แม้จะประกาศผลประกอบการเป็นบวกครั้งแรกในไตรมาส 4 ของปี 2022 แต่กลุ่ม Sea บริษัทเทคโนโลยีในสิงคโปร์ก็ยังเดินหน้าลดคนต่อเนื่อง โดยคราวนี้เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee ในอินโดนีเซียที่จะถูกเลย์ออฟอีกกว่า 500 คน
การเลย์ออฟพนักงาน Shopee ในอินโดนีเซียมีขึ้นหลัง Sea ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ที่พบว่าเป็นบวกครั้งแรกได้ไม่กี่วันเท่านั้น โดยในการทำกำไรครั้งนี้พบว่ามีสองธุรกิจสำคัญอย่างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee และบริการทางการเงิน SeaMoney เป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่ง Shopee ทำกำไรได้ที่ 196 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วน SeaMoney ทำกำไรที่ 75.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่ธุรกิจเกมอย่างการีนา (Garena) นั้นพบว่า รายได้ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ลดลง 32.9% เหลือ 948.8 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่เคยทำได้ 1.41 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาส 4 ของปี 2021 ซึ่งในภาพรวมพบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิที่ 426.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
การประกาศผลประกอบการดังกล่าวยังทำให้หุ้นของ Sea พุ่งขึ้น 22% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยปิดที่ 80.06 เหรียญสหรัฐ และยังทำให้ผู้ก่อตั้งอย่าง Forrest Li มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น
กำไรเพราะลดค่าใช้จ่ายอย่างหนัก
แม้ว่าตอนนี้จะมีเสียงชื่นชมจากนักลงทุนออกมามากมายกับการที่ Sea มีกำไรได้แล้ว ประกอบกับมูลค่าหุ้นของ Sea ที่พุ่งขึ้น 22% หลังประกาศผลประกอบการ โดยเฉพาะ Forrest Li ผู้บริหารของ Sea ที่มูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นในคืนเดียว 915 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีมูลค่าทรัพย์สินรวม 5.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (อ้างอิงจาก Bloomberg Billionaire Index)
แต่ในมุมของนักวิเคราะห์ต่างชาติต่างเห็นตรงกันว่า ผลประกอบการเป็นบวกของ Sea ในครั้งนี้มาจากการเลย์ออฟพนักงานกว่า 7,000 ตำแหน่ง การไม่ขึ้นเงินเดือน และการลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างหนัก และทำให้หลายคนกังวลว่า Sea จะสู้ต่ออย่างไร เนื่องจากในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็มีทั้งลาซาด้า (Lazada) ที่มีบริษัทแม่อย่างอาลีบาบา (Alibaba) หนุนหลัง หรือ TikTok Shop ที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอาจจะทำให้การเติบโตต่อเป็นงานยากของ Sea ในปีนี้ก็เป็นได้
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand