อาจเป็นตัวเลขที่ไม่ทำให้นักลงทุนประทับใจนัก กับยอดขายคอมพิวเตอร์พีซีในสามเดือนแรกของปีจากค่าย Apple (สิ้นสุดเดือนมีนาคม) ที่ IDC รายงานว่าลดต่ำลงถึง 40.5% และเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000 เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ปรากฏการณ์ยอดขายลดนี้ไม่ได้เกิดกับ Apple รายเดียว เพราะข้อมูลจาก IDC ชี้ว่า ในภาพรวม ยอดขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในไตรมาสแรกนั้น ลดลงถึง 29% โดยทุกเจ้ามียอดขายรวมกันเพียง 56.9 ล้านเครื่อง และ 5 แบรนด์ท็อปไฟว์ที่เป็นเจ้าตลาดก็ได้รับผลกระทบดังกล่าวถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น Lenovo (-30.3%), Dell (-31%), HP (-24.2%), Asus (-30.3%) รวมถึง Apple เพียงแต่ยอดขายของ Apple ปรับตัวลดลงมากที่สุดเท่านั้นเอง
ด้านนักวิเคราะห์จาก Bloomberg คาดการณ์ในแง่ดีว่า ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ยอดขายพีซีของ Apple อาจกระเตื้องขึ้นได้บ้าง เนื่องจากมีการเตรียมเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ ซึ่งอาจกระตุ้นความต้องการซื้อในหมู่สาวกให้กลับมาได้
ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายกระทบ คอมพ์ – สมาร์ทโฟน
สำนักข่าว Bloomberg ยังวิเคราะห์ด้วยว่า ตลาดคอมพิวเตอร์พีซีในตอนนี้ไม่ต่างจากตลาดสมาร์ทโฟนในช่วงปีก่อนหน้า ที่ผู้บริโภคลดการซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ลง และสภาพที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้ซัมซุง (Samsung) ในฐานะผู้ผลิตชิปหน่วยความจำเบอร์ต้นของโลกตัดสินใจปรับลดการผลิตชิปดังกล่าวสำหรับอุปกรณ์พกพา และคอมพิวเตอร์ลงแล้วเช่นกัน โดยยอดขายคอมพิวเตอร์พีซีเคยพุ่งขึ้นอย่างแรงในช่วงปี 2019 – 2020 เนื่องจากเกิดการระบาดของ Covid-19 และทำให้ประเทศต่าง ๆ เกิดการล็อกดาวน์ รวมถึงการทำงานของผู้คนที่ต้องปรับเปลี่ยนเป็นการทำงานจากบ้านแทนการเข้าออฟฟิศ ทำให้ความต้องการอุปกรณ์ไอทีเพิ่มสูงขึ้น
แต่ความท้าทายของช่วงปี 2020 คือเรื่องซัพพลายเชนที่กระจุกตัวอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ จนทำให้บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยี่ห้อต่าง ๆ ไม่สามารถผลิตสินค้า – ไม่มีสินค้าจะส่งมอบให้กับลูกค้าได้ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน พบว่าแบรนด์ต่าง ๆ ได้แก้ปัญหานี้แล้ว ด้วยการกระจายซัพพลายเชนของตนเองไปยังประเทศอื่น ๆ มากขึ้น แต่พวกเขาก็กำลังเจอกับความท้าทายใหม่ นั่นคือสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงจนทำให้ผู้คนเริ่มรัดเข็มขัดแล้วนั่นเอง
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand