สูงสุด 1,000 ล้านบาท มีศิลปินรวมกันทุกยุคกว่า 300-400 คน มีคลังเพลงกว่า 20,000 เพลง ปีนี้ที่ RS กลับมาลงทุนธุรกิจเพลงอีกครั้งวางเป้าหมายรายได้ RS Music ไว้ที่ 400 ล้านบาท ช่วง 3 ปีจากนี้ “อาร์เอสอาจจะกลับไปทำรายได้ธุรกิจเพลงแตะ 1,000 ล้านบาทอีกครั้ง”

RS LiveWell

3. RS LiveWell

กลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซที่ทำมากว่า 8 ปี ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ มีแบรนด์สินค้าสุขภาพและความงามที่ได้รับการยอมรับ มีฐานลูกค้ากว่า 1-2 ล้านคน

– กลุ่มสินค้าแบรนด์ well u และ Vitanature+ ปีนี้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด 19 SKUs ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว

– กลุ่มสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงแบรนด์ Lifemate ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 22 SKUs ในหมวดอาหารกลุ่ม Specialty Food, สแน็คสำหรับสุนัขและแมว และผลิตภัณฑ์ดูแลทำความสะอาด นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังโมเดิร์นเทรดและตลาดต่างประเทศ

– จับมือพันธมิตรขยายช่องทาง Specialty Store และ Duty Free เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน

– RS Mall แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าสุขภาพและความงามก็จับมือกับพันธมิตร อาทิ สถาบันการเงิน โรงพยาบาล คลินิก และบริษัทประกันชั้นนำ เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่

4. RS Connect

ธุรกิจขายตรง จากเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของยูนิลีเวอร์ ไลฟ์ หรือ ยูไลฟ์ (ULife) ในปี 2565 ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ดังนี้

– ULife ธุรกิจขายตรงยุคใหม่ ปรับคอนเซ็ปต์เป็น People Commerce เป็นการทำธุรกิจและช่องทางผ่าน “คน” โดยใช้คนสร้างเครือข่าย ได้แตกไลน์โมเดลธุรกิจเพิ่ม แบ่งเป็น “ปิ่นโต” ธุรกิจโมเดลใหม่สำหรับจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพแบบ Subscription และโมเดลธุรกิจ PROMPT เพื่อจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มพันธมิตรที่น่าสนใจผ่านช่องทางออนไลน์

– De Beste (เดอร์ เบสส์เต) ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เน้นจัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โซเชียลคอมเมิร์ซ และเปิดระบบตัวแทนออนไลน์ (Online Marketing)

ปีนี้ ULife วางแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 4 SKUs ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและความงาม ภายใต้แบรนด์ aviance และ beyonde ส่วน De Beste ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 SKUs ในหมวดสบู่ ผลิตภัณฑ์กันแดด และผลิตภัณฑ์บิวตี้ดีท็อกซ์

5. RS Pet All

ธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่เกิดจาก Passion ส่วนตัวของ “เฮียฮ้อ” ที่เลี้ยงสุนัขเหมือนลูก จึงเปิดตัวธุรกิจนี้ในปี 2565 ด้วยแบรนด์ Lifemate เริ่มด้วยอาหารสำหรับสุนัขและแมว จากนั้นขยายครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ประกอบด้วยโรงงานผลิตอาหารสัตว์ รีเทลสัตว์เลี้ยง สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงธุรกิจเวลเนสสำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อรับเทรนด์ Petconomy ที่กำลังเติบโต

6. R Alliance

ดูแลด้านการลงทุน ตามกลยุทธ์ M&A และ JV ปัจจุบันถือหุ้นใน “เชฎฐ์ เอเชีย” บริษัทบริหารหนี้สินครบวงจร ปีนี้ “เชฎฐ์ เอเชีย” เตรียม IPO ในช่วงไตรมาสแรก

ปีนี้ยังมีดีล M&A อีก 2-3 ดีล มูลค่าดีลละ 300-600 ล้านบาท เพื่อมาต่อยอดโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ให้แข็งแกร่ง

RS 2023 quote

ตลอด 4 ทศวรรษของ RS และการทำงานของเฮียฮ้อ ในวัย 60 ปี เจอคลื่นการเปลี่ยนแปลงถูก Disrupt มาตลอดเส้นทาง มาถึงวันนี้ทรานส์ฟอร์มองค์กรสำเร็จและกำลังก้าวสู่ความท้าทายใหม่กับวิชั่น 3 ปี สร้างมูลค่ากิจการ 100,000 ล้านบาท

“เฮียฮ้อ” ย้ำว่ามาจากการเป็นคนไม่ยอมแพ้ ไม่กลัวความล้มเหลว และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ ทำให้เมื่อล้มก็ลุกได้แล้วเรียนรู้ใหม่ ไม่หยุดคิดและฝัน ไม่ยึดกับสิ่งที่ประสบความสำเร็จ และมี Mindset เปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลาเพื่อหาโอกาสใหม่ๆ

อ่านเพิ่มเติม


แชร์ :

You may also like