ท่ามกลางความกังวลของนักการตลาดที่เกรงว่า ผู้บริโภคจะหนีจากเคเบิลทีวีปกติไปอยู่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ไม่มีโฆษณามากวนใจ ตอนนี้อาจมีข่าวดีอีกชิ้นหนึ่งออกมาแล้ว เมื่อ Antenna เปิดผลสำรวจผู้ใช้งาน Netflix, Disney+ และ HBO Max (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Max แล้ว) ในสหรัฐอเมริกา พบว่า 25% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกสมัครสมาชิกในเวอร์ชัน “มีโฆษณา” และตัวเลขลูกค้าในกลุ่มที่ยอมดูโฆษณาเพื่อแลกกับการจ่ายเงินรายเดือนน้อยลงนั้นกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากนี้ Antenna ยังพบด้วยว่า ผู้ที่ซื้อบริการระดับ Basic ของ Netflix นั้นเป็นคนสูงอายุ มีฐานะไม่ดีมาก และมีการศึกษาต่ำกว่าผู้บริโภคที่ซื้อ Netflix ระดับพรีเมียม และในกรณีที่พวกเขาซื้อบริการของคู่แข่ง ก็จะซื้อแบบมีโฆษณาแทรกเช่นกัน
สร้างกำไรอย่างไรในวันที่ตลาดสตรีมมิ่งอิ่มตัว?
เมื่อหันดูยอด Subscribers ของบริการสตรีมมิ่งในไตรมาสแรกของปี 2023 ก็พบว่าไม่เติบโตอย่างที่คิด โดยผู้ให้บริการอย่าง Netflix, Disney+, Hulu, Paramount+ และ HBO Max มีผู้ใช้บริการใหม่รวมกัน 4 ล้านคนเท่านั้น (ในจำนวนนี้ Disney+ มียอดผู้ใช้บริการลดลงด้วย โดยลดลงมากถึง 4 ล้านแอคเคาน์)
ในวันที่สถานการณ์เป็นเช่นนี้ การพึ่งเม็ดเงินจากค่าโฆษณาเพื่อให้บริษัทมีรายได้ และกำไรมากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่หลายแพลตฟอร์มเลือกทำ
กระนั้นก็มีการวิเคราะห์ว่า การที่ลูกค้าซื้อสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณาอาจไม่ใช่โอกาสสร้างรายได้ครั้งใหม่แต่อย่างใด โดยความเห็นจาก Stacey Stewart ผู้บริหารระดับสูงของ UM Worldwide มองว่า ค่าสมาชิกราคาประหยัดแลกกับการชมโฆษณานั้นเป็นเพียงที่พักใจของคนที่เจอกับนโยบายจำกัดการแชร์พาสเวิร์ดมากกว่า โดยคนเหล่านี้ยังอยากติดตามคอนเทนต์ของ Netflix, Disney+ ฯลฯ อยู่ เพื่อให้ตนเองไม่ตกกระแส จึงยอมอดทนดูโฆษณาแลกกับการจ่ายเงินถูกลงนั่นเอง