HomeBrand Move !!SC เปิดตัวบ้านลักชัวรี่ 100 ล้าน แบรนด์ 95E1 จับกลุ่มลูกค้ายุคนี้ประสบความสำเร็จเร็ว วางเป้า 5 ปีรายได้ 1.5 แสนล้าน   

SC เปิดตัวบ้านลักชัวรี่ 100 ล้าน แบรนด์ 95E1 จับกลุ่มลูกค้ายุคนี้ประสบความสำเร็จเร็ว วางเป้า 5 ปีรายได้ 1.5 แสนล้าน   

แชร์ :

ตลอดช่วง 3 ปีโควิด เป็นเวลาที่ไม่ง่ายสำหรับหลายๆ ธุรกิจ แต่ SC Asset สร้างสถิติใหม่ในตลาดที่อยู่อาศัย ตลอดระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งรายได้ กำไร สถานการณ์การเงินและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เรียกได้ว่าเป็นช่วงวิกฤติที่กลายเป็นโอกาสของ SC ที่ทำให้องค์กรเติบโตมากขึ้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เมื่อโควิดคลี่คลายแล้ว คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC  ได้วางยุทธศาสตร์อีก 5 ปีจากนี้ (2566-2570) กับโรดแมป SC Thriving Beyond ตั้งเป้ารายได้ 5 ปี รวมมูลค่า 150,000 ล้านบาท มาจากกลุ่มที่อยู่อาศัย 80% และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ทั้ง ออฟฟิศ โรงแรม คลังสินค้า 20%

ปี 2566 เรายังอยู่ในโหมดการลงทุนอย่างดุดันที่มูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท สัดส่วน 80% ลงทุนที่อยู่อาศัยเพื่อขาย และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ 20% จะลงทุนระดับนี้ต่อเนื่องไปอีก 5 ปี หรือมูลค่ารวม 130,000 ล้านบาท

สำหรับปี 2566 SC มองว่าเป็นปีที่ดีขึ้นของตลาดอสังหาฯ หลังเจอโควิดมา 3 ปี แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยเติบโตทุกเซกเมนต์ ทั้งซัพพลายและดีมานด์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแมส คอนโด บ้านลักชัวรี่ โดยมีปัจจัยบวกกำลังซื้อต่างชาติกลับมาแล้ว

ปีนี้จะสร้างสถิติใหม่อีกครั้ง ด้วยยอดขาย 30,000 ล้านบาท เติบโต 23% และรายได้ 25,000 ล้านบาท เติบโต 16% มาจากที่อยู่อาศัย 95% และธุรกิจสร้างรายได้ประจำ 5%

กลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัยทั้ง “บ้านและคอนโด” ปี 2566 มีแผนการเปิดโครงการใหม่ 25 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท ทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑล 

กลุ่มแนวราบ ปีนี้เปิดใหม่ 22 โครงการ รวมมูลค่า 30,000 ล้านบาท

ส่งแบรนด์  “95E1” เจาะตลาดบ้านลักชัวรี่ 100 ล้าน 

โครงการไฮไลต์ คือ บ้านลักชัวรี่ (Luxury Home) ปีนี้เป็นปีแรกที่เปิดตัวบ้านเดี่ยวราคากว่า 100 ล้านบาท ด้วยแบรนด์ใหม่  “95E1” (ไนน์-ตี้-ไฟว์-อีสต์-วัน) ในเซกเมนต์ Ultimate Luxury ราคาเริ่มต้น 100 ล้านบาท สูงสุดที่เคยเปิดขายมา มีไปถึงราคาสูงสุด 150 ล้านบาท  ทำเลแรกเลียบทางด่วนรามอินทรา มูลค่าโครงการ 970 ล้านบาท จำนวน 10 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 800 ตารางเมตร  5 ห้อง ทั้งห้องนอนและห้องกิจกรรม

บ้านลักชัวรี เป็นตลาดไม่ใหญ่แต่กำลังซื้อแข็งแรงมาก เป็นกลุ่มลูกค้าเจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเร็ว  ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้มองงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญเท่ากับบ้านต้องตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต 

ดังนั้นวิธีคิดการทำแบรนด์  “95E1” จึงต้องเลือกทำเลที่ดีและดีไซน์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า จึงได้ทำ Co-creation กับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อออกแบบฟังก์ชั่นการใช้พื้นที่ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ลูกค้ากลุ่มนี้

อินไซต์ของลูกค้าลักชัวรี่ ต้องการพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ เพราะเป็นนักสะสมของมีค่า มีกิจกรรมหลากหลาย จึงต้องการพื้นที่ส่วนตัว พื้นที่สังสรรค์กับเพื่อนที่บ้าน  อย่างกลุ่มที่สะสมรถหรู  ก็ต้องการพื้นที่ที่มีระบบปรับอากาศสำหรับห้องเก็บรถยนต์ และสามารถใช้เป็นพื้นที่สังสรรค์กับเพื่อน เพื่อดูรถยนต์ได้ด้วย  บางคนสะสมนาฬิกา สะสมไวน์  ก็ต้องการห้องเก็บของที่เป็นห้องโชว์ไปในตัว เพื่อพูดคุยสังสรรค์กับเพื่อนและคุยเรื่องของสะสม

“ตลาดบ้านลักชัวรี่ 100 ล้าน ซัพพลายยังมีไม่มาก แต่ไม่ใช่ว่าทุกแบรนด์จะทำได้ เพราะขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของลูกค้า วันนี้ SC สร้างความเชื่อมั่นในจุดนี้ได้แล้วด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เพียงพอที่จะไปทำตลาดบ้านหรู 100 ล้าน เปรียบเป็นลีกสูงสุดของกลุ่มบ้านลักชัวรี่” 

ในช่วง 3 ปีนี้จะมีแบรนด์ 95E1 บ้านหรู 100 ล้านบาท 3 โครงการ

เปิดตัว “บ้านเกมเมอร์” 

หลังจากเปิดตัว “บ้านคนโสด” ในปีที่ผ่านและได้ผลตอบรับดี  ปีนี้ SC พัฒนาบ้านที่ออกแบบเพื่อไลฟ์สไตล์ที่มีความเฉพาะบุคคลต่อเนื่อง โดยมองว่าอาชีพที่กำลังมาแรง คือ Content Creator และ เกมเมอร์ โดย Co-Creation กับคนกลุ่มนี้ เพื่อศึกษาความต้องการให้พื้นที่และออกแบบฟังก์ชั่นให้เหมาะสม

ด้วยการเปิดตัว “บ้านเกมเมอร์” (Gamer’s Home) บ้านที่ร่วมออกแบบโดยเกมเมอร์ชื่อดัง Willcomeback และ MNJ TV เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในสายอาชีพใหม่มาแรง อย่าง Streamer หรือ Content Creator ทั้งหลาย

เตรียมเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่โครงการ Venue ID มอเตอร์เวย์-พระราม 9 ราคาเริ่มต้น 14.29 ล้านบาท และมีโครงการพัฒนาบ้านที่ออกแบบเฉพาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ Introvert และ Extrovert ในอนาคต

ปัจจุบัน SC มีโครงการแนวราบ 12 แบรนด์ ตั้งแต่ราคา 2.5 ล้านบาท ไปถึง 150 ล้านบาท  ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มราคา ปีนี้เปิดตัวบ้านซีรีส์ใหม่ของแต่ละ Sub-brand เพื่อรักษาผู้นำในตลาดบ้านเดี่ยวโดยเฉพาะราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งคิดสัดส่วนรายได้และยอดขาย 2 ใน 3 ของ SC

ส่งคอนโดแบรนด์ใหม่ 2 ล้านเจาะ Gen Z

สำหรับโครงการแนวสูง ปีนี้เปิดใหม่ 3 โครงการ รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท

1. เปิดตัวคอนโดแบรนด์ใหม่ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z เน้นพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นส่วนหนึ่งของ Living Solutions เพื่อประสบการณ์การพักอาศัยที่ดีขึ้น บน 2 ทำเล ได้แก่ ย่านรัชดา-พระราม 9 ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม มูลค่าโครงการ 5,500  ล้านบาท ราคาเริ่ม 2 ล้านต้น ซึ่งเป็นเซกเมนต์ใหม่ของ SC

2. คอนโดทำเลที่สอง คือ เกษตร-ศรีปทุม ตรงข้ามมหาวิทยาลัยศรีปทุม ติดรถไฟฟ้า 0 เมตร มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เน้นงานดีไซน์และการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อคนเมืองรุ่นใหม่ ราคา 100,000 -120,000 บาทต่อตารางเมตร

3. คอนโดแบรนด์ SCOPE ประสานมิตร เจาะกลุ่มลูกค้า International Premium ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและดีไซน์ในระดับ World-class ใช้ชีวิตในแบบ Live the Finest Life พร้อมบริการระดับพรีเมียม ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท ขนาดห้อง 116-224 ตารางเมตร ราคา 250,000 บาทต่อตารางเมตร  ขนาด 2-3 ห้องนอน มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท เปิดขายเดือนกันยายนปีนี้

ปีนี้ SC มีคอนโดพร้อมอยู่พร้อมโอน 10 โครงการ มูลค่า 12,000 ล้านบาท ราคาตั้งแต่ 2 – 400 ล้านบาท  คอนโดในเซกเมนต์ระดับบนมีปัจจัยบวกจากตลาดต่างประเทศกลับมาแล้ว ขณะที่ตลาดแมสยังมีโอกาสจากกำลังซื้อในประเทศฟื้นตัว คาดว่าปีนี้ซัพพลายคอนโดจะกลับสู่ปกติ  ตลาดรวมมียอดขายปีละ 200,000 ยูนิต

โดยรวมปีนี้ SC มีสต็อกที่อยู่อาศัยพร้อมขายทั้งแนวราบและคอนโด 76 โครงการ มูลค่า 90,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกทำเล ทุกกลุ่มลูกค้า

ลุยลงทุน 3 ธุรกิจสร้างรายได้ประจำ 

นอกจากธุรกิจหลักอสังหาฯ เพื่อขาย SC ยังลงทุนธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) โดยโฟกัส 3 ธุรกิจ  คือ ออฟฟิศที่ทำมากว่า 20 ปี  และอีก 2 ธุรกิจใหม่ คือ โรงแรมและคลังสินค้า

ปัจจุบันมีพื้นที่เช่าออฟฟิศ 120,000 ตารางเมตร  ในกลุ่มนี้จะเน้นการรีโนเวทออฟฟิศเดิม

ส่วนธุรกิจโรงแรม วางเป้าหมาย 3 ปี จะลงทุนโรงแรมให้ได้ 1,000 ห้อง ใน 3 ทำเล 1. เปิดตัวโรงแรม YANH ราชวัตร รับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกภายใต้คอนเซ็ปต์ “Workcation Hotel” รองรับวิถี Remote Working ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทยหลัง โควิด-19 พร้อมเปิดให้เข้าพักแล้วในเดือนมีนาคม 2566 ราคา 2,000 บาทต่อคืน  มีบริการร้านอาหาร Specialty Cafe  Co-working Space

YANH ราชวัตร

อีก 2 ทำเล เป็นแบรนด์โรงแรมใหม่ บนถนนสุขุมวิท 29 มูลค่าการลงทุน 2,500 ล้านบาท เปิดปี 2567  และยังมีแผนในการขยายธุรกิจโรงแรมในทำเลพัทยา เปิดปี 2568

ส่วนธุรกิจคลังสินค้า หลังจากการประกาศความร่วมมือกับบริษัท Flash Express เมื่อปี 2565 วางแผนพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าให้ได้ 1,000,000 ตารางเมตร ภายในปี 2573 เพื่อรองรับการเติบโตตลาดอีคอมเมิร์ซ

“โรดแมป SC Thriving Beyond ใน 5 ปีจากนี้ เน้นการเติบโตไปพร้อมคนรอบข้าง การสร้างคุณค่า สร้างความเชื่อมั่น ที่จะกลับมาสร้างกำไรให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน”

คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์


แชร์ :

You may also like