Eazy Car (อีซี่คาร์) ผู้นำด้านบริการ Car Subscription สัญชาติไทย ภายใต้กลุ่มไทยรุ่งฯ เผยผลประกอบการปี 2565 รายได้เติบโตขึ้นกว่า 150% เน้นตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค ที่ต้องการใช้รถแบบไม่ต้องมีภาระ เดินหน้า Disrupt ตลาดสินเชื่อรถยนต์ป้ายแดง ขนาด 700,000 คันต่อปี มุ่งหวังส่วนแบ่งตลาด 5% ด้วยแคมเปญ “All-New Car Leasing” นำเสนออีกมิติของการออกรถป้ายแดงที่ครบครัน ทั้งความคุ้มค่า และความสะดวกสบาย พร้อมเผยแผนการเปิดขาย IPO ภายในปี 2567 ในนามบริษัท ไทย วี.พี. คอร์ปอเรชั่นจำกัดในเครือไทยรุ่งฯ
นายอติคุณ เผอิญโชค แมคโดนัลด์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Eazy Car บริษัท ไทย วี.พี. คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2565 ว่าบริษัททำรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 150% จากปีก่อน คิดเป็นสินเชื่อมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการทำแคมเปญที่มุ่งเน้นนำเสนอบริการให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพและเปิดรับกับแนวคิดที่เปลี่ยนไปของการใช้รถยนต์
“บริการ Car Subscription คือการใช้รถแบบใหม่ที่คนทั่วโลกกำลังนิยมกันมาก เหมือนเป็นเรื่องปกติของบ้านเขาไปแล้ว Eazy Car ได้นำมาปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนไทย เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น และจากมูลค่าสินเชื่อที่เราไปปล่อยไปในช่วง 2 ปีแรก ก็พิสูจน์แล้วว่าบริการนี้กำลังประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ในเมืองไทย” นายอติคุณกล่าว
สำหรับทิศทางการตลาดในปี 2566 นี้ Eazy Car พร้อมเน้นย้ำการเป็นผู้นำในด้านบริการเช่าใช้รถยนต์ระยะยาวด้วยการบุกตลาดลีสซิ่งรถยนต์ผ่านทางแคมเปญใหม่ All New Car Leasing (ออล นิว คาร์ ลีสซิ่ง) เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายในตลาดรถป้ายแดงให้กว้างขึ้นทั้งส่วนของบุคคลทั่วไปและนิติบุคคล โดยชูจุดเด่นในการเลือกออกรถใหม่ได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ใช้เงินดาวน์เริ่มต้น 0 บาท ค่าบริการคงที่ตลอดสัญญารวมทุกค่าใช้จ่ายทั้งซ่อมและบำรุงรักษา และเมื่อครบสัญญาสามารถซื้อหรือคืนรถให้บริษัทดูแลได้ทันที
“ผมมองว่าตอนนี้คนไทยเบื่อกับการออกรถกับไฟแนนซ์แบบเดิมมากแล้ว เพราะต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว ปัจจุบันคนไทยออกรถป้ายแดงเฉลี่ยปีละ 700,000 – 800,000 คัน รถเหล่านี้ก็จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมามากมายซึ่งบางคนอาจจะคิดไม่ถึง สิ่งที่ Eazy Car ทำคือการ Disrupt ตลาดรถยนต์ และทำให้การมีรถนั้นง่ายขึ้นสบายขึ้น ไม่ต้องเสียเงินไปกับเรื่องจุกจิกต่างๆเหมือนเดิม ผมเชื่อว่าแคมเปญนี้จะขยายฐานสมาชิกของเราได้เพิ่มขึ้นอีกมากครับ เป้าหมายของเราคือการได้ส่วนแบ่งตลาดรถป้ายแดงราว 5% หรือราว 35,000 คันต่อปีในที่สุด”
ในส่วนของภาพรวมตลาดรถยนต์ในปัจจุบันที่มีความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV (อีวี) มากขึ้นนั้น นายอติคุณชี้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามยุคสมัย แต่ปัจจุบันการออกรถ EV ถือว่ามีความเสี่ยงกับค่าใช้จ่ายที่ตามมาจึงควรเปลี่ยนรถทุก 3-5 ปีซึ่งจุดนี้เอง Eazy Car สามารถเข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคได้
“ตลาดรถ EV ถือว่าน่าสนใจมากครับ ตอนนี้เราได้เห็นรถใหม่ทยอยออกมาเรื่อยๆ ซึ่งทาง Eazy Car เองก็มีรถ EV ให้บริการเหมือนกัน ปีที่ผ่านมาเราได้จับมือกับพันธมิตรอย่าง MG เพื่อนำรถ MG ZS EV มาให้สมาชิกเราเป็นพิเศษ สามารถจองและรับรถได้ทันทีเมื่อผ่านการอนุมัติ และยังมีบริการติดตั้งที่ชาร์จให้ฟรีถึงบ้านด้วย แต่ต้องยอมรับ EV ยังเป็นของใหม่ รถในรุ่นแรกๆ ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องสมรรถนะ คุณภาพและอะไหล่ในระยะยาว ความเสี่ยงเรื่องพวกนี้สูงมากซึ่งดูได้จากค่าประกันที่แพงกว่ารถปกติ ฉะนั้นถ้าผู้บริโภคไม่อยากจะรับความเสี่ยงนี้ ต้องเปลี่ยนรถตามรอบการใช้งานคือ 3-5 ปี ซึ่งจุดนี้ผมมั่นใจว่า Eazy Car เราเข้ามาตอบโจทย์ได้ เพราะสมาชิกเราออกรถโดยดาวน์เริ่มต้นแค่ 0 บาท และเลือกคืนรถได้เลยเมื่อครบสัญญาครับ”
ไม่เพียงแต่ประกาศความพร้อมในการจะทำตลาดรถ EV ร่วมไปกับรถยนต์สันดาป ในปีนี้ Eazy Car ยังมีแผนที่จะจับมือกับพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามายกระดับบริการพร้อมกับมอบความพิเศษให้แก่ทั้งสมาชิกเดิมและสมาชิกใหม่ทำให้ Eazy Car กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
“เรากำลังเตรียมเปิดตัวพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาสนับสนุนทั้งในส่วนของจำนวนรถยนต์โดยการเปิดตลาดใหม่ และบริการด้านการขอสินเชื่อ เพื่อทำให้ชีวิตของสมาชิกเราง่ายขึ้นตามที่เราตั้งใจไว้จริงๆ สิ่งที่เราแตกต่างจากไฟแนนซ์ ไม่ใช่แค่เรื่องค่าใช้จ่ายหรือความกังวลใจที่น้อยกว่า แต่เรายังอยากให้สมาชิกทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและเกิดความภาคภูมิใจที่ได้ใช้รถ Eazy Car ปีนี้เราจะมีของขวัญพิเศษสำหรับสมาชิกใหม่ทุกคันที่ส่งมอบซึ่งเราจัดหามาสำหรับแต่ละท่านจริงๆ เพื่อเป็นการต้อนรับทุกคนเข้าสู่ “ครอบครัว Eazy Car” ที่เราจะดูแลกันไปในระยะยาว และสำหรับสมาชิกเดิมทุกเดือนเราจะมีอีซี่เซอร์ไพรส์ เป็นของขวัญหรือสิ่งพิเศษมอบให้ เช่น วันวาเลนไทน์หรือวันเกิด อยากให้ติดตามและลุ้นไปพร้อมกันว่า เดือนไหนจะเป็นอะไรครับ”
เป้าหมายถัดไปของ Eazy Car คือ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและเสนอขายหุ้นในนามบริษัท ไทย วี.พี. คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือไทยรุ่งฯ ภายในปี 2567 โดยการระดมทุนครั้งนี้จะผลิกโฉมให้ Eazy Car กลายเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดผู้ให้บริการเช่าใช้รถยนต์ระยะยาวอย่างแท้จริง
“เรามีความพร้อมในที่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แล้วและคาดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยภายในปี 2567 เพราะบริษัท ไทย วี.พี. คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นบริษัทในเครือไทยรุ่งฯ เราอยู่ในธุรกิจรถเช่ามากว่า 20 ปีและมีรถให้บริการทั้งหมดมากกว่า 6,000 คัน ซึ่ง Eazy Car ก็ส่วนหนึ่งขององค์กรนี้ การเข้าตลาดฯ จะทำให้เราได้เข้าถึงทุนที่มากขึ้น และช่วยให้เราสามารถยกระดับบริการ พร้อมส่งมอบคุณค่าของบริการที่มากขึ้นให้แก่สมาชิกของเราได้ พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่สนใจจะใช้บริการเราเพิ่มขึ้นอีก ถือเป็นก้าวสำคัญที่เราตั้งใจมากหลายปี เพราะเราอยากจะยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ของคนไทยครับ” นายอติคุณปิดท้าย