จากที่ก่อนหน้านี้ ทาง Netflix ได้เริ่มใช้นโยบายจำกัดการแชร์พาสเวิร์ดกับผู้ใช้งานที่อยู่กันคนละครัวเรือนในหลายประเทศทั่วโลก มาวันนี้น่าจะถึงเวลาของ “ประเทศไทย” กันแล้ว เมื่อทางแพลตฟอร์มได้ประกาศผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ว่าผู้ใช้งาน Netflix ในประเทศไทยจะสามารถแชร์บัญชีกันได้ เฉพาะ “ผู้ที่อยู่อาศัยในครัวเรือนเดียวกัน” เท่านั้น
Netflix ระบุถึงข้อกำหนดใหม่นี้บนเว็บไซต์ของบริษัทว่า
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะเริ่มส่งอีเมลฉบับนี้ไปยังสมาชิกในประเทศไทยที่แชร์บัญชี Netflix กับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในครัวเรือนเดียวกัน
บัญชี Netflix มีไว้สำหรับใช้งานในครัวเรือนเดียวกัน ทุกท่านที่อาศัยอยู่ในครัวเรือน สามารถใช้บัญชี Netflix ร่วมกันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ทั้งที่บ้าน ระหว่างเดินทาง หรือท่องเที่ยวพักผ่อน รวมทั้งสมาชิกจะได้รับประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่ เช่น การถ่ายโอนบัญชี และการจัดการสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชีและอุปกรณ์ของตน
เราทราบดีว่า สมาชิกมีตัวเลือกความบันเทิงมากมาย นั่นคือเหตุผลที่เราลงทุนอย่างต่อเนื่องและทุ่มเทเพื่อให้มีภาพยนตร์และซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ที่หลากหลายรสชาติ ไม่ว่าท่านจะมีรสนิยมอย่างไร อยู่ในอารมณ์ไหน หรือแม้แต่ภาษาและผู้ที่รับชมร่วมกับท่านจะเป็นใคร Netflix ก็มีเนื้อหาคุณภาพเยี่ยมพร้อมให้ท่านพึ่งพอใจในการรับชมเสมอ”
ทั้งนี้ ผู้ใช้งานที่อยากแชร์บัญชีกับคนในครอบครัว แต่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ทาง Netflix บอกว่า สามารถซื้อบริการสมาชิกเสริมได้ โดยจ่ายเพิ่มเดือนละ 99 บาทต่อบัญชี
ย้อนอดีตปัญหา แชร์พาสเวิร์ดทำหุ้นร่วงกราวในปี 2022
สำหรับแนวคิดเรื่องปัญหาการแชร์พาสเวิร์ดเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นมานานแล้วบนแพลตฟอร์มดัง และทางบริษัทได้เคยหยิบเรื่องดังกล่าวมาอธิบายแล้วหลายครั้งในการแถลงผลประกอบการปี 2022 ไม่ว่าจะเป็นการเตือนว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปีดังกล่าว อาจมีผู้ใช้งานลดลงถึง 2 ล้านบัญชี (แต่ผลการดำเนินงานจริงลดไป 9.7 แสนบัญชี) ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวถือว่าเป็นช่วงที่ยากลำบากของ Netflix พอสมควรเลยทีเดียว
ส่วนแนวทางในการจัดการปัญหาดังกล่าวพบว่า ทางแพลตฟอร์มได้เริ่มมีนโยบายกับประเทศในละตินอเมริกาก่อนเป็นภูมิภาคแรก ๆ โดยทางแพลตฟอร์มจะตรวจสอบการใช้งานว่าอยู่ในเน็ตเวิร์กเดียวกันหรือไม่ และหากพบว่ามีการใช้งานนอกเครือข่ายไวไฟของบัญชีหลักก็จะมีการส่งจดหมายแจ้งเตือนให้เจ้าของบัญชีทราบต่อไป รวมถึงมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับอุปกรณ์ – ผู้ใช้งานที่อยู่นอกเครือข่ายไวไฟนั้น ๆ ด้วย
ไทยถกเดือด ประเด็นอยู่ครอบครัวเดียวกัน
อย่างไรก็ดี การประกาศดังกล่าวของ Netflix ได้ทำให้เกิดการแสดงความคิดเห็น – ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินของ Netflix ที่อิงจาก IP Address ของทีวีในบ้านหลัก โดยผู้บริโภคบางส่วนมองว่า การรับชม Netflix ผ่านอุปกรณ์เช่น แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งที่สะดวกมากกว่า และปัจจุบันครอบครัวมีขนาดเล็กลง ทีวีอาจไม่ใช่อุปกรณ์ที่เป็นศูนย์กลางของบ้านอีกต่อไปแล้ว
นอกจากนั้น ความเห็นในเรื่องความละเอียดระดับ 4K ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยผู้บริโภคบางส่วนมองว่า Netflix กำลังบีบให้ผู้บริโภคที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ตัวคนเดียว หรือเป็นครอบครัวขนาดเล็กที่มีแค่สามีภรรยา แต่อยากรับชมภาพยนตร์ 4K ต้องจ่ายแพงขึ้น และได้แอคเคาน์เพิ่มมาอีก 2 แอคเคาน์โดยที่ไม่มีสมาชิกในบ้านที่จะแชร์ด้วยได้ ซึ่งหลาย ๆ ความเห็นมองว่า หากปัญหาดังกล่าวไม่มีทางออกที่น่าพอใจ การยกเลิกการสมัครสมาชิกอาจเป็นทางออกที่ดีกว่าในยุคที่มีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมากมายเป็นทางเลือกในขณะนี้