เมื่อพูดถึงการช้อปปิ้งออนไลน์วันนี้เรียกได้ว่าเป็นพฤติกรรมที่ทุกคนคุ้นชิน จนดันให้ตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยรายงานจาก TIDIO ระบุว่ายอดขายในตลาดทั่วโลกมีมูลค่าถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2022 และคาดว่าจะโตขึ้นเป็น 13.6 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2027
ขณะเดียวกันในประเทศไทยที่การช้อปปิ้งออนไลน์เติบโตแบบฉุดไม่อยู่ โดยหนึ่งในนั้นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือ LINE SHOPPING ที่ปัจจุบันมีร้านค้ามากกว่า 510,000 ร้านค้าที่ได้รับความนิยมทั้งหมวด แฟชั่น สุขภาพ ความงาม และอาหาร ท่ามกลางการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ทำให้หลายคนได้ผันตัวเข้าสู่การเป็นพ่อค้าแม่ค้า
ข้อมูลจาก LINE SHOPPING พบว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออายุ 20-29 ปี ที่ให้ความสนใจในสุขภาพและความงาม โดยเป็นผู้หญิงถึง 78% แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มสามารถตอบสนองความต้องการของนักช้อปรุ่นใหม่ที่มองหาความแตกต่างของสินค้าและประสบการณ์ในการช้อป โดยหมวดที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา คือ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงหมวด Home&Living ที่เติบโตสูงสุดจากการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 222% แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงและความนิยมของแพลตฟอร์มที่ชัดเจน
ช้อปแบบใหม่ ต่อยอดธุรกิจการขาย ภายใต้คอนเซปต์ “RelationSHOP”
LINE SHOPPING เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มการช้อปปิ้งที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากที่นอกจากการเป็นแหล่งรวมร้านค้าโซเชียลที่หลากหลายแล้ว ยังเป็นแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่อยู่บน LINE Ecosystem ที่มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 53 ล้านคน ซึ่งได้สร้างความสะดวกสบายให้กับการช้อปปิ้งออนไลน์ครบจบง่าย ๆ บน LINE ในทุกขั้นตอนโดยเฉพาะนักขาย
ล่าสุดการนิยามการช้อปปิ้งแบบใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “RelationSHOP” กระชับมิตรความสัมพันธ์ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เอาใจลูกค้าขาช้อปทั้งสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบใหม่ พร้อมทั้งยังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับร้านค้าโซเชียลในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างหลากหลายมากขึ้น กับฟีเจอร์อย่าง SEND GIFT หรือ“ส่งของขวัญ”
ถ้าใครเคยช้อปแล้วเจอของที่เหมาะกับเพื่อน หรือคนรู้จัก อยากส่งไปเซอร์ไพรส์แต่ไม่อยากขอที่อยู่เพื่อนให้วุ่นวาย ฟีเจอร์นี้สามารถช่วยคุณได้ เพียงแค่เลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าโซเชียลบน LINE SHOPPING โดยมองหาไอคอนรูปกล่องของขวัญ เพียงเท่านี้ก็สามารถส่งเป็นของขวัญให้เพื่อนใน LINE ได้อย่างง่ายดายในทุกช่วงเวลาและทุกโอกาสแม้ไม่ทราบที่อยู่ผู้รับก็ตาม โดยผู้รับสามารถกรอกที่อยู่เพื่อรับของได้ด้วยตนเอง
เรียกได้ว่านอกจากจะได้สร้างความประทับใจให้กับเพื่อนได้แบบเนียนๆ แล้ว ยังลดปัญหาความยุ่งยากในการเดินทางหรือการจัดส่งของขวัญอีกด้วย ขณะเดียวกันฟีเจอร์นี้ช่วยให้ “ร้านค้า” หรือ “เจ้าของแบรนด์” สามารถขยายฐานตลาดไปยังกลุ่มใหม่ๆ ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้อย่างพอเหมาะพอดี
ตั้งแต่ฟีเจอร์ SEND GIFT เปิดให้บริการ พบว่า กว่า 90% ของออเดอร์ Gift ที่ร้านค้าได้รับ ล้วนมาจากลูกค้าใหม่ทั้งสิ้น รวมถึงกลุ่มที่เข้ามากดติดตาม LINE Official Account ของร้านค้า ส่วนมากเป็นกลุ่มลูกค้า เป็นการยืนยันว่าฟีเจอร์ SEND GIFT เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ได้ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ที่มีความสนใจในสินค้าได้ถูกกลุ่มเป้าหมาย
จากสถิติพบว่า 5 หมวดประเภทสินค้าที่ได้รับการออเดอร์ผ่านฟีเจอร์ SEND GIFT มากที่สุดอยู่ในกลุ่มอาหาร, แฟชั่น, สุขภาพและความงาม, ของตกแต่งบ้าน และสินค้าสำหรับแม่และเด็ก เป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมและเป็นกลุ่มที่ลูกค้าเลือกส่งเป็นของขวัญให้กับคนใกล้ชิดมากที่สุด โดยเฉพาะช่วงเทศกาล เช่น วันคริสต์มาสที่ผ่านมา มีการส่งของขวัญให้กันสูงสุดถึง 15 ออเดอร์ต่อคน หรือ วันวาเลนไทน์ ลูกค้าเข้ามาส่งของขวัญให้กันมากขึ้นประมาณ 310% จากค่าเฉลี่ยปกติ และออเดอร์พุ่งขึ้นเกือบ 5 เท่าในวันนั้น เรียกได้ว่าเป็นการเปิดโอกาสต่อยอดให้กับเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ไม่ควรพลาด
เห็นได้ชัดว่าฟีเจอร์ SEND GIFT เป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจอีกรูปแบบที่น่าสนใจให้กับร้านค้าบน LINE SHOPPING ไม่เพียงเข้าถึงผู้บริโภคได้จำนวนมหาศาลผ่านแพลตฟอร์ม LINE แล้วยังเพิ่มโอกาสการขายให้ร้านค้าอีกด้วย ส่วนผู้บริโภคเองก็ซื้อของขวัญให้คนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้นเช่นกัน นับเป็นเรื่องที่ Win-Win ทุกฝ่าย