ปี 2566 ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้นชัดเจนหลังโควิด ทั้งจากเศรษฐกิจที่กำลังจะฟื้นตัวต่อเนื่อง มีแรงขับเคลื่อนหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และนโยบายการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐ ส่งผลดีต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้ “แอสเซทไวส์” เป็นอีกบิ๊กเนมที่ออกมาประกาศสร้างสถิตินิวไฮในปีนี้
แผนธุรกิจของ “แอสเซทไวส์” ในปี 2566 คุณกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิด 12 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 22,500 ล้านบาท นับว่าสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท 18 ปี เป็นคอนโด 9 โครงการ สัดส่วน 70% และแนวราบ 3 โครงการ สัดส่วน 30%
อีกตัวเลขสำคัญในปีนี้ คือเป้าหมายนิวไฮยอดขายกว่า 15,000 ล้านบาท และรับรู้รายได้ 7,200 ล้านบาท
เรือธงแคมปัสคอนโด เปิด KAVE 5 โครงการ
กลยุทธ์ของ แอสเซทไวส์ ในปีนี้กับการเปิดตัวคอนโด 9 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 15,830 ล้านบาท ภายใต้ 3 แบรนด์ คือ เคฟ (Kave), แอทโมซ (Atmoz) และโมดิซ (Modiz)
โดยมีเรือธง Campus Condo แบรนด์ Kave เน้นทำเลใกล้สถานศึกษา พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เช่น ห้อง E-sport, Co-working space, Game room, ห้องเวิร์กช้อป ได้เสียงตอบรับดีจากลูกค้าในทุกโครงการ เปิดไปแล้วกว่า 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 14,700 ล้านบาท ในทำเลใกล้มหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็น ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เปิดไปแล้ว 2 โครงการ, ม.กรุงเทพ รังสิต เปิดไปแล้ว 4 โครงการ , ม.มหิดล ศาลายา, ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน
ปี 2566 เตรียมเปิดตัวคอนโด Kave ใหม่อีก 5 โครงการ มูลค่า 8,980 ล้านบาท ในทำเลเดิมอย่าง ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต, ม.กรุงเทพ, มหิดล รวมทั้งทำเลใหม่ที่ ม.ราชมงคลธัญบุรี และ ม.บูรพา บางแสน
คอนโด Kave ราคาเฉลี่ย 1.19-1.79 ล้านบาท มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายชัดเจน คือ ผู้ปกครองนักศึกษามหาวิทยาลัย, ลูกค้าวัยเริ่มต้นทำงาน และกลุ่มนักลงทุนปล่อยเช่า แม้มีโครงการในทำเล ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต กว่า 2,000 ยูนิตแล้วก็ตาม แต่หากดูดีมานด์ในทำเลนี้ที่มีนักศึกษาและบุคลากรด้านการศึกษากว่า 45,000 คน ก็ยังมีโอกาสขยายโครงการได้อีก เช่นเดียวกับทำเล ม.กรุงเทพ รังสิต ที่ยังเปิดโครงการใหม่ได้ต่อเนื่อง
นอกจากกลุ่มผู้ปกครองนักศึกษา ซื้อให้ลูกพักอาศัยในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย 4 ปี ซึ่งราคาผ่อนไม่แตกต่างจากเช่าอพาร์ทเมนต์มากนัก แต่ได้เรื่องความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวกจากพื้นที่ส่วนกลาง คอนโด Kave ยังมีลูกค้ากลุ่มนักลงทุนซื้อปล่อยเช่า เป็นแฟนคลับ ตามซื้อในหลายโครงการเปิดใหม่ เพราะได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7-8% อย่าง คอนโดใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ ปล่อยเช่าเดือนละ 10,000 บาท ส่วน ม.กรุงเทพ เดือนละ 12,000 บาท
ร่วมทุน “โบทานิก้า” เจาะตลาดลักชัวรีแนวราบ
ส่วนโครงการแนวราบปี 2566 มี 3 โครงการ มูลค่ารวม 6,670 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (The Honor) ไพรเวทพูลวิลล่า ราคาหลังละ 40-60 ล้านบาท และแบรนด์ใหม่ ดิ อาร์เบอร์ (The Arbor) ราคา 9-12 ล้านบาท
ช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ร่วมทุนกับบริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในจังหวัดภูเก็ต ในโครงการโบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว (BOTANICA Grand Avenue) พูลวิลล่าลักชัวรีบนหาดบางเทา จังหวัดภูเก็ต เพื่อยายพอร์ตแนวราบระดับลักชัวรี มูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 178 ไร่ เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
ส่วนโครงการร่วมทุนพัฒนาคอนโดกับพันธมิตรญี่ปุ่น ในปีนี้ บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด ร่วมทุนในโครงการ Atmoz บางนา มูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท และ คอนโด Kave Seed Kaset มูลค่า 1,350 ล้านบาท
สำหรับพาร์ทเนอร์บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ จำกัด (Tokyo Tatemono) ร่วมทุนในโครงการ Atmoz อ่อนนุช มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท และยังจับมือร่วมทุนกับ บริษัท ไอดีล เรียล จำกัด ในโครงการ Kave Mutant ศาลายา มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท
“แอสเซทไวส์ มีพาร์ทเนอร์จากญี่ปุ่นหลายราย วิธีการเลือกร่วมทุนในโครงการคอนโด พาร์ทเนอร์จะเลือกจากทำเลที่รู้จักก่อน”
ขยายธุรกิจใหม่ Non-real estate
ไม่เพียงแต่ขยายธุรกิจอสังหาฯ เท่านั้น แอสเซทไวส์ ได้มองหาโอกาสในธุรกิจใหม่ ที่ไม่ใช่อสังหาฯ (Non-real estate) โดยด้านไลฟ์สไตล์เพื่อต่อยอดธุรกิจและกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ปีที่ผ่านมาได้เข้าซื้อหุ้น 41.18% ในบริษัท แซ๊ป เวิลด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด หรือ ZAAP World ผู้ดำเนินธุรกิจ Lifestyle & Entertainment ครบวงจร ด้านคอนเสิร์ต เฟสติวัล และอีเวนท์ ซึ่งจะมาช่วยต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์อสังหาฯของ แอสเซทไวส์ สู่การเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกด้าน
ในแต่ละปีได้เตรียมงบลงทุนไว้ปีละ 400 ล้านบาท สำหรับร่วมทุนหรือซื้อกิจการ (JV หรือ M&A) ในธุรกิจใหม่ๆ ปีนี้สนใจลงทุนในธุรกิจด้านการดูแลและฟื้นฟูสุขภาพ ที่เป็นเมกะเทรนด์ และมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก หลังจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ
อ่านเพิ่มเติม