HomePR NewsYDM เปิดตัว YDM MAX ลงโฆษณา ACROSS PLATFORM เพิ่มโอกาสปิดการขายสูงขึ้น 2 เท่า [PR]

YDM เปิดตัว YDM MAX ลงโฆษณา ACROSS PLATFORM เพิ่มโอกาสปิดการขายสูงขึ้น 2 เท่า [PR]

แชร์ :

คุณธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ซีอีโอบริษัท YDM Thailand

วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) หรือ YDM เอเจนซี่ด้านการตลาดและการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล  เปิดตัว “YDM MAX” แพลตฟอร์มช่วยบริหารจัดการสื่อโฆษณาออนไลน์แบบ Across Platform โดย AI รายแรกในประเทศไทย ชูจุดแข็งเพิ่มโอกาสปิดการขายขึ้นกว่า 2 เท่า ลดต้นทุนโฆษณากว่า 50%

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่านับเป็นครั้งแรกของวงการดิจิทัลเอเจนซี่ในประเทศไทย ในกลุ่ม MarTech กับการเปิดตัว “ YDM MAX” แพลตฟอร์มช่วยบริหารจัดการสื่อโฆษณาออนไลน์อัจฉริยะ สามารถบริหารจัดการสื่อโฆษณาออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มได้ในที่เดียว โดยนำเอาเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ช่วยบริหารจัดการสื่อโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ เพื่อใช้งบโฆษณาให้เกิดประโยชน์สูงสุด นำไปสู่ผลลัพธ์ทางการตลาดที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยจากการทดลองรันแคมเปญผ่าน YDM MAX กับ 2 อุตสาหกรรม คือ ประกันภัยรถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์ พบว่า YDM MAX สามารถช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขายขึ้นกว่า 2 เท่า โดยเพิ่มจำนวน Quality Lead ขึ้นกว่า 100% และลดต้นทุนค่าโฆษณา (Cost per Lead) ลงกว่า 50%

YDM MAX ระบบการลงโฆษณาข้ามแพลตฟอร์ม (ACROSS PLATFORM) ด้วย AI มาพร้อม 3 คุณสมบัติเด่นคือ

1. การบริหารจัดการ Big data (Audience Building) ผ่านการเชื่อมต่อฐานข้อมูลจากหลายแหล่ง ทั้งจากเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่แบรนด์มี และยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์การเชื่อมต่อเข้า Data partner ที่ทาง YDM ได้รวบรวม และจัดทำข้อมูลผู้บริโภคในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เอาไว้แล้วอีกด้วย โดยสามารถดึงข้อมูลที่มีมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ค้นหาพฤติกรรม และความต้องการใหม่ ๆ ออกมาเป็นกลุ่มเซ็กเมนต์ใหม่ ๆ เพื่อนำมากำหนดกลยุทธ์ในงานมีเดียให้เห็นผลมากขึ้น

2. ระบบ Optimize Media สื่อโฆษณาข้ามแพลตฟอร์มในที่เดียว (Multi-Media-Integration) ช่วยบริหารงบโฆษณาลงในแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น Facebook, YouTube, Instagram, Tiktok, Twitter และ LINE รวมทั้ง Google Search โดยใช้เทคโนโลยี Machine Learning หรือ ระบบ AI ช่วยในการโยกเงินลงในแต่ละแพลตฟอร์ม แต่ละครีเอทีฟ และ แต่ละกลุ่มเป้าหมายแบบอัตโนมัติ โดยสามารถทำการ Optimize Media ได้ทุกโมเดล ทั้งในรูปแบบของยอดการรับชม (Views) การคลิกเข้าถึงข้อมูล (Click) การสมัครขอข้อมูล (Leads)และ แม้กระทั่งยอดขาย (Sales) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ลดเวลา ลดความผิดพลาด ที่มนุษย์ไม่อาจทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง

3. ระบบบริหารจัดการผลลัพธ์ (Result Management) อัตโนมัติด้วยแดชบอร์ด ประมวลผล โดยรวมผลลัพธ์ของทุก ๆ มีเดียแพลตฟอร์มไว้ในที่เดียว เรียบง่าย ทรงพลัง ลดเวลาในการวิเคราะห์ พร้อมระบุข้อมูลเชิงลึกในแคมเปญโฆษณา เพื่อนำมาพัฒนาและต่อยอดธุรกิจให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น

“ปัจจุบันดิจิทัลมีเดียแพลตฟอร์มเป็นสื่อหลักที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ทำให้พื้นที่สื่อเกิดการช่วงชิงและแข่งขันสูงขึ้น ส่งผลให้แบรนด์เผชิญกับอุปสรรค โจทย์ใหญ่คือ ค่าโฆษณาที่พุ่งสูงขึ้นทุกปีโดยปีที่ผ่านมา เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลมีเดียพุ่งแตะ 27,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การแข่งขันช่วงชิงพื้นที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ระหว่างธุรกิจในอุตสาหกรรมของแบรนด์เท่านั้น แต่แบรนด์ยังต้องเผชิญการแข่งขันช่วงชิงพื้นที่กับอินฟลูเอนเซอร์และบุคคลทั่วไปอีกด้วย รวมไปถึงความซับซ้อนในการบริหาร Digital Media Landscape ที่มีความหลากหลาย ทั้ง Facebook, YouTube, Instagram, TikTok, Twitter และ LINE รวมทั้ง Google Search ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นที่สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ต้องอาศัยการวางกลยุทธ์ที่แม่นยำผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในหลากหลายมิติไปพร้อมกับการแบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็นเซ็กเมนต์ย่อย ๆ หลากหลาย ทั้งทับซ้อนและซับซ้อน ทำให้จำเป็นต้องใช้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ บวกกับครีเอทีฟคอนเทนต์ที่โดนใจผู้บริโภคแบบตรงกลุ่ม ตามพฤติกรรม และความต้องการเฉพาะบุคคล จึงต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูง จึงจะสามารถวางแผนงานสื่อโฆษณาให้แหลมคมมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้วัดผลได้จริง”

ผู้บริหาร YDM เผยด้วยว่า จะมุ่งเดินหน้าขยายกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้น โดยตั้งเป้าลูกค้าใช้บริการแพลตฟอร์ม YDM MAX 50 รายในปีนี้

 


แชร์ :