มากกว่าเบียร์ “ไฮเนเก้น” (Heineken) รุกธุรกิจ Non-Alcoholic แตกไลน์แบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ “Heineken Experience Silver” ใหม่ ขายสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ ประเดิมส่ง “สนีกเกอร์” ลิมิเต็ดเอดิชั่นคู่เดียวในไทย ให้สาวกร่วมลุ้นเป็นเจ้าของ ก่อนเตรียมเผยโฉม Retail Shop ในรูปแบบ Pop-Up Store ให้ได้ชมกันเร็วๆนี้
เป็นที่รู้กันดีว่าไฮเนเก้น (Heineken) คืออีกหนึ่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1873 มีความแข็งแกร่ง และสามารถปรับตัวเข้ากับทุกกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกตลอดท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน ล่าสุดกับการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ “Heineken Experience Silver” แบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์น้องใหม่ภายใต้เครือ TAP Trading ที่จะมามอบประสบการณ์ผ่านในมุมของ Item, Merchandise, Retail Shop หรือแม้แต่ Entertainment ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ที่เชื่อมทั้ง 3 ส่วนเข้าด้วยกัน โดยไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแอลกอฮอล์แต่อย่างใด
มากกว่าเบียร์ “Heineken Experience Silver” แฟชั่นแบรนด์ใหม่ ที่จะมาตอบโจทย์ Gen Zennial
สำหรับการเปิดตัว “Heineken Experience Silver” เพื่อรองรับความต้องการ สร้างแรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่ ในกลุ่มเป้าหมาย Gen Zennial อายุระหว่าง 18-35 ปี หรือกลุ่มคนที่ก้าวจากการเรียนไปสู่การทำงาน ชื่นชอบโซเชี่ยลมีเดีย และดิจิทัล ที่ถือเป็น Trendsetter ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่ม Big Spender และเป็น Opinion Leader ในขณะนี้ว่าต้องการอะไร
คุณภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีเอพี เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “แบรนด์ Heineken Experience Silver วางตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ให้เป็นแฟชั่นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่ตอบโจทย์เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ดึงเทรนด์ของแฟชั่นและนำเสนอสินค้าออกมาในรูปแบบ Lifestyle Item ออกมารองรับ ความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้น”
นอกเหนือจาก Business Unit ที่เป็นแบรนด์ใหม่ สิ่งที่ต้องชัดเจนคือ Positioning ของแบรนด์ว่าต้องการสื่อสารอะไรในความเป็นแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ครั้งนี้แบรนด์ถึงถ่ายทอด Positioning ผ่าน Tagline คำว่า “ปล่อยไหล” (Let it Flow) ซึ่งมีที่จากการทำรีเสิร์ซและพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็น Gen Zennial ว่า Insight ของพวกเขาเหล่านั้น มีความคาดหวังและความเชื่อมโยงผ่านโลกออนไลน์ (ดิจิทัลดิสรัปชั่น) ผ่านมุมมองจากสายตาคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น จำนวนคนที่มากดไลก์โซเชี่ยลมีเดีย จำนวนโพสต์ที่เกี่ยวกับซัคเซสสตอรี่ ทั้งหมดคือภาพที่เห็นเบื้องหน้า หากแต่ไม่มีใครสนใจเบื้องหลังมากนัก แบรนด์จึงนำเสนอผ่านคอนเซ็ปต์ใหม่ “ปล่อยไหล สมูทกันได้เกินคาด” เกิดมาจาก Pain Point ของคนรุ่นใหม่ที่ถูกกดดันด้วยเสียงสะท้อนเชิงลบและถูกตีกรอบจากสังคมคนรอบข้าง เพื่อช่วยให้มีแรงบันดาลใจของการค้นหาตัวเอง
นำเสนอผ่าน 2 แบรนด์แอมบาสเดอร์ ทอย-ธันวา บุญสูงเนิน (The Toys) และ พิมพ์-พีรลดา สุขวัฒก์ (Pyra) โดยบทบาทของ Brand Ambassador จะช่วยเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่จะสะท้อนมุมมองแนวคิดและยังเป็นคนสร้างแรงบันดาลใจรวมไปถึงกระบอกเสียง ทำให้คนเข้าใจถึงแอตติจูดของแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารการตลาด ซึ่งจะทำให้ภาพของแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์แบรนด์ Heineken Experience Silver ชัดเจนมากขึ้นผ่านตัวตนของทั้งคู่
“สนีกเกอร์” ลิมิเต็ดเอดิชั่นจาก “ไฮเนเก้น” คู่เดียวในไทย Item แรกที่จะมาปลุกใจนักสะสม
ในแง่ของการทำตลาด “Heineken Experience Silver” มีการวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่หลากหลาย ผ่าน Lifestyle Marketing เพื่อส่งมอบความเป็นแบรนด์ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของกลุ่มเป้าหมาย โดยมี Item สุดพิเศษต่างๆ ออกมาในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ศิลปะ หรือแม้กระทั่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์ต่างๆ
โดยไอเท็มแรกที่จะเปิดตัวคือ “สนีกเกอร์” จาก “Heineken Experience Silver” ที่มีเพียง 32 คู่ในโลก และมีเพียง 1 คู่ในไทย ผลงานดีไซน์ของ Dominic Ciambrone ผู้สร้างสรรค์ศิลปะผ่านรองเท้าชื่อดังในวงการ โดยความพิเศษของการครอบครองรองเท้าคู่นี้ไม่ได้เปิดวางจำหน่าย แต่เปิดโอกาสให้คนที่อยากครอบครองเข้าร่วมแคมเปญ #คู่เดียวในไทยอยากได้ต้องเหยียบ เชิญชวนให้ทุกคนไปวัดไซส์รองเท้าด้วยการเหยียบกับภาพโฆษณา “The Ads you can kick” บนสื่อ Out-Of-Home ที่ติดอยู่ตามสถานที่ต่างๆ รวมไปถึง Giant Shoebox ที่ตั้งอยู่ที่สามย่านมิตรทาวน์
ขณะที่ความพิเศษในเฟสถัดไปจะเป็นการทำงานร่วมกับ Brand Ambassador ทั้งแฟชั่น ศิลปะ รวมไปถึงการผสานกำลังกับพาร์ทเนอร์ชื่อดังต่างๆ ทำ Collaboration Project ร่วมกับแบรนด์ไทยชื่อดัง โดยในปีนี้จะได้เห็นไอเท็ม เสื้อผ้า สนีกเกอร์ และแพลตฟอร์มสินค้าต่างๆอีก 4-5 ซีรี่ส์ ทั้ง Product และ Service ก่อนที่จะเตรียมต่อยอดในรูปแบบ Retail Shop ในรูปแบบ Pop-Up Store ในอีกราว 6 เดือนข้างหน้า
การเปิดตัวดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อต้องการเป็น Trendsetter ในกลุ่มไลฟ์สไตล์เทรดดิ้ง โดยสินค้าในแบรนด์ยังจะสามารถควบรวมอยู่ในแฟชั่น ไอเท็ม อยู่ในมุม รีเทลช้อป เอ็นเตอร์เทนเมนต์ในพื้นที่ต่างๆได้ในอนาคต และหากได้รับการตอบรับที่ดีแน่นอนมีแผนขยายไปยังแบรนด์อื่นๆ ในเครือ ไม่ว่าจะเป็น Cheers และ Tiger ในอนาคตได้เช่นกัน โดยในช่วง 1-2 ปีแรกของการเปิดตัว Heineken Experience Silver จะเป็นช่วงของการสร้างแบรนด์ก่อน แต่ในระยะยาว จากแพลตฟอร์มที่มีกว้างในแง่แบรนด์และการทำงาน จะสามารถสร้างการเติบโตทางด้านธุรกิจได้เป็นอย่างดี
อ่านเพิ่มเติม
ไฮเนเก้น คืนชีพ “Music Marketing” จับตา “ไฮเนเก้น ซิลเวอร์” ลาเกอร์น้องใหม่กับการเจาะ Young Gen