เดลิเวอรี่ (Delivery) คืออีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรงและมีการเติบโตมาเป็นอันดับต้นๆ ในช่วงโควิด-19 เนื่องจากสามารถตอบรับพฤติกรรมลูกค้า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในยุคที่หลายคนเร่งรีบ ไม่มีเวลา LINE MAN Wongnai เป็นแพลตฟอร์มด้านอาหารครบวงจร ที่มีผู้ใช้งานหลายมากกว่า 10 ล้านคนต่อเดือน และมีฐานข้อมูลร้านอาหารกว่า 5 แสนร้านค้าในปัจจุบัน
หลังจาก Line Man และ Wongnai ร่วมกิจการจนเกิดเป็น LINE MAN Wongnai ในปี 2563 ทำให้กลายเป็นฟู้ดเดลิเวอรี่ที่มีความแข็งแกร่งเหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่น ๆ เนื่องจากจุดแข็งหลายด้าน ทั้งการใช้เน็ตเวิร์กผ่าน Line Chat จนสร้างการเติบโตต่อเนื่องสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือจำนวนไรเดอร์และการเพิ่มร้านค้า Exclusive เฉพาะ Line Man การเปิดฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่พัฒนามาตอบโจทย์ลูกค้า เช่น ฟีเจอร์สั่งอาหารเป็นกลุ่ม (Group Ordering) สำหรับคนที่อยากสั่งพร้อมเพื่อนหรือครอบครัวในออร์เดอร์เดียวกันเมื่อเดือนที่ผ่านมา และการเก็บส่วนลดต่างๆมากมาย
ทำให้ภาพรวมธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ของ LINE MAN Wongnai ระหว่างเดือน ม.ค. 2565 จนถึง เม.ย. 2566 หรือในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา มีมูลค่าธุรกรรมรวม (GMV) เติบโตขึ้น 33% สวนทางกับตลาดฟู้ดเดลิเวอรีในปีนี้ ที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าประมาณ 81,000-86,000 ล้านบาท ลดลงระหว่าง 0.8-6.5%
คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไลน์แมน วงใน (LINE MAN Wongnai) กล่าวว่า การแข่งขันในตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ที่แข่งขันกันรุนแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลอดช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 มีผู้เล่นหลายรายเข้ามาชิงส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น แต่หลังจากนี้ไปการแข่งขันในตลาด Food Delivery เมืองไทยจะมาถึงจุดที่อยู่ตัว ผู้เล่นที่เหลืออยู่คือผู้เล่นตัวจริงที่จะสามารถสร้างการเติบโตได้ในอนาคต โดยจะเหลือเพียงแค่ 3 ราย (ที่อยู่ในจุดที่สามารถแข่งขันได้) จากปัจจุบันมีจำนวนผู้ประกอบการหลักเหลือ 5 ราย ได้แก่ Line Man Wongnai, Grab, Robinhood, Food Panda และ Shopee Food
นั่นทำให้ LINE MAN Wongnai ได้ประกาศแผนการปูพรมธุรกิจใน 77 จังหวัดทั่วไทย เพื่อรองรับการแข่งขันและแนวโน้มบริการเดลิเวอรี่ที่กระจายไปในวงกว้าง ขณะเดียวกันยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ LINE MAN Only รวบรวมร้านที่สั่งได้เฉพาะบน LINE MAN ในเดือนหน้าเตรียมต่อยอดไปยังธุรกิจการบริการใหม่ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการเข้าไปเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีก 2-3 ปีข้างหน้า
“3 ปีที่ผ่านมา เรามีผลประกอบการทั้งกำไร ขาดทุน จากวันแรกที่ขาดทุนเยอะมากถึงวันนี้ใกล้ทำกำไรแบบเต็มที่ แม้ทุกวันนี้ยังไม่คืนทุนครบทุกกลุ่มธุรกิจ แต่แนวโน้มเติบโตดีขึ้นเรื่อยๆ จากนี้ไปเราจะมุ่งเรื่องกำไรเยอะขึ้น เพราะที่ผ่านมาการเติบโตในตลาดถือว่าแข็งแรงและยังสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าปีนี้จะคืนทุนทั้งหมด และเป็นสะพานต่อไปให้เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในอีก 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด ณ ขณะนั้นว่าจะมีความพร้อมากน้อยขนาดไหน”
เปิด 4 โฟกัส ปี 2566 มุ่งเป้าคืนทุนทุกธุรกิจ ต่อยอดความสำเร็จเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ใน 2-3 ปี
ขณะที่พฤติกรรมลูกค้ายุคหลังโควิดมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย แม้จะมีความถี่ของการช้อปปิ้งน้อยลง แต่พบว่า ลูกค้ามีการสั่งสินค้าขนาดใหญ่ต่อตระกร้าเติบโตขึ้นแบบดับเบิ้ลดิจิต หรือมากกว่า 10% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา โดยกลุ่มลูกค้า Heavy User มีอัตราการสั่งซื้อ 20-30 ครั้งต่อเดือน และส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมือง ลูกค้าที่มากที่สุดอายุ 24-25 รองลงมาอายุ 35-44 และอายุ 18-24 ปี ลูกค้าผู้หญิงมากที่สุดกว่า 60%
จากพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้ในปี 2566 นี้ Line Man Wongnai เดินหน้ายุทธศาสตร์ครั้งสำคัญใน 4 ส่วนหลัก เพื่อผลักดันรายได้ และผลประกอบการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบด้วย
- Invest in the expansion cities : ลงทุนในการขยายไปยังเมืองต่างๆมากขึ้น ทั่วประเทศตั้งแต่ระดับจังหวัดไปจนถึงอำเภอ ที่มีศักยภาพในการให้บริการดีลิเวอรี่
- Grow Non-food Services and Merchant Solution : การขยายบริการที่ไม่ใช่อาหารและเพิ่มโซลูชั่นต่างๆ เพื่อบริการลูกค้ามากขึ้น
- Localization : การขยายธุรกิจและบริการ ร้านค้า ร้านอาหารเข้าไปในท้องถิ่นมากขึ้น
- No.1 Restaurant choices : เลือกร้านค้าพาร์ทเนอร์แบบ Exclusive เฉพาะ Line Man พร้อมเพิ่มโปรโมชั่นพิเศษ ลูกค้า ร้านอาหาร ปลุกกำลังซื้อมากขึ้น
นอกจากกลุ่มธุรกิจ Food Delivery ที่ทางค่ายหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องทำผลกำไรให้เติบโตแล้ว Line Man Wongnai ยังมีกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่ฟู้ดเดลิเวอรี่ (Non-food) ที่ประสบความสำเร็จ สร้างผลกำไรเติบโตต่อเนื่อง ประกอบไปด้วย บริการส่งสินค้าเมสเซนเจอร์ และแท็กซี่ ที่มียอดใช้งานเติบโต 2 เท่า , บริการสั่งของสดและของใช้ด่วนผ่านไลน์แมนมาร์ท (Line Man Mart) มียอดออเดอร์เติบโต 1.6 เท่า และธุรกิจ Merchant Solutions ที่เน้นให้บริการระบบจัดการร้านอาหาร (Wongnai POS) โดยปัจจุบันไลน์แมนวงในคือเจ้าตลาด POS (Point of Sale) มีผู้ประกอบการร้านอาหารใช้งานมากกว่า 50,000 ร้านค้า
ส่ง Food Delivery ปูพรมรุกแดนใต้ ต่อยอดโมเดลระดับอำเภอ ปูพรม 800 แห่งทั่วไทย
ทั้งนี้ปัจุจุบัน Line Man Wongnai คือหนึ่งในผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ที่มีหลากหลายค้าธุรกิจหนึ่งในหัวใจสำคัญของ LINE Man คือ Food Delivery เป็นกลุ่มธุรกิจสำคัญในการผลักดันรายได้หลัก ทำให้โฟกัสนับจากนี้จะมีการรุกตลาดฟู้ดเดลิเวอรี 77 จังหวัดทั่วประเทศมากขึ้นไปจนถึงระดับอำเภอและท้องถิ่น ด้วยการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพิ่มช่องทางขายให้ร้านอาหาร เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค สร้างงานสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการและไรเดอร์
หลังปีที่ผ่านมา พบว่า พื้นที่ต่างจังหวัดมีจำนวนออเดอร์เติบโตถึง 17% และจำนวนผู้ใช้งานเติบโตขึ้น 10% จึงเห็นโอกาสเติบโตในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยได้ทุ่มงบการตลาดในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 2 เท่า เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานและเพิ่มตัวเลือกร้านอาหารทั่วประเทศไทยให้มากขึ้น
ทั้งนี้หากพิจารณาตามพื้นที่ ตั้งแต่ เดือน มกราคม 2565 – เมษายน 2566 Line Man Wongnai มีจำนวนออเดอร์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเติบโต 25% จำนวนผู้ใช้งานเติบโตขึ้น 27% ในขณะที่พื้นที่ต่างจังหวัดมีออเดอร์เติบโต 17% และจำนวนผู้ใช้งานเติบโตขึ้น 10% โดย Line Man มีไรเดออยู่ทั่วประเทศกว่า 600,000 ราย มีร้านค้าในแพลตฟอร์มมากว่าอีก 500,000 แห่ง ครอบคลุม 250 อำเภอ จากทั้งหมดราว 800 อำเภอทั่วไทย โดยในอนาคตอันใกล้นี้ ไลน์แมนฯจะต้องเพิ่มการบริการให้ครอบคลุมในทุกอำเภอที่มีศักยภาพทั่วไทย
ภาคใต้ คือโมเดลต้นแบบที่ Line Man Wongnai จะใช้เป็นพื้นที่ในการขยายบริการในระดับภูมิภาคทั่วประเทศมากขึ้น เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตสูง มีมูลค่าธุรกรรมรวม (GMV) โต 38% โดยปัจจุบัน LINE MAN มีจำนวนร้านอาหารภาคใต้มากกว่า 100,000 ร้าน สร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้กับไรเดอร์ในภาคใต้กว่า 14,000 คน ไรเดอร์ที่ทำรายได้สูงสุดต่อวันได้มากถึง 1,654 บาท
โดยจังหวัดตรังเป็นจังหวัดดาวรุ่งพุ่งแรงอันดับหนึ่งของภาคใต้ ยอดออเดอร์เดลิเวอรี่บน LINE MAN เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 64% มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 73% สะท้อนว่าดิจิทัลแพลตฟอร์มช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ช่วยเพิ่มรายได้ให้ร้านอาหารในจังหวัดรวมกว่า 7,000 ร้าน ประเภทเมนูอาหารยอดฮิตที่คนตรังนิยมสั่งผ่านเดลิเวอรี่ ได้แก่ ข้าวผัด ชาเย็น ลาบหมู และก๋วยเตี๋ยวเรือ
“ปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ฟู้ดเดลิเวอรี่ในจังหวัดตรังเติบโตต่อเนื่องเกิดจากความชื่นชอบและต้องการความสะดวกสบายของผู้ใช้ จำนวนร้านค้าบนแพลตฟอร์มที่มีมากและหลากหลายประเภททำให้เลือกร้านอาหารได้ตามที่ต้องการ รวมถึงแคมเปญส่งเสริมการตลาดที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่น” คุณยอดกล่าว
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแม้จะยังไม่มีคำตอบจาก “คุณยอด ชินสุภัค” CEO Line Man Wongnai เกี่ยวกับข่าวการเตรียมเจรจาซื้อกิจการฟู้ดแพนด้า (Foodpanda) แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ ในประเทศไทย จากกลุ่มทุนเยอรมนี Delivery Hero เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นไปตามแผนนำธุรกิจระดมทุน IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า แต่ CEO แห่งไลน์แมนฯ ก็ประกาศว่า ปีนี้คือปีที่บริษัทจะคืนทุนและทำกำไรในทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แน่นอน
อ่านเพิ่มเติม
LINE MAN Wongnai พาส่องอินไซต์ “ฟู้ดเดลิเวอรี่” โดนใจคนไทย อาหารอีสานครองแชมป์ เมนูยอดฮิต