KA ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันแดดแบรนด์ไทย ที่ยืนหยัดอยู่ใน Top 5 ของแบรนด์ชั้นนำในตลาดนี้มานาน เปิดเกมรุกอีกครั้งด้วยแคมเปญโฆษณาที่ใช้ “เบลล่า ราณี” เป็นพรีเซนเตอร์ บอกเล่าจุดขายที่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์ด้านต่าง ๆ ในกลุ่ม KA UV Protection เพื่อตอกย้ำความเอาจริง เอาอยู่เรื่องกันแดดในทุกมิติ สมกับเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดระดับตำนาน
ภญ. กรกมล ชัยวัฒนเมธิน (ออน ละอองฟอง) ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ KA (เค.เอ.) บริษัท ปวีณ์มล จำกัด เผยภาพรวมอุตสาหกรรมความงามปี 2564 ที่ผ่านมา เติบโตขึ้น 5% มูลค่าสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท โดยตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว มีสัดส่วนมากที่สุด 57% ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตสูงสุดในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคือ “ผลิตภัณฑ์กันแดด” โดยเติบโต 11.2% ในปี 2564 ซึ่งเป็นการกลับมาเติบโตสองหลักอีกครั้งหลังจากที่เคยทำได้ในปี 2562 ก่อนโควิด-19 และนับเป็นปีประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจของ KA เพราะ KA UV Protection มีส่วนแบ่งการตลาดสูงขึ้น เป็นแบรนด์ไทยเพียงแบรนด์เดียวที่ติด Top 5 ในกลุ่มกันแดด โดยในปี 2565 กลุ่มสินค้า KA UV Protection เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 46% เลยทีเดียว
“ย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา KA เป็นแบรนด์แรก ๆ ที่บุกตลาดผลิตภัณฑ์กันแดด ทั้ง ๆ ที่ในยุคนั้นคนไทยไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเหมือนทุกวันนี้ ยังไม่รับรู้ถึงอันตรายของรังสียูวีที่มากับแสงแดด แคมเปญช่วงแรก ๆ จะบอกถึงอันตรายของแสงแดดที่มีต่อสุขภาพผิว ในขณะที่ผู้บริโภคจะใช้ผลิตภัณฑ์นี้เมื่อมีแดดแรง หรือเฉพาะตอนทำกิจกรรมพิเศษ ไปเที่ยว และไปทะเลเท่านั้น แคมเปญต่อ ๆ มาเราได้สื่อสารให้ผู้บริโภคตระหนักว่ายูวีมีอยู่ทุกที่แม้ในที่ร่ม และเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิว พร้อมผลักดันให้ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นประจำทุกวัน กระทั่งมาถึงยุคนี้ ผลิตภัณฑ์กันแดดกลายเป็นสิ่งจำเป็น และเป็นปัจจัยสี่ของสาว ๆ ไปแล้ว ถ้าไม่ได้ทาครีมกันแดด จะรู้สึกเหมือนแก้ผ้าออกจากบ้าน”
ภญ. กรกมล ชัยวัฒนเมธิน (ออน ละอองฟอง)
ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ KA (เค.เอ.) บริษัท ปวีณ์มล จำกัด
พัฒนาผลิตภัณฑ์กันแดดแบบรู้ลึกรู้จริง เพื่อผิวคนไทยโดยเฉพาะ
ภญ. กรกมล กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก่อนที่สินค้ากลุ่ม KA UV Protection จะประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้นั้น การศึกษาตลาดแบบเข้มข้นและทำความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างถ่องแท้สำคัญมาก “เราพยายามจับจุดจนเจอว่าอะไรเป็นอุปสรรคที่ทำให้คนไทยอีกหลายคนยังไม่ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด โดย pain point ที่ชัดเจน คือ ผู้บริโภครู้สึกเหนียวเหนอะหนะ เหมือนเอาปูนมาฉาบหน้า เดี๋ยววอก เดี๋ยวลอย เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ด้วยการนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ KA UV Protection ที่นอกจากจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีเป็นอย่างดีแล้ว ยังให้ความชุ่มชื่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ ควบคุมความมัน ไม่อุดตัน และไม่ทำร้ายผิวในระยะยาวอีกด้วย เพราะผู้บริโภคต้องใช้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นประจำทุกวัน”
“เค.เอ. มี R&D ของเราเอง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบและแตกต่างจากคู่แข่งหลายราย ทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์กันแดดที่บางเบาแบบ breakthrough บางเบาเหมือนครีมบำรุงผิว ด้วยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นชัดเจน จึงทำให้เราก้าวขึ้นมาอยู่ใน TOP 5 ได้ ตั้งแต่ปี 2016 ขณะที่ผลสำรวจล่าสุดจาก Mintel แบรนด์ เค.เอ. เป็นเบอร์ 4 ของตลาดผลิตภัณฑ์กันแดด และเป็นแบรนด์ไทยเพียงแบรนด์เดียวเท่านั้นที่อยู่ใน 5 อันดับแรกตลาดผลิตภัณฑ์กันแดดในไทย ซึ่งตั้งเป้าว่าภายในอนาคตอันใกล้จะสามารถทะยานเข้าไปอยู่ใน Top 3 ได้”
KA UV Protection มุ่งเน้นดูแลสุขภาพผิวที่ดีในระยาว
สำหรับทิศทางของผลิตภัณฑ์กันแดดในอนาคตของแบรนด์ KA ภญ. กรกมล มองว่าต้องมุ่งเน้นสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาวมากขึ้น ไม่เน้นผลลัพธ์ฉาบฉวย เราไม่ดูความขาว แต่เน้นผิวใสสุขภาพดี ขาวสุขภาพดีในแบบที่เราเป็นไม่ใช่แบบโอโม่ ไม่เกินจริงหรือทำให้ผิวเปลี่ยนเร็วเกินไป ไม่ใช้สารอันตรายต่าง ๆ ไม่ใช่แค่ไฮโดรควิโนนที่ทำให้เกิดผิวด่างขาว ซึ่งชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นสารต้องห้าม แต่รวมถึงไม่ใช้แอลกอฮอล์หรือพาราเบน ที่จะทำร้ายผิวในระยะยาว ทำให้ผิวบอบบางแพ้ง่าย ดังนั้นสินค้ากลุ่ม KA UV Protection จึงให้ความสำคัญและใส่ใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ ด้วยการนำเสนอสูตรบางเบาที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน โดยใช้นวัตกรรม DOUBLE Encapsulation ที่ช่วยให้สารกันแดดคงที่และปกป้องได้ยาวนานขึ้น
KA เข้าถึงได้ เห็นผล ปลอดภัย และคุ้มค่า
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ KA ในภาพรวม ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องคือ การปรับตัวอย่างรู้เท่าทันยุคสมัยและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยใช้ช่องทางสื่อสารที่หลากหลาย ดีไซน์ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้งานสื่อแต่ละประเภท
“KA เป็นแบรนด์แมส สมัยก่อนใช้ TVC เป็นหลัก แต่ปัจจุบันมีวิธีการสื่อสารที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม กระทั่งมีการออกแบบการสื่อสารที่แตกต่างกันสำหรับโซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ ก่อนที่เราจะนำเสนอผลิตภัณฑ์กันแดดแต่ละตัว จะต้องสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายทุกครั้ง เราพบว่า Brand Perception ที่ชัดเจนคือ ลูกค้ามองเราว่าไม่ใช่แบรนด์เด็ก มองเราเป็นแบรนด์ไม่หวือหวา มีความจริงใจและเข้าถึงได้ KA ไม่เคลมเวอร์ สิ่งที่เราบอกไปว่าเราดี เราเด่นอย่างไร เราสามารถทำให้เห็นผลลัพธ์ตามที่บอกได้ ผลิตภัณฑ์ของเราต้องตอบโจทย์ เห็นผลจริง ปลอดภัยจริง และคุ้มค่า”
“จุดยืนที่ชัดเจนของกลุ่มสินค้า KA UV Protection คือเรามุ่งผลักดันให้ผลิตภัณฑ์กันแดดเป็น mass daily use ให้ผู้บริโภคมีของดีใช้ในราคาไม่แพง กำไรน้อยไม่เป็นไร แต่ต้องไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ต้องเน้นสินค้าคุณภาพ บางตัวเราขายขาดทุนด้วยซ้ำ เพราะอยากให้คน 100 คน ได้ใช้ของดีราคา 1 บาท ดีกว่าขายของราคา 100 บาท ให้แค่คนเดียว”
“เบลล่า ราณี แคมเปน” ตัวแทนความจริงใจ และ คุณภาพแบรนด์ KA
ภญ. กรกมล เล่าถึงเบื้องลึกของการเลือกใช้เบลล่า ราณี มาเป็นพรีเซนเตอร์ในแคมเปญโฆษณาของกลุ่มสินค้า KA UV Protection ว่า “หลังจากพัฒนาแคมเปญโฆษณา “บางเบา เอาอยู่” ในช่วงโควิด-19 เมื่อปี 2020 โดยใช้เบลล่าเป็นพรีเซนเตอร์ ได้สื่อสารถึงการเป็นแบรนด์กันแดดขนนก ซึมเร็ว เกลี่ยง่าย ซึ่งได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี แม้อยู่ในยุคที่คนไม่ออกจากบ้าน
รับชมโฆษณา : https://www.youtube.com/watch?v=-yg1ItFAN_0
สำหรับแคมเปญโฆษณาล่าสุดเราจึงนำมุมมองของผู้บริโภคที่มองว่า KA เป็นแบรนด์ที่มีความจริงใจมานำเสนอ และเลือกเบลล่า ราณี เป็นพรีเซนเตอร์อีกครั้ง เพราะมีความเรียล จริงใจ เป็นกันเอง และขี้เล่น แต่ทำงานจริง จึงมั่นใจว่าจะช่วยถ่ายทอดคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม KA UV Protection ในแคมเปญโฆษณาชุดล่าสุดนี้ที่นำเสนอภายใต้แนวคิด “บางเบา แต่เอาอยู่ ตอกย้ำความเอาจริง เอาอยู่เรื่องกันแดดทุกมิติ“ ได้เป็นอย่างดี โดยผลิตภัณฑ์กันแดดที่เป็นตัวชูโรงคือ KA UV Whitening Soft Cream SPF50+ PA++++ ที่สยบแดดเอาจริง บางเบา เอาอยู่ เพราะเพิ่มประสิทธิภาพกันแดดด้วย
- นวัตกรรม “DOUBLE Encapsulation” ช่วยปกป้องแบบดับเบิ้ล ประสิทธิภาพปกป้องคงที่และยาวนาน
- คุมมันเด็ดขาดด้วยสูตร Oil Control
- ซึมไว บางเบาดุจขนนก ซึมไวแบบไม่ต้องใช้แอลกอฮอล์ช่วย ทำให้ลดโอกาสเกิดการระคายเคืองได้
ด้วยครีมกันแดดเนื้อซอฟท์ครีมสำหรับผิวหน้า ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน ให้สัมผัสบางเบา ไม่มัน สบายผิว แม้แดดแรง-แรงมากก็พร้อมปกป้องทุกอณูผิวจากแสงแดด มีสารสกัด Aqua Aloe Vera Extract ช่วยปลอบประโลมผิวจากแสงแดดที่โลมเลียและฝุ่นควันต่าง ๆ ที่ทำร้ายผิว ให้กลับมาชุ่มชื่น น่าสัมผัสอีกครั้ง
รับชมโฆษณา : https://www.youtube.com/watch?v=2NvDF_ih8oY
ตามด้วย KA UV Extreme Protection Spray SPF50+ PA+++ สเปรย์กันแดดละอองนุ่น สูตรกันน้ำ กันเหงื่อ (Water Resistance) แห้งเร็ว สบายผิว ปกป้องผิวได้ครอบคลุมทั้งรังสี UVB, UVAI/ UVAII ล้ำด้วยนวัตกรรม EX-SolarTM Protection ช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของรังสี UV, รังสี IR และมลภาวะต่าง ๆ ไม่มีส่วนผสมของสารพาราเบน มุ่งเจาะกลุ่ม Unisex เน้นการใช้งานที่สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเพศไหนก็กล้าใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดมากขึ้น
รับชมโฆษณา : https://www.youtube.com/watch?v=lekkYjOmL98
ขณะที่ KA UV SuperBloc Fluid Protector SPF50+ PA+++ ผลิตภัณฑ์กันแดดสูตรกันน้ำ ซุปเปอร์บล็อกแบบคูณสอง หน้า-ตัว เอาอยู่ อุดมด้วยสารสกัดมังบีน จากประเทศเกาหลี ทำหน้าที่เป็นเกราะผิวธรรมชาติต้านผิวเครียดจากแสงแดดจัด ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ช่วยบล็อกผิวจากรังสียูวีและมลภาวะต่าง ๆ เหมาะสำหรับคนที่เหงื่อออกง่าย ใช้ชีวิตอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน เหมาะกับคนผิวธรรมดาและผิวมัน ให้สัมผัสเบา สบายผิว กันน้ำ กันเหงื่อ พร้อมบำรุงผิวให้คงความสดใสท้าแดดได้ตลอดวัน
รับชมโฆษณา : https://www.youtube.com/watch?v=YX8T8qphbEM
เติมเต็มช่องว่างทางการตลาด ตอกย้ำผู้นำกันแดด
ภญ. กรกมล บอกถึงแผนธุรกิจในอนาคตที่จะผลักดันกลุ่มผลิตภัณฑ์กันแดดให้เติบโตมากขึ้นว่า หลังจากที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักเดินทางชาวไทย รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายกลางแจ้ง และการว่ายน้ำแล้ว KA UV Protection ได้ขยายกลุ่มเป้าหมายไปสู่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนเมืองไทย และพยายามนำเสนอผลิตภัณฑ์กันแดดที่ตอบโจทย์พฤติกรรรมของผู้บริโภคมากขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์สเปรย์กันแดดที่สามารถฉีดทับระหว่างวัน โดยฉีดได้ทั้งผิวเปียกและผิวแห้ง ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน 15-30 นาที
จากเรื่องราวความสำเร็จของแบรนด์ KA ในอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึง KA UV Protection กลุ่มผลิตภัณฑ์กันแดดระดับตำนาน ที่ยังคงมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกันแดดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการสร้างสรรค์แคมเปญโฆษณาชุดล่าสุดที่ใช้เบลล่า ราณี นักแสดงสาวสุดฮอตเป็นพรีเซนเตอร์ ก็คาดว่าจะตอกย้ำความเอาจริง เอาอยู่เรื่องกันแดดทุกมิติ ได้อย่างแน่นอน
#กันแดดต้องKA #กันแดดแบรนด์ไทยอันดับหนึ่ง #KAUVSoftCream #สยบแดดเอาจริง #บางเบาเอาอยู่ #เบาที่สุดที่เคยมีมา #KAThailandOfficial