อานิสงส์เศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวฟื้นตัว ดันผลประกอบการ MAKRO ไตรมาส 1/2566 ทำรายได้รวม 120,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% ลุยเดินหน้าขายสาขาแม็คโคร-โลตัส เร่งบริหารจัดการต้นทุนติดตั้ง Solar rooftop ให้ครอบคลุมเพิ่ม 1,150 แห่งทั่วไทยในปี 2567 รับมือค่าไฟพุ่ง
คุณเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร และประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจสายงานบัญชีและการเงิน เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 (มกราคม – มีนาคม) ว่า บริษัทสามารถสร้างรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 120,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 111,418 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,050 ล้านบาท เป็นผลมาจากธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ที่มีกำไร 1,897 ล้านบาท และค้าปลีก โลตัส ที่มีกำไร 269 ล้านบาท
โดยภาพรวมการเติบโตในไตรมาสแรกที่ผ่านมา มีปัจจัยบวกมาจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการเปิดประเทศ ส่งผลให้ภาคธุรกิจบริการต่าง ๆ กลับมาคึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มโฮเรก้า (Horeca) ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและจัดเลี้ยง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าหลักของธุรกิจค้าส่ง แม็คโคร
ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนของธุรกิจ เน้นการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเพื่อรับมือต้นทุนพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้น จากการเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนที่ผลิตในสาขาทั้งแม็คโครและโลตัส โดยปัจจุบันมีการติดตั้ง แผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar rooftop) ในสาขาแม็คโครแล้วกว่า 76 สาขา ขณะที่โลตัสติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาไปแล้ว 566 สาขา รวม 642 สาขา คาดว่าภายในปี 2567 จะครอบคลุมกว่า 1,150 สาขา ซึ่งจะมีกำลังการผลิตคิดเป็นกว่า 13% ของการใช้พลังงานทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ธุรกิจค้าส่งยังได้รับผลดีจากการขยายสาขาใหม่ โดยไตรมาสแรกของปีนี้ได้เปิดให้บริการแม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขาสนามบินน้ำ และยังมีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ ส่วนค้าปลีก โลตัส ได้เปิด พรีเมียมไฮเปอร์มาร์เก็ต โลตัส พรีเว่, โลตัสไฮเปอร์มาร์เก็ต สีคิ้ว และ โลตัส โก เฟรช 19 สาขา
ในระยะยาวได้วางแผนผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายสาขา และการเพิ่มยอดขายออนไลน์ โดยมีแผนเปิดแม็คโครสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดบริการแม็คโคร สาขาเทพรักษ์ เพื่อรองรับกำลังซื้อผู้บริโภคในย่านสายไหมเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ส่วนของ โลตัส วางแผนเปิดสาขาในปี 2566 จำนวนกว่า 200 สาขา พร้อมทั้งมุ่งพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์และบริการจัดส่งสินค้านอกร้านแบบไร้รอยต่อ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคปัจจุบัน ที่ต้องการความสะดวกสบายยิ่งขึ้น