WorkVenture เผยผลสำรวจ Top 50 Employers in Thailand 2023 หรือ 50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด ประจำปี 2566
โดยสำรวจออนไลน์คนอายุ 20-35 ปี ในกรุงเทพฯ จบการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป จำนวน 10,000 คน พบคนรุ่นใหม่เทคะแนนให้ “กูเกิล ประเทศไทย” เป็นเบอร์ 1 ครองแชมป์ 3 ปีซ้อน
10 อับดับแรกองค์กรคนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วย
1. Google : กูเกิล ประเทศไทย
ยืนหนึ่งติดต่อกัน 3 ปีซ้อน สำหรับบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง กูเกิล ที่มีการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เป็นหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ในประเทศไทยเองก็มีอัตราการแข่งขันเข้าทำงานสูง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกูเกิล ขึ้นชื่อในเรื่องความสนุกในการทำงาน มีความยืดหยุ่น มีโอกาสได้ทำงานกับเพื่อน ๆ จากทั่วทุกมุมโลก มีโอกาสได้พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว และยังมีสวัสดิการต่าง ๆ มากมาย เช่น การไปท่องเที่ยวต่างประเทศ คอร์สเรียนต่าง ๆ และกูเกิล ยังเปิดโอกาสให้พนักงานได้พูดคุยกับผู้บริหารระดับสูง ทำให้เกิดความรู้สึกใกล้ชิดและพิเศษมากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ ออฟฟิศของ กูเกิล ประเทศไทย ยังมีความสะดวกสบายไว้คอยให้บริการพนักงาน และสไตล์การตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่กูเกิล จะยังรักษาตำแหน่งสุดยอดบริษัทที่คนไทยรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดอันดับ 1 ในปีนี้
2. LINE : ไลน์
อีกหนึ่งบริษัทดาวรุ่งที่ขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 5 ในปีก่อนมาอยู่อันดับ 2 สำหรับไลน์ แอพพลิเคชัน ที่มีผู้ใช้งานในประเทศไทยมากถึง 50 ล้านคน ทุกคนคุ้นเคยกับไลน์เป็นอย่างดี ด้านการทำงานที่ไลน์ เปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับได้คุยกับผู้บริหารได้โดยง่าย พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้เพื่อรีเฟรชและเพิ่มไอเดียในการทำงาน
นอกจากนี้ ยังมีสวัสดิการอย่างอาหารเช้าและกลางวันฟรี มีห้องนอน ห้องนวด ห้องเล่นเกม มีวันหยุดประจำปีมากถึง 15 วัน มีวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ มีการต้อนรับพนักงานน้องใหม่เป็นอย่างดี และยังมีฝ่ายที่คอยดูแลความสุขของพนักงานอย่างจริงจัง ทั้งหมดนี้ทำให้ไลน์เป็นบริษัทที่มีผู้สมัครเข้ามาหลายพันคน และติดอันดับที่ 2 ที่อยู่ในดวงใจของคนทำงาน
3. SCG : ปูนซิเมนต์ไทย
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด หรือที่รู้จักกันในชื่อ เอสซีจี เป็นองค์กรเก่าแก่ยักษ์ใหญ่ของไทย และเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำในประเทศ และภูมิภาคอาเซียนที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 100 ปี ประสบความสำเร็จมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ มีชื่อเสียงเรื่องการดูแลพนักงานและสวัสดิการจนเรียกได้ว่าคนที่ยังเรียนไม่จบก็ต้องการจะฝึกงานที่นี่และได้ทำงานที่นี่
ปัจจุบัน เอสซีจี ปรับเวลาการทำงานให้ยืดหยุ่นโดยให้แผนกตัดสินใจเลือกเวลาการทำงาน หรือจะทำงานที่บ้านก็ได้
นอกจากนี้ เอสซีจียังใส่ใจเรื่องสุขภาพของพนักงาน โดยมีศูนย์ออกกำลังกายขนาดใหญ่ที่มีคลาสต่าง ๆ มีแพทย์มาตรวจสุขภาพให้ที่บริษัท มีสวัสดิการรักษาพยาบาลฟรีที่รวมไปถึงคนในครอบครัวด้วย มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสูงถึง 13% และยังมีสวัสดิการต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าเป็นการทำเลเซอร์ คอร์สเรียนระยะสั้น สิ่งเหล่านี้นับว่าสมคำร่ำลือที่ทำให้ผู้คนอยากทำงานที่ เอสซีจีจนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 ไปในปีนี้
4. PTT : ปตท.
อีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย ที่มีชื่อเสียงในด้านการเป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่ที่กำลังหางาน คือ ปตท. ปีนี้ก็ไม่พลาดที่จะติดอยู่ในชาร์ต แถมยังคงครองอันดับต้น ๆ ด้วย โดย ปตท. ได้ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานมานานกว่า 40 ปี ปัจจุบันมีกลุ่มธุรกิจที่แตกออกไปหลายแขนง ทำให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ มาร่วมกันทำงานเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมา ปตท. ได้ปรับเปลี่ยนองค์กร เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย และยังมีการดูแลพนักงานเป็นอย่างดี และมีสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมาย เช่น ค่ารักษาพยาบาล ประกันสุขภาพ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ปตท. ที่ให้มากขึ้นทุกปี
นอกจากนี้พนักงานยังสามารถนำค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียนรู้หรือพัฒนาตัวเองตามที่ต้องการมาเบิกได้ด้วย และยังมีเงินช่วยเหลือการศึกษาบุตร ส่วนลดค่าน้ำมันที่ช่วยให้พนักงานประหยัดไปได้มาก สวัสดิการ การเติบโต และความมั่นคง ที่มอบให้พนักงานอยู่เสมอ ทำให้ ปตท. รักษาตำแหน่งระดับท็อปในใจคนรุ่นใหม่ได้ไม่ยาก
5. Apple : แอปเปิ้ล
ผู้นำด้านมือถือระดับโลกพร้อมด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ มากมายที่ครองใจคนทั่วโลกทุกเจนเนอเรชัน จนทำให้ผู้คนต่างรอคอยการเปิดตัวเทคโนโลยีของแอปเปิ้ลในทุกปี ขณะเดียวกัน ผู้คนต่างก็ให้ความสนใจที่จะทำงานที่แอปเปิ้ลเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่แอปเปิ้ลกล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของ Apple อาจจะเป็นตัวบริษัท Apple เองก็ว่าได้” เพราะบริษัทแห่งนี้เป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ของคนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
แอปเปิ้ล ขึ้นชื่อเรื่องการใส่ใจพนักงาน ให้โอกาสได้แสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะทำงานในตำแหน่งใดก็มีโอกาสที่ความคิดของพนักงานจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลได้ และการทำงานของที่นี่ยังแบ่งตามความเชี่ยวชาญ มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับคนเก่งจริง ๆ
นอกจากนี้ ยังมีแผนคุ้มครองสุขภาพ มีโอกาสได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเมื่อเจ็บป่วย และได้รับเงินค่าคลาสออกกำลังกาย และยังสามารถหยุดงานแบบได้รับเงินค่าจ้างหากต้องการเวลาไปดูแลลูกที่เพิ่งคลอด หรือคนในครอบครัวที่ป่วยหนัก และพนักงานทุกคนยังมีโอกาสเป็นผู้ถือหุ้นแอปเปิ้ล และแอปเปิ้ลยังช่วยออมเพื่อให้มีเงินใช้หลังเกษียณ และนี่คือบริษัทที่คนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดอันดับที่ 5 ในประเทศไทย
6. Agoda : อโกด้า
สายท่องเที่ยวไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะ อโกด้า เป็นผู้ให้บริการสำรองห้องพักทางออนไลน์ และรับประกันราคาห้องพักที่ถูกที่สุด มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ และมีสำนักงานหลักอยู่หลายแห่งรวมถึงกรุงเทพฯ ด้วย อโกด้า เป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำงานกับชาวต่างชาติที่เก่งและมีความสามารถ การทำงานที่อโกด้าจึงช่วยเพิ่มความสามารถให้คนทำงานเติบโตได้อย่างรวดเร็ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ที่นี่มีผู้สมัครเข้าทำงานเป็นหลักแสนคน และยังเป็นบริษัทอันดับที่ 6 ที่คนรุ่นใหม่พูดถึงมากที่สุด
อโกด้า ยังให้พนักงาน Work from anywhere ได้นานถึง 30 วัน โดยจะทำงานที่บ้าน ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศก็ได้ และยังได้รับส่วนลดในการจองที่พักและการเดินทางต่าง ๆ มี Agoda Choice ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจพนักงาน โดยสามารถจัดสรรเงินได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคลาสออกกำลังกาย ตัดแว่นหรือจะไปนวด ทำสปา ก็ได้เช่นกัน และยังมีคอร์สเรียนที่จะช่วยพัฒนาความรู้ และมีส่วนลดร้านอาหารด้วย สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนทำให้อโกด้ากลายเป็นที่พูดถึงของคนทำงาน
7. Mitr Phol : กลุ่มมิตรผล
มิตรผล บริษัทผู้ผลิตน้ำตาลของคนไทยที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีโรงงานทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงต่างประเทศ นอกจากธุรกิจอ้อยและน้ำตาลแล้ว ยังมีธุรกิจอื่น ๆ อีก ที่จะทำให้พนักงานมีโอกาสเติบโตในสายงานได้อีกมาก รวมทั้งยังมีโอกาสได้ไปทำงานต่างประเทศด้วย มิตรผลยังมีชื่อเสียงด้านการทำงาน และได้รับรางวัลการันตีด้านการทำงานมากมายติดต่อกันหลายปี ซึ่งเป็นเครื่องหมายยืนยันถึงการเป็นหนึ่งในดวงใจของคนทำงาน
ออฟฟิศหลักของมิตรผลตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เดินทางสะดวกสบาย ส่วนโรงงานในต่างจังหวัดออกแบบมาให้รักษาสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืน พนักงานที่ประจำโรงงานมีสวัสดิการบ้านพัก และอาหารที่ช่วยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย เรียกได้ว่าดูแลพนักงานทุกระดับด้วยความตั้งใจจริง
8. Toyota Motor : โตโยต้า มอเตอร์
เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ไม่ได้มีชื่อเสียงในเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นเท่านั้น แต่โตโยต้า มอเตอร์ ยังเป็นแบรนด์นายจ้างที่ผู้คนใฝ่ฝันที่จะได้ร่วมงานด้วยในระดับต้น ๆ ด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นเอกลักษณ์ และสวัสดิการที่ดูแลพนักงานในทุกกลุ่ม ทำให้พนักงานมีความสุขจนอยากบอกต่อ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเดือนที่สูงกว่าที่อื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน และยังมีโบนัสประจำปีอีกหลายเดือนที่มอบให้พนักงาน
ปัจจุบัน โตโยต้า มอเตอร์ ปรับรูปแบบการทำงานให้มีความยืดหยุ่น และยังมีสวัสดิการช่วยเหลือด้านสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งพนักงานและคนในครอบครัว รวมไปถึงสวัสดิการอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ตัวเงินอีก เช่น สถานที่ออกกำลังกาย รถรับส่ง ห้องสมุด และส่วนลดในการซื้อรถและซ่อมบำรุง
9. ThaiBev : ไทยเบฟ
ไทยเบฟ เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงโดยมีฐานการผลิตทั้งในและต่างประเทศ นับเป็นองค์กรขนาดใหญ่ของไทยที่สร้างความภาคภูมิใจให้คนในประเทศ ไทยเบฟมีออฟฟิศหลักตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก และสวยงาม องค์กรแห่งนี้เชิดชูเรื่องการให้ “โอกาสไร้ขีดจำกัด” แก่พนักงานทุกคน โดยหวังว่าทุกคนจะเติบโตได้อย่างเต็มที่ภายใต้ศักยภาพที่ตนเองมี เพื่อให้คนเหล่านั้นพร้อมที่จะเติบโตและมอบโอกาสให้ผู้อื่นต่อไป ที่นี่มีการจัดสรรการฝึกอบรมเรื่องต่าง ๆ ให้พนักงานอย่างเหมาะสม สามารถเติบโตในสายอาชีพได้อย่างมั่นคง ได้รับค่าตอบแทนที่ยุติธรรม และยังมีการประเมินงานตามมาตรฐานสากล
10. BJC Big C : บีเจซี บิ๊กซี
มาแรงมากสำหรับกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี องค์กรที่ก่อตั้งมานานกว่า 140 ปี ผลิตและจำหน่ายสินค้าและบริการครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ปีนี้ไต่อันดับแบบก้าวกระโดดจากอันดับที่ 19 ในปีก่อนมาอยู่อันดับ 10
ปัจจัยที่ทำให้คนรุ่นใหม่เทใจให้บีเจซี บิ๊กซี คือการให้ความสำคัญกับพนักงานดั่งคนในครอบครัว และยกให้พนักงานเป็นหัวใจสำคัญของการทำงาน ที่นี่เน้นทำงานเป็นทีม เพื่อให้พนักงานมีโอกาสได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น และยังมีโอกาสที่จะย้ายไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีความยืดหยุ่นในการทำงาน มีแอปพลิเคชันสำหรับการลงเวลาเข้าออก ขอเพียงทำงานครบ 8 ชั่วโมงก็พอ มี Work From Anywhere ทุกวันศุกร์ พนักงานสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาพิเศษ และสามารถเติบโตในองค์กรสู่ตำแหน่งระดับสูงได้ ขอเพียงมีความกล้าที่จะพรีเซนต์ตัวเอง การทำงานในกลุ่มบริษัทบีเจซี บิ๊กซี มีความอบอุ่นเสมือนทำงานกับคนในครอบครัว สามารถสอบถามรุ่นพี่หรือหัวหน้าได้อย่างเป็นกันเอง ซึ่งนี่เป็นจุดแข็งของบีเจซี บิ๊กซี ที่ทำให้คนรุ่นใหม่สนใจ
ส่วนองค์กรที่ได้รับการโหวตเป็นลำดับที่ 11-50
11. ธนาคารกสิกรไทย 12. บางจาก 13. ยูนิลีเวอร์ 14. AIS 15. ธนาคารไทยพาณิชย์
16. บุญรอดบริวเวอรี่ 17. SC Asset 18. เซ็นทรัลกรุ๊ป 19. Lazada 20. Tesla
21. LINE MAN Wongnai 22. Shopee 23. ซีพีกรุ๊ป 24. Bitkub 25. Honda
26. กรุงศรี 27. Microsoft 28. แสนสิริ 29. Meta 30. TikTok
31. Netflix 32. ทรูคอร์ปอเรชั่น 33. BMW 34. โอสถสภา 35. Grab
36. Accenture 37. Lotus’s 38. PwC 39. KHOTKOOL 40. สหพัฒนพิบูล
41. เวิร์กพอยท์ 42. P&G 43. วัตสัน ประเทศไทย 44. ตรีเพชรอีซูซุ 45. ยูนิชาร์ม
46. Exxon Mobil 47. TOA 48. The Standard 49. PTG 50. KPMG
คุณเย็นส์ โพลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คเวนเจอร์ เทคโนโลจีส์ จำกัด กล่าวว่าการสำรวจ Top 50 Employers in Thailand เริ่มจัดมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งผลสำรวจได้รับการยอมรับจากผู้มีอำนาจตัดสินใจในองค์กร และคนทำงานออฟฟิศว่าเป็นการเสนอชื่อองค์กรที่น่าทำงานของคนรุ่นใหม่ที่น่าเชื่อถือที่สุด โดยมีผู้เข้าชมผลสำรวจถึง 15 ล้านครั้งในปี 2565 และปีนี้ยังเป็นปีแรกที่จัดให้มีการมอบรางวัลให้กับ 50 องค์กรที่ได้รับการโหวตด้วย
การสำรวจครั้งนี้ได้รับเสียงสะท้อน ซึ่งเป็นเหมือนสัญญาณความต้องการของคนรุ่นใหม่ต่อองค์กรนายจ้างในสองมิติ คือ Employment Experience หรือประสบการณ์ในการเข้าร่วมงานกับองค์กร ยิ่งผู้สมัคร หรือกลุ่มทาเลนท์มีความสามารถเป็นที่ต้องการขององค์กรมากเท่าใด
ปัจจัยที่จะเข้าร่วมงานจะประกอบด้วย
1. ตัวตนของนายจ้างในการรับรู้ของตลาดแรงงานและคนทำงานว่าเป็นอย่างไร
2. กระบวนการในการเข้าร่วมงานที่มากกว่าการสัมภาษณ์ หรือการเซ็นสัญญาจ้าง ซึ่งต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่การเข้าหา แรกพบ แนะนำ เชิญชวน ดึงดูด โน้มน้าว
3. การดูแลไปจนถึงช่วงปรับตัว ก้าวหน้า และเติบโตไปกับองค์กร ยิ่งมีความหมายต่อทาเลนท์มากเท่านั้น
อีกหนึ่งมิติคือ Employer Brand Exposure หรือความสามารถของแบรนด์นายจ้างในการเข้าหา เข้าถึง และเข้าใจกลุ่มทาเลนท์เป้าหมาย ผ่านกระบวนการสื่อสารอย่างมีกลยุทธ์ โดยผ่านการวิเคราะห์ ออกแบบ พัฒนาคอนเทนท์อย่างสร้างสรรค์ ตรงกับความสนใจของทาเลนท์ และส่งถึงพวกเขาผ่านช่องทางที่วัดความสำเร็จได้ คู่ขนานกันกับการรับรู้ภายในองค์กรตาม Employee Journey และภายนอกองค์กรตาม Candidate Journey เพื่อสะสมภาพจำ และสร้างความผูกพันกับแบรนด์