หายตัวจากตลาดสมาร์ทโฟนไทยไปเกือบ 3 ปี ล่าสุด “ออเนอร์” (Honor) แบรนด์มือถือจากจีนประกาศกลับมารุกตลาดไทยแล้วอีกครั้ง โดยตั้งเป้า 3 ปีขึ้นเป็น Top3 ของตลาดไทยให้ได้ พร้อมเผยภาพรวมในตลาดจีนที่ปัจจุบันขึ้นเป็นเบอร์ 2 ขณะที่ในตลาดโลกก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับ 6 แล้ว
สำหรับ Honor หากใครที่เคยติดตามแวดวงสมาร์ทโฟนอาจคงทราบว่า Honor เคยเป็นแบรนด์น้องของหัวเว่ย (Huawei) โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2013 และในระยะแรก Honor ถูกวางตัวไว้ในฐานะ Fighting Brand สำหรับต่อกรกับคู่แข่งในตลาดระดับกลางถึงล่าง รวมถึงตลาดอีคอมเมิร์ซแทน Huawei
อย่างไรก็ดี การโจมตี Huawei ที่เกิดขึ้นโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ทำให้เกิดการขายกิจการ Honor ให้กับ Shenzhen Zhixin New Information Technology ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลโดย The Shenzhen municipal government แทน (เกิดขึ้นในปี 2020) รวมถึงทีมวิศวกร และ R&D ของ Huawei อีกราว 8,000 ชีวิตที่ย้ายค่ายมาอยู่กับทาง Honor ด้วย และทำให้มีการดึงแบรนด์ Honor ออกจากตลาดไทยไประยะหนึ่ง
การกลับมาของ Honor
สำหรับการกลับมาครั้งนี้ของ Honor รวมถึงกลยุทธ์ในการก้าวขึ้น Top3 ของตลาดไทยนั้น พบว่าเป็นการจับมือกับทางซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่เข้ามาให้บริการแบบ Full Service ให้กับทางแบรนด์ ตั้งแต่การดูแลช่องทางการจัดจำหน่าย ไปจนถึงบริการหลังการขาย โดยคุณสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า ได้เริ่มส่งสมาร์ทโฟนของ Honor บุกตลาดไทยแล้วในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา และในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023 นี้ก็จะรุกตลาดเพิ่มด้วยสมาร์ทโฟน Flagship อย่างรุ่น Honor Magic5 Pro 5G ที่มีราคา 29,990 บาท เพื่อเจาะตลาดผู้ซื้อระดับกลางถึงบน เนื่องจากพบว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากสภาพเศรษฐกิจ และผู้ซื้อสินค้าในระดับราคาดังกล่าวให้ความสนใจกับประสิทธิภาพของตัวเครื่อง เช่น ความสามารถของกล้อง, เอไอ, แบตเตอรี่, การรองรับ 5G, ระบบเสียง, หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ใส่ลงมาในโทรศัพท์ พอสมควร
Q1 ยอดขาย Honor โต 30%
ทางซินเน็ค ยังได้เปิดเผยข้อมูลยอดขายสมาร์ทโฟนของ Honor ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2022 เทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2023 ด้วยว่า เติบโตขึ้นถึง 30% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สวนทางกับภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนไทยที่มีแนวโน้มลดลงประมาณ 17% (ตัวเลขยอดขายไตรมาส 1 YoY) โดยรุ่นที่ขายดีที่สุด ได้แก่ สมาร์ทโฟนรุ่น Honor 70 5G ในกลุ่มระดับราคาหมื่นกลาง และ Honor X9a 5G ในระดับราคาหมื่นต้น
ดัน 4 กลยุทธ์ ก้าวขึ้น Top3 ใน 3 ปี
จากความสามารถในการซื้อสมาร์ทโฟนระดับกลาง – บนที่กลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ ทาง Honor จึงวางกลยุทธ์การทำตลาดในไทยด้วยการเดินหน้าส่งสินค้ากลุ่มพรีเมียมเข้ามามากขึ้น รวมถึงการเปิดตัวรุ่น Flagship อย่าง Magic5 Pro 5G ด้วยนั่นเอง โดยทางแบรนด์เผยว่า ตั้งเป้าการเติบโตของสินค้าในตระกูล Magic ในปีนี้ว่าต้องไม่ต่ำกว่า 5 เท่า
นอกจากนั้น หากมองในแง่ของการพัฒนาตัวสินค้าจะพบว่า การทำตลาดสมาร์ทโฟนในปี 2023 จะแตกต่างจากปี 2020 – 2022 เนื่องจากปัญหาซัพพลายเชน – การระบาดของ Covid-19 ได้จบลงแล้ว (ในช่วงปีที่มีปัญหาด้านซัพพลายเชน แม้ว่าจะมีความต้องการแต่ก็ไม่มีชิ้นส่วนมากพอที่จะผลิตสินค้าได้) ทำให้ทางแบรนด์สามารถสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่จะรุกตลาดได้มากขึ้น โดยมีตั้งแต่ระดับ Entry Level ไปจนถึงระดับพรีเมียม จึงมองว่าความแข็งแกร่งในจุดนี้จะนำไปสู่ยอดขายตามที่ Honor ตั้งเป้าไว้ได้
อีกความเคลื่อนไหวหนึ่งคือ การขยาย Honor Experience Store เป็น 15 สาขาภายในสิ้นปี (จากปัจจุบันที่มีอยู่ 6 สาขา) รวมถึงขยายจุดการขายเดิมจาก 2,300 จุดเป็น 4,000 จุด และเพิ่มพนักงานขายทั่วประเทศอีก 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และข้อสุดท้ายคือบริการหลังการขายที่คุณสุธิดาเผยว่ามีศูนย์บริการของซินเน็คภายใต้สโลแกน Trusted by Synnex อีก 11 สาขารองรับนั่นเอง
การกลับมารุกตลาดของ Honor ในวันนี้ จึงอาจเปรียบได้กับการเริ่มเส้นทางใหม่ของตัวเอง ซึ่งน่าสนใจว่าเป็นเส้นทางที่ยังคงซื้อชิปจากแบรนด์ดังในสหรัฐอเมริกาได้ เข้าถึงซอฟต์แวร์ต่าง ๆ จาก Google ได้ ทำตลาดในประเทศต่าง ๆ ได้ และนั่นอาจทำให้พวกเขาแข็งแกร่งมากขึ้น รวมถึงไปได้ไกลกว่า Huawei ในเวทีระดับโลกของยุคหลัง Covid-19 ก็เป็นได้