HomePR NewsDeeMoney สุดยอดฟินเทคไทย ผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศอันดับ 1 ของไทย ชูกลยุทธ์ โอนดี (เรทดี ไวดี ง่ายดี) มัดใจลูกค้า [PR]

DeeMoney สุดยอดฟินเทคไทย ผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศอันดับ 1 ของไทย ชูกลยุทธ์ โอนดี (เรทดี ไวดี ง่ายดี) มัดใจลูกค้า [PR]

แชร์ :

บริษัท สวัสดีช้อป จำกัด หรือ ‘DeeMoney (ดีมันนี่)’ ปัจจุบันให้บริการลูกค้าทั้งกลุ่มบุคคลธรรมดาผ่านแอปพลิเคชัน ‘DeeMoney Neo’ บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และกลุ่มนิติบุคคลผ่านบริการ DeeBusiness Portal ซึ่งสามารถทำรายการได้ทันทีหลังจากผ่านขั้นตอนการลงทะเบียนเป็นลูกค้าแล้ว DeeMoney มีจุดแข็งหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

เรทดี ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี และคิดค่าธรรมเนียมการทำรายการคงที่ โดยการโอนเงินออกไปต่างประเทศ มีค่าบริการอยู่ที่ 125 บาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าบริการของคู่แข่งรายอื่นทาง DeeMoney คิดค่าบริการในราคาที่ดีกว่า

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ไวดี โดยการันตีระยะเวลาที่เงินจะเข้าบัญชีปลายทางภายใน 1 วันทำการ เมื่อมีการโอนเงินออกไปยังประเทศส่วนใหญ่ที่ให้บริการ

ง่ายดี สามารถโอนเงินออกได้ตั้งแต่ธุรกรรมขนาดเล็กเริ่มต้นที่ 1,000 บาทต่อรายการ ไปจนถึงสูงสุด 800,000 บาทต่อรายการต่อวัน โดยปัจจุบันสามารถโอนเงินออกไปได้มากถึง 43 ประเทศทั่วโลก และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

คุณอัศวิน พละพงศ์พานิช ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DeeMoney เปิดเผยจากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการ FinTech ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อภาคการเงินไทยภายใต้แนวทางและนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และกำลังก้าวขึ้นสู่ระดับโลกว่า ‘โลกดิจิทัลหลังโควิด ทุกอย่างกำลังฟื้นตัวในทุกภาคอุตสาหกรรม สอดคล้องกับการที่มีผู้เชี่ยวชาญได้เปิดเผยถึงแนวโน้มการเติบโต รวมทั้งแนวโน้มของธุรกิจด้านการเงินและธุรกรรมออนไลน์ก็จะเติบโตตามกระแสเศรษฐกิจโลกที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะในภาคพื้นเอเชีย ซึ่งในปีนี้มีนัยยะสำคัญที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาเผยถึงหลักการ 3 Open ได้แก่

1. Open Competition เปิดกว้างให้มีการแข่งขันอย่างเสรี เมื่อมีผู้เล่นมากขึ้นจะก่อให้เกิดความหลากหลายสามารถต่อยอดและตอบโจทย์ผู้รับบริการได้มากขึ้น ส่งผลให้ FinTech อย่าง DeeMoney สามารถพัฒนานวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ ที่มีความปลอดภัย นำไปใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น และเมื่อผู้รับบริการมีทางเลือกที่หลากหลาย ย่อมส่งผลต่อการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมของไทยให้ดีขึ้นในอนาคต

2. Open Infrastructure เปิดกว้างให้ผู้เล่นต่าง ๆ เข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้วยต้นทุนที่เหมาะสมและมีความเท่าเทียมกัน

3. Open Data เปิดกว้างให้มีการใช้ประโยชน์จากข้อมูล โดย DeeMoney มีจุดยืนที่ชัดเจนในฐานะเป็น FinTech ของไทยที่พร้อมจะสนับสนุนและผลักดันระบบการบริการด้านการเงินของไทย ซึ่งที่ผ่านมาเราทำกันอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้บุกเบิกโซลูชันใหม่ ๆ นับตั้งแต่ปี 2561 ที่เราได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะให้บริการทางการเงิน การโอนเงินระหว่างประเทศด้วยราคาที่เหมาะสม ชอบธรรม สอดคล้องกับธนาคารโลก’

จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทยและจากข้อมูลอัจฉริยะของ DeeMoney ทางคุณอัศวิน มั่นใจว่า DeeMoney จะเป็นผู้ให้บริการเอกชนที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมการเงินของไทยอย่างแน่นอน

ด้าน คุณรัศเมฆ ศรีเศรษฐี ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ เสริมต่อว่า ‘DeeMoney เติบโตขึ้นอย่างมากในการให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศทั้งขาเข้าและขาออก จนกลายมาเป็นบริษัทชั้นนำของอุตสาหกรรม โดยในปี 2565 DeeMoney ประสบความสำเร็จในการเพิ่มฐานลูกค้าผู้ใช้บริการ เราโตขึ้นถึง 60% ของมูลค่าการโอนเงินออกจากประเทศไทย โดยมีจำนวนการทำธุรกรรมมากกว่า 3,000,000 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวมมากกว่า 50,000 ล้านบาท ในขณะที่การโอนเงินเข้ามาที่ประเทศไทย เรามีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงมากกว่า 10%

สำหรับปี 2566 DeeMoney ปักหมุดวางแผนขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ ดังนี้

ขับเคลื่อน DeeMoney ด้วยการวางแบรนด์คอนเซปต์สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้สอดคล้องกับการพัฒนาแพลตฟอร์ม มุ่งเน้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องต้นทุนทางการเงิน (Financial Literacy) และสร้างประสบการณ์ที่ดี (Customer Experience) ให้แก่ลูกค้าด้วยคอนเซปต์ ‘โอนดี’ หรือ ‘Owndee’ ผ่าน 3 USPs ที่สำคัญคือ เรทดี ไวดี และง่ายดี

เพิ่มบริการอื่นๆ นอกเหนือจากบริการโอนเงินระหว่างประเทศ เพื่อต่อยอดสู่การเป็น NeoBank อันดับ 1 ของประเทศไทย โดย DeeMoney ตั้งเป้าชัดว่าในปี 2566 เราพร้อมรุกสู่การเป็นอันดับ 1 ผู้ให้บริการด้านการโอนเงินระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านมูลค่า ประสบการณ์ในการใช้บริการ และการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินแบบไร้พรมแดนของบุคคลธรรมดาและผู้ประกอบการอย่างแท้จริง’


แชร์ :

You may also like