HomePR NewsGoodmate นมโอ๊ตเจ้าแรกในไทย ผนึกพลัง “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ตั้งเป้าแบรนด์อันดับหนึ่งในเอเชีย [PR]

Goodmate นมโอ๊ตเจ้าแรกในไทย ผนึกพลัง “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ตั้งเป้าแบรนด์อันดับหนึ่งในเอเชีย [PR]

แชร์ :

ปัจจุบันโรคแพ้นมวัวเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับอดีต สามารถพบได้ตั้งแต่วัยเด็ก โดยมีปัจจัยสำคัญคือพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ในกลุ่มคนที่มีการย่อยแลกโทสบกพร่องซึ่งมีอาการไม่พึงประสงค์หลังรับประทานนมวัว ก็จะเข้าใจว่าตัวเองนั้นเป็นโรคแพ้นมวัว เช่น มีอาการแน่นท้อง ภายลมบ่อย ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายเหลว จึงพยายายามหลีกเลี่ยงการรับประทานนมวัว และมองหานมทางเลือกที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแทน

นมทางเลือกพรีเมียมนำเข้าจากออสเตรเลีย 100%

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

นมโอ๊ต Goodmate (กู๊ดเมท) ผลิตภัณฑ์นมทางเลือกกลุ่มพรีเมียม ผลิตจากข้าวโอ๊ตธรรมชาติเต็มเมล็ด นำเข้าจากออสเตรเลีย 100% จากแหล่งปลูกข้าวโอ๊ตที่ดีที่สุดในโลก ใส่ใจในทุกกระบวนการผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญ เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบเมล็ดโอ๊ตแบบเต็มเมล็ด ทำให้ได้ประโยชน์คุณค่าทางอาหารสูง เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ มองหาสินค้าที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประโยชน์และรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมในแบบฉบับเฉพาะตัว ทั้งยังตอบสนองผู้บริโภคที่แพ้นมวัวและมองหาผลิตภัณฑ์มาทดแทน มี 3 รสชาติ ได้แก่ The Original Oat milk, Chocolate Deluxe Oat milk และ Oat-Barista Professional

ผลิตภัณฑ์นมทางเลือกในต่างประเทศมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยภาพรวมตลาดนมจากพืชในปี 2565 มีมูลค่า 19,800 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6 แสนล้านบาท และคาดการณ์ว่าภายในปี 2574 ภาพรวมมูลค่าตลาดนมทางเลือกทั้งหมดจะเติบโตขึ้นถึง 47,200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งในขณะเดียวกันในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์นมโอ๊ตเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์นมทางเลือกทั้งหมด มีอัตราสูงถึง 37% หรือประมาณ 73 ล้านบาท (คำนวณจากยอดขาย 1 ปีที่ผ่านมา) และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เอาใจสายรักสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

คุณกันต์ กุลปิยะวาจา ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจำประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ กล่าวว่า “ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพและความนิยมด้านการบริโภคอาหารที่มาจากพืชเป็นหลัก หรือ Plant-Based Diet ได้รับความสนใจในวงกว้าง โดยเฉพาะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคสายรักสุขภาพที่หลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ รวมถึงผู้บริโภคที่มีความสนใจและส่งเสริมในเรื่องผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

ถ้าเทียบนมโอ๊ตกับนมทางเลือกอื่น ๆ แล้ว นมโอ๊ตจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด โดยวัดจากภาพรวมในเรื่องปริมาณน้ำ รวมไปถึงเรื่องพื้นที่ในการปลูก ซึ่งคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในการผลิตนมโอ๊ต 1 แก้วนั้น อยู่ที่ 0.18 กิโลกรัม ใช้น้ำเพียง 9.6 ลิตร ซึ่งน้อยกว่าปริมาณน้ำที่นมอัลมอนด์ใช้ถึง 8 เท่า และใช้พื้นที่ปลูกข้าวโอ๊ตเพียง 0.16 ตารางเมตร น้อยกว่าพื้นที่ในการเลี้ยงวัวราว 91% ซึ่งนมวัว 1 แก้ว ใช้พื้นที่ 1.8 ตารางเมตร นอกจากนี้ฟาร์มข้าวโอ๊ตในออสเตรเลียยังคำนึงถึงการปลูกอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งกากข้าวโอ๊ตที่เหลือจากกระบวนการผลิตนมโอ๊ต Goodmate ยังถูกส่งต่อให้เกษตรกรในพื้นที่ สามารถนำไปใช้เป็นอาหารให้แก่สุกรและสัตว์อื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการเกษตรแบบอินทรีย์ รวมถึงยังช่วยลดต้นทุนให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืนอีกด้วย

เร่งขยายการผลิต ผลึกพันธมิตรชั้นนำ

ทางแบรนด์ได้วางแผนกลยุทธ์การตลาดโดยเร่งขยายกำลังการผลิตและช่องทางการจัดจำหน่าย โดยมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตภายใน Q3 เป็น 2 เท่า และภายใน Q1/2024 เพิ่มขึ้นเป็น 3-4 เท่า พร้อมสร้างทีมขายเพื่อกระจายสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการร่วมมือทางธุรกิจกับแบรนด์ชั้นนำ ปัจจุบันมีพันธมิตรทั้งหมด 19 แห่ง อาทิ Dean&Deluca, F.I.X coffee, KOF, Wonderfood, Pour Over Lab, The Coffee Academics Thailand, Goose Café, Vista café, etc. เพื่อเจาะกลุ่มทั้ง B2B และ B2C โดยเน้นตลาด B2C เป็นหลัก คิดเป็น 70% ซึ่งถือเป็นการสร้าง Customer Experience ให้แบรนด์สามารถใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น และเพิ่ม Brand Touch Point กับผู้บริโภคในหลายช่องทาง นอกจากนี้ยังเน้นกลยุทธ์ Customer Retention โดยการรักษากลุ่มลูกค้าเดิมและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อมกัน ควบคู่กับการใช้ Data เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลความสนใจและพฤติกรรมผู้บริโภค นำไปสู่การวางแผนการตลาดและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์และสามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกันไป


ตั้งเป้าขยายสู่ตลาดเอเชีย หวังยอดขายโต 150%

ในส่วนของการทำตลาดในต่างประเทศแบรนด์วางแผนเจาะตลาดญี่ปุ่น เกาหลี จีน และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์นมทางเลือกสูงและแนวโน้มการเติบโตอย่างน่าสนใจ ขนานไปกับการเดินหน้าทำการตลาดในประเทศไทย รองลงมาเป็นตลาด CLMV โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาและวางแผนผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากขึ้น อาทิ เน้นผลิตสินค้าขนาดพกพา 180ml. นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ โดยคาดว่าจะสามารถจำหน่ายช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ และร้านค้าปลีก ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ไปพร้อม ๆ กับขยายการรับรู้ให้ผู้บริโภคไทยหันมานิยมรับประทานนมทางเลือกมากขึ้น และตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้น 150% ภายในปี 2566 ตอกย้ำแบรนด์อันดับหนึ่งของผลิตภัณฑ์นมทางเลือก

“สำหรับครึ่งปีแรก จะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรักสุขภาพไปที่ตลาดเอเชียก่อนโดยทำการตลาดเชิงรุกเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคในทุกจุดและวางแผนกลยุทธ์อย่างเข้มข้น เพื่อขยับเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์นมทางเลือกอันดับหนึ่งของไทยและเอเชีย พร้อมก้าวสู่ Global Brand ซึ่งปัจจุบันเดินหน้าเต็มกำลัง โดยอยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพร่วมขยายตลาดในแต่ละประเทศ ขึ้นแท่นผู้นำตลาดในกลุ่มประเภทนมโอ๊ตต่อไปในอนาคต” คุณกันต์ กุลปิยะวาจา กล่าว

เลือก “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” พรีเซนเตอร์คนแรก

เป็นตัวแทนกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลตัวเองเลือกสินค้าที่มีประโยชน์และมีสุขภาพที่ดี พร้อมปล่อยหนังโฆษณาชุดใหม่ล่าสุด เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์สุขภาพและเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเลือกใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างเรียลไทม์และครอบคลุม รวมถึงยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่ตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายและรวดเร็วในการซื้อผลิตภัณฑ์ โดยทุกการสั่งซื้อจะถูกจัดส่งจากโรงงานสู่มือของผู้บริโภคโดยตรง นอกจากนี้ทางแบรนด์จะมีการจัดงานแสดงสินค้าเพื่อมองหาผู้แทนจำหน่ายและพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพิ่มเติมในอนาคต

Goodmate นมโอ๊ตเจ้าแรกในไทย เป็นที่น่าสนใจว่าทิศทางการตลาดในอนาคตที่ทางแบรนด์ตั้งใจเจาะกลุ่มทั้งคนไทยและต่างชาติจะสามารถเติบโตได้มากน้อยเพียงใด แม้จะมีหลายปัจจัยที่ทำให้การบริโภคนมทางเลือกมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น แต่ต้องยอมรับว่า ก็มีผู้เล่นใหม่ ๆ ที่เห็นโอกาสการเติบโตสูงและพร้อมจะเข้ามาเล่นในตลาดนี้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ความท้าทายที่ทางแบรนด์ต้องทำให้ได้คือการการเติบโตอย่างยั่งยืนและก้าวเป็น Top of Mind โดยชูจุดเด่นเรื่องคุณภาพและรสชาติของสินค้าเป็นหลัก


แชร์ :