จากที่เคยประกาศเลย์ออฟพนักงานไปเมื่อเดือนธันวาคม – มีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า ล่าสุดทางบริษัท Meta เจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook ได้เริ่มเลย์ออฟพนักงานรอบใหม่แล้ว โดยรอบนี้ตำแหน่งงานอย่าง “นักพัฒนา – วิศวกร” ซึ่งในอดีตเป็นอาชีพที่มีการแย่งตัวกันอย่างหนักก็ได้รับผลกระทบด้วย
ข้อมูลการเลิกจ้างพนักงานรอบใหม่ที่พบว่ากระทบกับตำแหน่งงานด้านเทคนิคมาจาก LinkedIn โดยสื่อตะวันตกหลายสำนักระบุว่า มีพนักงานในตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์ของ Meta ในด้านต่าง ๆ เช่น กราฟิก, UX ออกมาประกาศว่าตนเองถูก Meta เลิกจ้าง โดยในจำนวนนี้ พบว่ามีพนักงานในส่วนของ Gameplay ซึ่งเป็นงานด้าน VR/AR ของบริษัทได้รับผลกระทบด้วย
ส่วนรูปแบบการเลิกจ้างนั้นพบว่า เป็นเทรนด์เดียวกับ McDonald’s และ Google ที่ระบุให้พนักงานในอเมริกาเหนือทำงานจากบ้าน (ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ) ในวันพุธ และทำการเลิกจ้างบางส่วนแบบระยะไกล ซึ่งบริษัทเผยว่า จะช่วยให้พนักงานบางคนรู้สึกสะดวกใจมากขึ้นในการออกจากงาน
อย่างไรก็ดี มีพนักงานบางคนอ้างว่า ในเดือนพฤษภาคมจะมีการเลิกจ้างพนักงานในฝ่ายการเงิน, กฎหมาย และ HR ตามมาด้วย
ส่วนสาเหตุที่นำไปสู่การปรับลดพนักงานนั้น ถูกมองว่ามาจากปัญหารายได้ที่ลดลงของ Meta ในปี 2022 ทำให้บริษัทตัดสินใจรัดเข็มขัดด้วยการประกาศเลย์ออฟพนักงานครั้งใหญ่ 11,000 คนในเดือนพฤศจิกายน 2022 ก่อนจะเลย์ออฟพนักงานอีก 10,000 คนในเดือนมีนาคม ส่วนการเลย์ออฟในเดือนเมษายนนี้พบว่าเป็นกลุ่มพนักงานสายเทคนิคเป็นหลัก และการเลย์ออฟพนักงานในฝ่ายธุรกิจจะเกิดขึ้นเป็นลำดับถัดไปในเดือนพฤษภาคม
ภายใต้การจากลาครั้งใหญ่ของพนักงาน Meta พบว่านักลงทุนให้การตอบรับในเชิงบวก โดยหุ้นของ Meta ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากถึง 81% หลังจากเกิดกรณีตัวเลขผู้ใช้งานลดลง โดยปัจจุบันขึ้นมาอยู่ที่ 215.7 เหรียญสหรัฐฯ (เคยลดลงไปถึง 90.79 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2022)
ทั้งนี้ Meta เตรียมประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปีในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะทำรายได้อยู่ที่ 26,000 – 28,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่สิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจเพิ่มเติมอาจเป็นผลประกอบการของ Reality Labs ซึ่งดูแลโปรเจ็ค Metaverse ของบริษัท หลังพบว่าทำสถิติขาดทุนไปมากถึง 13,720 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2022