ซีอีโอไอบีเอ็ม (IBM) ส่งจดหมายถึงพนักงาน 260,000 ชีวิต เผยถ้าอยากก้าวหน้าในอาชีพ หรือเติบโตเป็นผู้บริหาร การกลับเข้าออฟฟิศอาจเป็นประโยชน์มากกว่าการทำงานจากระยะไกล (Remote Work)
ผู้ที่ออกมาเตือนครั้งนี้คือ Arvind Krishna ที่มองว่า คนที่จะได้รับการโปรโมตเป็นผู้บริหารนั้น จำเป็นต้องดูแลลูกน้อง ซึ่งการดูแลลูกน้องที่กระจัดกระจายเป็นเรื่องยาก อีกทั้งการกลับเข้ามาในออฟฟิศ ยังสามารถพัฒนาทักษะต่าง ๆ ได้ดีกว่าคนที่ทำงานจากระยะไกลด้วย
อย่างไรก็ดี ซีอีโอไอบีเอ็มบอกว่า บริษัทยังไม่มีนโยบายกดดันให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศเต็มรูปแบบ และคาดหวังแค่พนักงานจะกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ แต่คนที่ไม่กลับเข้าออฟฟิศเลยนั้นจะได้รับบททดสอบมากกว่าหากต้องการเลื่อนขั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลื่อนขั้นไปสู่ตำแหน่งผู้บริหาร
ทั้งนี้ แนวคิดเรื่องการทำงานจากระยะไกล กับการกลับเข้าออฟฟิศเริ่มเป็นที่ถกเถียงกันมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะหลังจาก Covid-19 ผ่านพ้นไป โดยฝ่ายที่สนับสนุนการทำงานจากระยะไกลมองว่า ช่วยให้พนักงานมีความสุขมากขึ้น แต่ในฝ่ายที่คัดค้านมองว่า การทำงานร่วมกันในออฟฟิศนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่า
ข้อมูลจาก National Bureau of Economic Research ในหัวข้อ Why working from home will stick พบว่า ปัจจุบัน อเมริกันชนราวครึ่งหนึ่งทำงานแบบ Hybrid และมีประมาณ 1 ใน 5 ที่ทำงานจากระยะไกล ส่วนที่เหลือคือกลับเข้าออฟฟิศเต็มรูปแบบแล้ว แต่นักวิจัยก็พบด้วยว่า คนที่ทำงานจากระยะไกลเริ่มรู้สึกว่า ตำแหน่งของตัวเองนั้นไม่มั่นคง เนื่องจากมีข่าวการปลดพนักงานของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกาออกมาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารไอบีเอ็มมองว่า การทำงานแบบ Remote Work นั้นอาจไม่ได้เหมาะกับทุกฝ่าย โดยอาจเพิ่มประสิทธิภาพให้กับฝ่าย Customer Service หรือโปรแกรมเมอร์ได้บ้าง แต่ในระยะยาวแล้ว Remote Work ไม่อาจทำให้เกิดการเติบโตด้านหน้าที่การงานได้ ซึ่งปัจจุบัน ข้อมูลของ Bloomberg ระบุว่า พนักงานไอบีเอ็มราว 80% ทำงานในลักษณะดังกล่าวอยู่