อาจเป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะในซีกโลกตะวันตกที่กำลังเกิดเทรนด์ “ฟีเจอร์โฟนคืนชีพ” เมื่อมีรายงานว่าคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z เริ่มหันมาใช้โทรศัพท์มือถือที่คนรุ่นพ่อแม่คุ้นเคยกันดีอย่างฟีเจอร์โฟนมากขึ้น
หนึ่งในสัญญาณที่สะท้อนว่าฟีเจอร์โฟนอาจกำลังเป็นของอินเทรนด์ โดยเฉพาะในตลาดอเมริกาก็คือยอดขายฟีเจอร์โฟนของ HMD Global (ผู้ถือลิขสิทธิ์แบรนด์โนเกียในปัจจุบัน) โดยพวกเขาระบุว่า สามารถขายฟีเจอร์โฟนได้มากกว่าหมื่นเครื่องต่อเดือนในสหรัฐอเมริกา สวนทางกับยอดขายฟีเจอร์โฟนในตลาดโลกที่กำลังลดลง (ทั้งนี้ ทาง HMD Global มีการพัฒนาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ แต่ก็มีการนำโทรศัพท์มือถือในตำนานของทาง Nokia มาปัดฝุ่น และวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน)
ขณะที่ ข้อมูลจาก Counterpoint ระบุว่า ยอดขายฟีเจอร์โฟนส่วนใหญ่ (80%) ในปี 2022 มาจากประเทศในแถบตะวันออกกลาง แอฟริกา และอินเดีย
ปัญหาด้านจิตใจ ทำคนรุ่นใหม่ปฏิเสธเทคโนโลยี
รายงานจาก CNBC อ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ Jose Briones อินฟลูเอนเซอร์ด้านโทรศัพท์มือถือของสหรัฐอเมริกาว่า สิ่งที่ทำให้ Gen Z หันมาใช้ฟีเจอร์โฟนกันมากขึ้น อาจเป็นเพราะปัญหาทางด้านจิตใจ และทำให้พวกเขาเลือกที่จะปฏิเสธเทคโนโลยี ด้วยเหตุนี้ ฟีเจอร์โฟนที่ทำอะไรไม่ได้มากนัก ก็อาจเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ตอบโจทย์ชาว Gen Z ได้มากกว่านั่นเอง
ไม่เฉพาะ HMD Global แต่ในตลาดสหรัฐอเมริกาพบว่ายังมีอีกหลายแบรนด์ที่พัฒนาโทรศัพท์ในลักษณะดังกล่าว โดยส่วนหนึ่งนิยามตลาดนี้ว่าเป็น Dumb Phone, Light Phone หรือบ้างก็เรียกอย่างสวยหรูว่า Minimalist Phone ซึ่งฟีเจอร์ที่จัดว่าไฮเทคในฟีเจอร์โฟนเหล่านี้อาจเป็นเพียงแค่ GPS หรือรองรับฮอตสปอตได้เท่านั้น ส่วนรูปร่างของฟีเจอร์โฟนพบว่ามีความแตกต่างหลากหลาย โดยอาจมีทั้งแบบฝาเปิดปิดได้ หรือที่ยุคหนึ่งเรียกว่า Flip Phone หรือแบบสไลด์ แต่ทั้งหมดนี้ก็ทำให้เห็นว่า การปฏิเสธเทคโนโลยีก็อาจกลายเป็นเทรนด์ที่น่าจับตา รวมถึงอาจขยายวงกว้างไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ได้อีกด้วย
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand