สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาที่นำไปสู่ความท้าทายด้านภูมิศาสตร์กำลังส่งผลดีต่อไทยอีกครั้ง เมื่อมีรายงานว่า Sony Group ได้ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตกล้องดิจิทัลสำหรับส่งออกไปขายในตลาดสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปมายังประเทศไทยแล้ว
การย้ายฐานการผลิตดังกล่าวมีขึ้นเพื่อลดแรงกดดันและการพึ่งพิงการผลิตจากโรงงานในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเคยเป็นฐานการผลิตก่อนหน้านี้ให้กับกล้องดิจิทัลของ Sony โดย Sony ระบุด้วยว่า กล้องที่ผลิตในจีนนั้นจะขายในตลาดจีนเป็นหลัก ส่วนพื้นที่ที่ใช้ในการผลิตเดิมนั้นจะยังคงเก็บไว้ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ส่วนโรงงานในไทยจะผลิตกล้องเพื่อป้อนตลาดใหญ่ของ Sony อย่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปแทน
ทั้งนี้ มีข้อมูลจาก Euromonitor ระบุว่า Sony สามารถขายกล้องดิจิทัลตระกูล Alpha ซึ่งเป็นกล้องระดับบนของทางแบรนด์ได้ทั้งสิ้น 2.11 ล้านกล้องในปี 2022 โดยในจำนวนนี้เป็นกล้องที่ขายในจีนเพียง 150,000 กล้อง หรือไม่ถึง 10% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งเท่ากับว่า ฐานการผลิตที่ไทยนั้น จะครองส่วนแบ่งตลาดกล้องดิจิทัลระดับบนของ Sony ถึง 90% เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ทาง Sony ระบุด้วยว่า ยังคงให้ความสำคัญกับตลาดจีน และไม่มีแผนจะถอนตัวออกจากจีนแต่อย่างใด และในตอนนี้ Sony ยังคงผลิตสินค้าประเภท ทีวี เครื่องเล่นเกม และเลนส์กล้องในจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อส่งออกไปขายยังประเทศต่าง ๆ อยู่
ขณะที่แบรนด์จากแดนอาทิตย์อุทัยด้วยกันจะพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เช่น คู่แข่งอย่าง Canon นั้นพบว่า ในปี 2022 ได้ยกเลิกการผลิตกล้องในจีนแผ่นดินใหญ่ไปแล้ว และกลับไปผลิตกล้องในโรงงานประเทศญี่ปุ่นแทน
ปัจจุบัน Sony ครองอันดับสองในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดกล้องดิจิทัล โดยยอดขายของธุรกิจกล้องนั้นมีมูลค่า 414,800 ล้านเยน (ปี 2021) หรือคิดเป็น 20% ของยอดขายในธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดของบริษัท