HomeReal Estate & Condoอสังหาฯ ฟื้นแล้ว ได้เวลา ‘อนันดา’ กลับมากำไร เข็นสต็อกคอนโดโกยยอดตลาดจีน

อสังหาฯ ฟื้นแล้ว ได้เวลา ‘อนันดา’ กลับมากำไร เข็นสต็อกคอนโดโกยยอดตลาดจีน

แชร์ :

ช่วง 3 ปีโควิด “อนันดา” เจ้าพ่อตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ต้องเจอกับภาวะ “ขาดทุน” ต่อเนื่อง เมื่อกำลังซื้อในประเทศหด ตลาดอินเตอร์ฯ หาย มาปี 2566 ชัดเจนว่าอสังหาฯ ฟื้นแล้ว  เตรียมขนสต็อกโครงการพร้อมอยู่กว่า 45,000 ล้านบาท กวาดรายได้ มั่นใจปีนี้ เทิร์นอะราวด์ กลับมาทำ “กำไร” ได้อีกครั้ง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

บิสซิเนส โมเดล ที่เป็นจุดแข็งของ “อนันดา” คือการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเมือง Urban Living Solutions พอร์ตโฟลิโอหลักจึงเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้า แต่สถานการณ์โควิด 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดนี้ชะลอตัวไปอย่างมาก

ก่อนโควิด อนันดา ทำยอดขายได้ปีละกว่า 10,000 ล้านบาท ปี 2563 ยอดขายลดลงเหลือ 4,886 ล้านบาท ขาดทุน 206 ล้านบาท, ปี 2564 ขาดทุน 457 ล้านบาท และปี 2565 (9 เดือนแรก) ขาดทุน 340 ล้านบาท

สิ่งที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ แก้ไขสถานการณ์ในช่วงโควิด ส่วนใหญ่ลดราคา เทขายสต็อกเพื่อดึงกระแสเงินสด (cash flow) เข้ามาสร้างสภาพคล่อง

อสังหาฯฟื้นได้เวลาระบายสต็อก

แต่ในมุมของ คุณชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เชื่อว่าเมื่อโควิดจบลง คอนโดในเมืองติดรถไฟฟ้ายังตอบโจทย์ จึงเลือกบาลานซ์พอร์ตฯ ขายโปรดักท์บางส่วนเพื่อให้ได้เงินสด และเก็บสต็อกที่อยู่อาศัยกลุ่ม Blue chip location ไว้ เพราะราคาที่ดินยังขยับเรื่อยๆ และเชื่อว่าคอนโดติดรถไฟฟ้ายังไปต่อได้

ปี 2566 ชัดเจนว่า อสังหาฯ กลับมาแล้ว อนันดาฯ จะใช้จังหวะนี้ “ขี่ยอดคลื่น” (Ride the wave) โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ (International Market) ที่กำลังมาแรงมาก ในกลุ่มนักธุรกิจ “จีน” จากนโยบายเปิดประเทศ จึงมีหลายกลุ่มกำลังเดินทางออกมาขยายธุรกิจและลงทุนนอกประเทศจำนวนมากในช่วง 6 เดือนจากนี้

โดยอนันดาฯ มีสินค้าพร้อมอยู่พร้อมโอน มูลค่า 45,000 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ารับรู้รายได้ 14,500 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีที่ผ่านมา และเป้าหมายยอดขาย 18,000 ล้านบาท

เข็นสต็อกคอนโดเจาะตลาดจีน

คุณประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปีนี้ดีมานด์ของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างชาติจะกลับมาแน่นอน อนันดาฯ มีสต็อกพร้อมโอนมูลค่า 45,000 ล้านบาท

โดยเป็นโครงการพร้อมอยู่ RTM (Ready to Move) จำนวน 28 โครงการ มูลค่า 34,880 ล้านบาท และโครงการที่จะสร้างเสร็จในปีนี้ อีก 3 โครงการ มูลค่า 10,012 ล้านบาท

เป้าหมายสำคัญในปีนี้คือ การเจาะตลาดต่างประเทศ ที่เริ่มกลับมาแล้วตั้งแต่ปลายปีก่อน หากดูสต็อกโครงการพร้อมอยู่ปีนี้ มีโควต้าลูกค้าต่างประเทศ (Foreign Quota) สูงถึง 34% หรือมูลค่า 15,500 ล้านบาท เป็นโควต้าที่ลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน เข้ามาซื้อและถือกรรมสิทธิ์คอนโดได้ตามกฎหมาย

“สต็อกที่อยู่อาศัยพร้อมโอน และคอนโดพร้อมอยู่กว่า 45,000 ล้านบาท เป็นโอกาสทำตลาดของ อนันดาฯ ในปีนี้ โดยเฉพาะคอนโดพร้อมอยู่ที่เหมาะกับตลาดจีนมากที่สุด และเรามีโควต้าคอนโดเหลือให้ต่างชาติซื้อมากที่สุดในตลาด”

การฟื้นตัวของตลาดต่างประเทศชัดเจนตั้งแต่เดือนมกราคม ปีนี้ ที่มีสัดส่วนยอดขายถึง 67% ขณะที่ตลาดในประเทศอยู่ที่ 33% โดยตลาดต่างประเทศหลักๆ คือ จีน ฮ่องกง เริ่มมีลูกค้ากลุ่มเศรษฐีจาก เมียนมา กัมพูชา เข้ามามากขึ้น เพราะกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลูกค้าต่างประเทศจึงมองหาที่อยู่อาศัยทั้งเข้ามาทำธุรกิจและเป็นบ้านหลังที่สอง

“ปีนี้ถือเป็น Timing ของเรา ที่มีสินค้ารองรับกำลังซื้อต่างชาติที่กลับมาชัดเจน จากการที่เก็บสต็อกไว้ ทำให้อัตราการทำกำไรขั้นต้น (Gross Profit) ปีนี้จะขยับขึ้นมาที่ 30% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 25% นั่นคือโอกาส อนันดาฯ จะกลับมาเทิร์นอะราวด์ ทำกำไรในปีนี้”

เปิดแฟลกชิพคอนโด อัลตร้าลักชัวรี่ สุขุมวิท 38

สำหรับโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวใน ไตรมาส 4 ปีนี้มี 2 โครงการ ระดับแฟลกชิพ มูลค่ากว่า 14,600 ล้านบาท

1. New Branded Residence บนทำเลสุขุมวิท 38 ซึ่งเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก (World Class Partner) ที่ถือจะเปิดตัวแบรนด์นี้ครั้งแรกในประเทศไทย โดยเป็นคอนโดมูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท เป็นคอนโดระดับ Super Ultra Luxury ราคาเริ่มต้น 250,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาต่อยูนิต 150-300 ล้านบาท เป็นการตอบโจทย์ดีมานด์กลุ่มลักชัวรี่ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง

2. โครงการ ไอดีโอ พหล – สะพานควาย ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานควาย มูลค่าโครงการ 8,100 ล้านบาท มากับ Design Concept ใหม่ห้อง Hybrid New Series เพื่อชีวิตคน GEN C และส่วนกลางแนวคิดใหม่ สำหรับโหมดของการใช้ชีวิต LIVE – WORK – PLAY – LEARN

ส่วนแผนลงทุนในอนาคต ปีนี้เตรียมซื้อที่ดินเพื่อลงทุน 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 21,200 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ 4 โครงการ มูลค่ารวม 7,200 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท และธุรกิจ Serviced Apartments จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท โดยทั้งหมดคาดว่าจะเป็นโครงการร่วมทุน (JV)

สำหรับธุรกิจ Serviced Apartment ปี 2566 เปิดให้บริการ 5 โครงการเรียบร้อยแล้ว คือ ซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9, แอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก, แอสคอทท์ เอ็มบาสซี สาทร, ไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก และซัมเมอร์เซ็ต พัทยา

ขยายธุรกิจใหม่เป็นที่ปรึกษาบริหารโครงการ

ปีนี้อนันดาฯ ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ในรูปแบบของ Ananda Professional Services and Management Consultancy หรือ APSMC เพื่อรับดำเนินงานบริหารและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบ Total Solutions

ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจาข้อตกลงขั้นสุดท้าย กับบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อบริหารและพัฒนาโครงการแรกบนทำเล สุขุมวิท 38 (ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีทองหล่อ) ซึ่งจะเป็นโครงการในรูปแบบ Mix Used ที่ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และ Food and Beverages โดยในอนาคตอันใกล้คาดว่าจะมีความร่วมมือในโครงการอื่นๆ ลักษณะเดียวกันนี้ทั้งกับทางแรบบิท โฮลดิ้งส์ และพันธมิตรรายอื่นๆ ต่อไป

นอกจากนี้อนันดาฯ ยังพัฒนาด้าน Tech Education จึงจัดตั้ง The Master Academy (TMA) เพื่อวัตถุประสงค์สร้างทักษะและเสริมความคิดในทางธุรกิจผนวกกับเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเริ่มจากการ Upskill และ Reskill

โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อเปิดตัวหลักสูตร The Data Master ทำหน้าที่ผลิตนักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูลหรือ Data Scientists ซึ่งปัจจุบันมีไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศ โดยในอนาคตมีแผนที่จะพัฒนาสู่หลักสูตรอื่นๆ เช่น Blockchain และ Cyber Security ร่วมกับมหาวิทยาลัยและบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเน้นการนำไปใช้ได้จริง รวมถึงความร่วมมือกับ Singularity University (SU) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

“จากสัญญาณบวกอสังหาฯ ปีนี้ รวมทั้งกำลังซื้อในประเทศและตลาดอินเตอร์ฯ กลับมาแล้ว ปีนี้การทำตลาดของเราจะ Sexy ในทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ที่อยู่อาศัย, เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ และธุรกิจใหม่ มั่นใจว่าทุกกลุ่มจะเห็นกำไรได้”


แชร์ :

You may also like