HomeBrand Move !!Grab เดินหน้าสร้างรายได้ เล็งเจาะตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 ล้านคน

Grab เดินหน้าสร้างรายได้ เล็งเจาะตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 ล้านคน

แชร์ :

grab ททท

เปิดแผน Grab ประเทศไทย สร้างรายได้เพิ่มให้ธุรกิจเรียกรถ (Transport) ประกาศจับมือ ททท. รับการเติบโตภาคการท่องเที่ยว โชว์ตัวเลขบริการเรียกรถของนักท่องเที่ยวต่างชาติในไตรมาส 1 ของปี 2023 เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า พร้อมเปิดสถิติรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่นักท่องเที่ยวคือ GrabCar Premium

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

หลังจากออกมาประกาศว่าต้องทำกำไรให้ได้ในปีนี้ แผนของ Grab ในการสร้างรายได้ก็มีออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเป็นการจับมือระหว่าง Grab ประเทศไทยและ ททท. เพื่อเจาะตลาดนักท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างชาติ โดยคุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย และคุณนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า การจับมือกันระหว่างสององค์กรจะมีรูปแบบที่หลากหลาย พร้อมยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้น เช่น หากมีอีเวนท์ด้านการท่องเที่ยวของ ททท. ปรากฏขึ้นในสื่อออนไลน์ อาจเพิ่มฟีเจอร์ให้นักท่องเที่ยวสามารถกดเรียกรถ Grab เพื่อพาไปยังอีเวนท์ดังกล่าวได้เลย เป็นต้น

คุณวรฉัตร ลักรณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย และคุณนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

คุณวรฉัตร ลักรณาโรจน์ (ขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย และคุณนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ทำไกด์บุ๊ก 2 ภาษา “Grab&Go”

คุณวรฉัตรยังได้เผยว่า Grab ประเทศไทยได้มีการจัดทำหนังสือคู่มือการท่องเที่ยว 2 ภาษาขึ้นเป็นครั้งแรกในชื่อ Grab&Go โดยจะรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร เทศกาลต่าง ๆ ที่น่าสนใจใน 4 เมืองท่องเที่ยวหลักอย่าง กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต (มีภาษาอังกฤษและภาษาจีน) เพื่อแจกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย (ตัวหนังสือจะอยู่ใน GrabCar Premium โรงแรม สนามบิน ร้านอาหาร ฯลฯ)

คาดรายได้ท่องเที่ยวแตะ 2.38 ล้านล้านบาท

สำหรับในปี 2023 ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (เดือนพฤษภาคม) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้ว 9.9 ล้านคน สร้างรายได้ให้ประเทศแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ททท. ยังคาดการณ์ว่าในปี 2023 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย 25 – 30 ล้านคน และจะสร้างรายได้ให้กับประเทศ 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับรายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศ 8.8 แสนล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้รวมจากการท่องเที่ยว 2.38 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว

ขณะที่ในมุมของ Grab คุณวรฉัตรเผยว่า เพื่อให้ Grab สามารถเข้าถึงตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ง่ายขึ้น ทางแพลตฟอร์มได้มีการพัฒนาหลายฟีเจอร์ขึ้นมาตอบโจทย์ เช่น การแปลภาษาอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าถึงข้อมูลร้านอาหารที่มีชื่อเสียงบน GrabFood ได้มากขึ้น หรือการจ่ายเงินที่สามารถตัดเงินจาก GrabPay Wallet ในสกุลเงินของตัวเองได้โดยตรง ไม่ต้องแลกเป็นเงินบาทอีกต่อไป

นอกจากนั้น ยังได้จับมือกับแพลตฟอร์มที่มีการใช้งานสูงในภูมิภาคเอเชีย เช่น WeChat ให้สามารถใช้บริการเรียกรถของ Grab ได้จากแอปของ WeChatโดยตรง และสามารถเลือกจุดรับและจุดส่ง ดูประเภทรถได้ พร้อมคิดค่าโดยสารเป็นสกุลเงินของประเทศนั้น ๆ ส่วนถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ Uber มาก่อน หากมีการเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีการส่งต่อไปยัง Grab ให้โดยอัตโนมัติด้วย

GrabCar Premium ตอบโจทย์นักเดินทางต่างชาติ

ทั้งนี้ ผู้บริหาร Grab ยังได้เผยว่า บริการเรียกรถที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดคือ GrabCar Premium เนื่องจากตัวรถในกลุ่มนี้เป็นรถขนาดใหญ่ สามารถบรรทุกกระเป๋าเดินทางได้ ส่วนคนไทยจะนิยมเรียก JustGrab มากกว่า พร้อมเผยด้วยว่า หากมองในแง่การเติบโต GrabBike กลับเป็นบริการที่เติบโตสูงสุด

ส่วนในภาพรวมธุรกิจ คุณวรฉัตรเผยว่า บริการ Delivery คือธุรกิจที่ทำรายได้สูงสุดให้กับ Grab ประเทศไทย รองลงมาคือ Transport หรือบริการเรียกรถ ตามมาด้วย Enterprise (Grab for business ก็รวมอยู่ในกลุ่มนี้) และ Financial (บริการสินเชื่อสำหรับผู้ที่อยู่ใน Ecosystem ของ Grab) ส่วนการทำกำไรในปีนี้ คาดว่าจะได้เห็นตัวเลขที่ชัดเจนในไตรมาส 3


แชร์ :

You may also like