นอกจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว อีกหนึ่งประเทศที่เราได้เห็นผู้สูงอายุยังคงทำงานอยู่อาจเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง “สิงคโปร์” หลังมีการเปิดสถิติการจ้างงานในปี 2022 ที่ผ่านมา และพบว่า 70.6% ของชาวสิงคโปร์ที่มีอายุระหว่าง 55 – 64 ปีนั้น ยังคง “ต้องทำงาน”
สำหรับสถานการณ์การจ้างงานผู้สูงอายุในสิงคโปร์พบว่าเกิดขึ้นในหลายช่วงวัย ตั้งแต่กลุ่มอายุ 55 – 64 ปี ไปจนถึงกลุ่มที่มีอายุ 65 – 69 ปีเลยทีเดียว โดยข้อมูลจากปี 2022 พบว่า คุณตาคุณยายที่อายุ 65 – 69 ปี และยังคงมีงานทำนั้น มีมากถึง 47.5% (เพิ่มขึ้นจากปี 2019 มา 3%) ส่วนชาวสิงคโปร์ที่มีอายุระหว่าง 55 – 64 ปีและยังคงมีงานทำนั้นก็มีสูงถึง 70.6% เลยทีเดียว (เพิ่มขึ้นจากปี 2019 ราว 3%)
ด้วยเหตุนี้ Tan See Leng รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของสิงคโปร์จึงได้มีการปรับนโยบายหลายด้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งนายจ้างและลูกจ้างสูงอายุดังกล่าว เช่น การขยายโครงการเงินอุดหนุนการจ้างงานผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2023 ถึง 2025 สำหรับนายจ้างที่จ้างผู้สูงอายุชาวสิงคโปร์ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) มากถึง 4,000 เหรียญสิงคโปร์ต่อเดือน โดยทางการสิงคโปร์มองว่า นโยบายดังกล่าวจะช่วยลดภาระนายจ้าง และทำให้เกิดการจ้างงานผู้สูงอายุได้ต่อไป
ขณะที่ข้อมูลในเดือนสิงหาคม 2022 พบว่า มีการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือสำหรับการจ้างงานผู้สูงอายุในสิงคโปร์ไปแล้วกว่า 450 ล้านเหรียญ ซึ่งเงินเหล่านี้ ทางสื่อสิงคโปร์อย่าง The Straitstimes ระบุว่า ได้ถูกส่งต่อไปยังผู้สูงอายุกว่า 460,000 ราย และนายจ้างราว 100,000 รายเรียบร้อยแล้ว
ส่วนการจ้างงานผู้สูงอายุแบบพาร์ทไทม์ก็มีการปรับกฎเกณฑ์ และค่าตอบแทนด้วยเช่นกัน โดยนายจ้างที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลมากถึง 125,000 เหรียญสิงคโปร์ต่อการจ้างงานผู้สูงอายุหนึ่งคน