จากวันที่ 29 เมษายน 2022 ถึงวันที่ 29 เมษายน 2023 อาจเป็นเวลาหนึ่งปีทั่ว ๆ ไปสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับคนที่รักการรับประทานช็อกโกแลต หนึ่งปีนี้ เป็นหนึ่งปีที่ราคา “ช็อกโกแลต” ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.5% ตามการอ้างอิงข้อมูลจาก NielsenIQ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อไป
เหตุที่ทำให้ช็อกโกแลตปรับราคาเพิ่มขึ้น พบว่ามาจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือปรากฏการณ์เอลนีโญที่ทำให้ปริมาณฝนในทวีปแอฟริกาลดน้อยลงกว่าเดิม เมื่อฝนน้อยลง ผลผลิตโกโก้จากแอฟริกาจึงมีปริมาณลดลงตามไปด้วยนั่นเอง
ทั้งนี้ แอฟริกาเป็นแหล่งผลิตโกโก้ขนาดใหญ่ของโลก เฉพาะสาธารณรัฐโกตดิวัว หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ Ivory Coast และประเทศกานาก็ครองสัดส่วนการผลิตโกโก้มากกว่า 60% ของการผลิตโกโก้ทั่วโลก โดยราคาเมล็ดโกโก้เคยพุ่งขึ้นไปที่ 3,160 เหรียญสหรัฐต่อตันเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และ Sergey Chetvertakov นักวิเคราะห์จากฝ่ายวิจัยของ S&P Global Commodity Insights ยังคาดการณ์ว่า ราคาเมล็ดโกโก้อาจพุ่งไปถึง 3,600 เหรียญสหรัฐต่อตันได้เลยทีเดียว
ส่วนผสมหลักช็อกโกแลตก็ราคาพุ่ง
นอกจากนี้ ราคาของโกโก้บัตเตอร์ หรือเนยโกโก้ และน้ำตาล ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของการผลิตช็อกโกแลตแท่งก็ได้รับการปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยข้อมูลจาก CNBC พบว่า โกโก้บัตเตอร์มีการปรับราคาไปแล้วถึง 20.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022 ส่วนราคาน้ำตาลพบว่ามีการปรับราคาจนทำลายสถิติไปเมื่อเดือนเมษายนเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ในบรรดาช็อกโกแลตชนิดต่าง ๆ ราคาของดาร์กช็อกโกแลตคาดว่าจะได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากดาร์กช็อกโกแลตประกอบด้วยโกโก้มากกว่าช็อกโกแลตประเภทอื่น ๆ นั่นเอง
แบรนด์ดังกังวล คนไม่มีกำลังซื้อ
แน่นอนว่า ราคาผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นเรื่องน่ายินดีของเกษตรกรผู้ผลิตโกโก้ แต่ก็ในมุมของแบรนด์ พบว่ามีบางแบรนด์ออกมาแสดงความกังวลแล้ว นั่นคือ Hotel Chocolat ผู้ผลิตช็อกโกแลตชื่อดังสัญชาติอังกฤษ เนื่องจากอังกฤษในวันนี้ ผู้คนต้องรัดเข็มขัดกันมากขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ ทำให้การบริโภคช็อกโกแลตอาจเป็นเรื่องที่ต้องคิดมากขึ้นก่อนซื้อนั่นเอง ซึ่งในมุมของแบรนด์ พวกเขาจึงต้องแบกรับทั้งต้นทุนการผลิตช็อกโกแลตที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่กำลังซื้อของคนในประเทศก็ไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ
Hotel Chocolat ยังได้ออกมายอมรับว่า พวกเขาอาจจะขาดทุนในปีการเงินนี้ (ขณะที่ปี 2022 บริษัทมีรายได้ 226 ล้านปอนด์) ซึ่งการออกมายอมรับดังกล่าวทำให้หุ้นตกไปถึง 19% เลยทีเดียว
ขณะที่ Tony’s Chocolonely แบรนด์ช็อกโกแลตจากเนเธอร์แลนด์กลับแสดงความคิดเห็นตรงกันข้าม โดยพวกเขามองว่า ราคาของโกโก้ที่พุ่งสูงขึ้นนี้เป็นผลดีต่อเกษตรกรในแอฟริกา และทางแบรนด์ก็ได้มีการปรับราคาสินค้าในสหรัฐอเมริกาแล้ว 8% เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับบริษัทผู้ผลิตช็อกโกแลตรายอื่น ๆ และผู้บริหารของ Tony’s Chocolonely ยังเชื่อว่าราคาของโกโก้ที่สูงมากนี้จะลดลงในไม่ช้าด้วย
แม้จะมีคนที่ดีใจกับราคาโกโก้ที่พุ่งขึ้น และคนที่รอคอยให้ราคาช็อกโกแลตกลับมาสู่ระดับที่พวกเขาสามารถหาซื้อได้อีกครั้ง แต่ราคาโกโก้ที่ปรับตัวขึ้นลงอย่างรุนแรงจากปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่การเติบโตที่ยั่งยืน บางทีทางออกที่ดีกว่าอาจเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกโกโก้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างที่ควรจะเป็นก็เป็นได้
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand