สะเทือนตลาดเบียร์สองเแสนล้านบาทอีกระลอก หลังบิ๊กเนมตลาดเบียร์เมืองไทย “ไฮเนเก้น-ช้าง-ลีโอ” ทยอยปรับขึ้นราคาขายใหม่ ตลอดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เหตุเจอวิกฤตต้นทุนลากยาวต่อเนื่องทำให้ไม่สามารถตรึงราคาได้ต่อไป
BrandBuffet สำรวจราคาขายปลีกใหม่ของตลาดเบียร์ยี่ห้อต่างๆ ในช่องทางร้านค้าปลีก-ส่ง พบว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมาร้านค้าได้ประกาศปรับราคาเบียร์ “ไฮเนเก้น” ขนาดต่างๆ ในช่องทางร้ายยี่ปั๊ว โดยมีผลตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ต้นทุนร้านค้าขนาดเล็กปรับขึ้นตามไปด้วย ได้แก่
- ขวดใหญ่ ปรับราคาขายขึ้นมา 20 บาท หรืออยู่ที่ราคา 870 บาทต่อลัง จากเดิมราคา 850 บาทต่อลัง
- ขวดเล็ก ปรับราคาขายขึ้นมา 50 บาท หรืออยู่ที่ราคา 1,080 บาทต่อลัง จากเดิมราคา 1,030 บาทต่อลัง
- แคนสลิม ปรับราคาขายขึ้นมา 20 บาทต่อลัง หรืออยู่ที่ราคา 1,050 บาทต่อลัง จากเดิมราคา 1,030 บาทต่อลัง
- แคนใหญ่ ปรับราคาขายขึ้นมา 10 บาทต่อลัง หรืออยู่ที่ราคา 750 บาทต่อลัง จากเดิมราคา 740 บาทต่อลั
- เบียร์สด ปรับราคาขายขึ้นมา 300 บาท หรืออยู่ที่ราคา 3,900 บาท จากเดิมราคา 3,600 บาท
ผลของการปรับขึ้นดังกล่าวจะทำให้ราคาจำหน่าย “ไฮเนเก้น” ในร้านค้าขนาดย่อย (ร้านซาปั๊ว) มีการปรับขึ้นราคาเฉลี่ย 1-2 บาท โดยเฉพาะในขวดใหญ่ ขนาด 870 มล. ที่จากเดิมจำหน่ายราคา 79-80 บาท ปรับเป็น 80-81 บาท เป็นต้น
แหล่งข่าวร้านค้าส่งรายใหญ่แห่งหนึ่งระบุว่า การปรับขึ้นราคาเบียร์ของยักษ์ใหญ่ดังกล่าว นอกจากจะเป็นเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้นแล้ว ยังเป็นการปรับราคารับกับสถานการณ์ช่วงหน้าขาย (ไฮซีซั่น) ในช่วงฤดูร้อน หรือเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ หลังที่ผ่านมาผู้เล่นหลายรายพยายามตรึงราคามานาน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งเมื่อทุกอย่างเริ่มคลี่คลายในทางดีที่ผู้ประกอบการจึงกล้าที่จะปรับราคาหลังตรึงมานาน
สำหรับการขึ้นราคาของ “ไฮเนเก้น” ครั้งนี้ ถือเป็นการปรับราคาครั้งที่ 2 หลังจากมีนาคม 2565 ผ่านมา บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น ได้มีการการแจ้งปรับราคาไปยังคู่ค้าต่าง ๆ เฉลี่ย 48-92 บาทต่อลัง (แล้วแต่บรรจุภัณฑ์) ไปก่อนหน้า โดยเป็นผลพวงมาจากราคาวัตถุดิบและขวดแก้วที่มีการขึ้นราคา
ช้าง 25 ปี จ่อปรับขึ้นราคาอีกระลอก ก.พ.นี้
เช่นเดียวกับเบียร์ “ช้าง” ก่อนหน้าได้มีการประกาศปรับราคาช้างขวดแก้วและแบบกระป๋องสั้นขึ้นมาที่ 1 บาทต่อกระป๋อง ส่วนกระป๋องยาวยังราคาเดิม จาก 735 เป็น 762 บาท
ล่าสุดร้านค้าแห่งหนึ่งก็ได้รับแจ้งจากเอเย่นต์จำหน่ายเบียร์ช้างว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ อาจจะมีการปรับขึ้นราคาเบียร์ช้าง (ช้าง25 ปี) อีกระลอกในเดือนนี้เช่นกัน เบื้องต้นยังไม่สามารถแจ้งราคาที่จะปรับขึ้นอย่างเป็นทางการได้ แต่เป็นการแจ้งเพื่อให้เตรียมตัวรับมือกับต้นทุนของร้านที่อาจจะสูงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อราคาขายหน้าร้าน
อย่างไรก็ตามปัจจุบันเบียร์ช้าง 25 ปี (ราคาขายปลีก) แบบขวดแก้ว 620 มล. จำหน่ายอยู่ที่ราคา 60 บาทต่อขวด (ช่องทางร้านค้าทั่วไป) ขณะที่แบบกระป๋อง ขนาด 490 มล.จำหน่ายที่ราคา 54 บาทต่อกระป๋อง
ลีโอขวด ขึ้นราคาหลังอ่วมต้นทุน 2 ปี
เช่นเดียวกับเบียร์ “ลีโอ” ที่มีการปรับขึ้นราคามาก่อนหน้าตั้งแต่ 16 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา โดยเบียร์ลีโอขวดใหญ่ ปรับขึ้นราคา 18 บาทต่อลัง โดยปัจจุบันเบียร์ลีโอขวดแก้วใหญ่ ขนาด 620 มล. ปัจจุบันจำหน่ายราคา 644 บาทต่อลัง หรือปรับขึ้นเฉลี่ย 1.50 บาท/ขวด,ขวดแก้วเล็ก ขนาด 320 มล. ปรับขึ้นราคา 24 บาทต่อลัง โดยจำหน่ายอยู่ที่ราคา 792 บาทต่อลัง หรือหากคิดคร่าวๆก็มีการปรับขึ้นราคาเฉลี่ย 1 บาทต่อขวด
ขณะที่เบียร์ลีโอแบบกระป๋องยังคงเป็นการยืนพื้นราคาเดิม หลังจากมีการประกาศปรับขึ้นราคาไปเมื่อ กลางปี 2565 ที่ผ่านมา
โดยแหล่งข่าวจากวงการค้าปลีกรายหนึ่ง ระบุว่า การปรับขึ้นราคาเบียร์ลีโอแบบขวดครั้งนี้ เป็นผลกระทบจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยการปรับขึ้นราคาในครั้งนี้เป็นการปรับขึ้นหลังมีการตรึงราคาขายมานาน และเป็นไปตามช่วงไฮซีซั่นของหน้าขาย ซึ่งอยู่ในรูปแบบขวดแก้วทั้งขวดเล็กและขวดใหญ่ โดยเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ก็เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบขวดแก้ว โดยเฉพาะขวดแก้วขนาดเล็ก ส่วนใหญ่จะเน้นจำหน่ายในช่องทางร้านอาหาร ผับ บาร์ (ออนพรีมิส) ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นเหล่านักเที่ยว หรือในสถานที่ๆ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น จึงเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมตลาดมากนัก
คงต้องจับตาทิศทางตลาดเบียร์เมืองไทย หลังต้องเผชิญวิกฤตต้นทุนและการระบาดของโควิด-19 ว่าจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร และการปรับราคาจะส่งผลกระทบต่อตลาดที่กำลังจะกลับมาสดใสอีกครั้งมากน้อยเพียงใด
อ่านเพิ่มเติม