HomeInsightสรุป 7 ประเด็น Marketing Trends 2024 นโยบายรัฐปลดล็อก New Economy โอกาสธุรกิจใหม่   

สรุป 7 ประเด็น Marketing Trends 2024 นโยบายรัฐปลดล็อก New Economy โอกาสธุรกิจใหม่   

แชร์ :

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกด้านทั้งเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้นักการตลาดต้องติดตามเทรนด์การตลาดอยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและหาโอกาสใหม่ๆ ให้ธุรกิจ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ในงาน Creative Talk Conference 2023  คุณสุนาถ ธนสารอักษร CEO & Co-Founder Rabbit’s Tale และคุณสิทธินันท์ พลวิสุทธิ์ศักดิ์ CEO of Content Shifu สรุป Marketing Trends 2024 และทักษะที่นักการตลาดต้องเตรียมตัวรับมือไว้ดังนี้

1. Value Gap คือความแตกต่างของการให้คุณค่าของกลุ่มต่างๆ ในสังคม  โดยไม่ได้มองที่ Generation Gap ว่าคนอายุมากคิดแบบนี้ หรือคนอายุน้อยคิดแบบนี้ แต่เป็นเรื่องของความสนใจ, แบ็คกราวด์ และ Mindset ที่แต่ละเจนคิดไม่เหมือนกัน  นำมาสู่ความแตกต่างของผู้บริโภคและเป็นสิ่งที่แบรนด์ต้องเข้าใจในเรื่องนี้ เพื่อทำให้แบรนด์ไม่มีช่องว่างระหว่างกับผู้บริโภคแต่ละเจน

2. ความเกี่ยวข้อง (relevancy) กับชีวิตของผู้คน ถือเป็นโจทย์การตลาดที่เป็นความท้าทายของแบรนด์ในยุคนี้ เพราะหากไม่สามารถทำให้แบรนด์เข้าไปมีส่วนร่วมกับคุณค่าที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคหรือค่านิยมของคนที่อยู่ในสังคมหรือกลุ่มเป้าหมายได้ ก็จะทำให้แบรนด์ไม่สามารถเชื่อมโยง (Lost Connection) กับผู้บริโภคได้  ดังนั้นแบรนด์ต้องกลับมาหา Purpose ของแบรนด์ที่เชื่อมโยงกับผู้คนในปัจจุบัน

3. New Economy สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น รถยนต์ EV เมื่อเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ก็ส่งผลกระทบต่อแบรนด์รถยนต์ที่ทำตลาดอยู่เดิมหรือเป็นผู้เล่นเก่าให้ต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนการทำตลาดหลายอย่าง นอกจากนี้ยังเกิดอีโคซิสเต็มของรถยนต์ EV  อีกหลายด้าน เช่น สถานีชาร์จ  โซล่าร์ เซลล์ โซล่าร์ รูฟ

แต่สิ่งที่ต้องจับตามองหลังจากนี้ คือ นโยบายภาครัฐ ที่จะปลดล็อก New Economy ใหม่ๆ  เช่น นโยบายสุราก้าวหน้า ที่จะส่งผลต่อธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของกลุ่มผู้เล่นเดิมในตลาด และโอกาสของผู้เล่นรายใหม่ รวมถึงนโยบายสมรสเท่าเทียม ส่งผลในหลายธุรกิจ เช่น อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการเงิน จากการทำธุรกรรมร่วมกันได้ของคู่สมรส เห็นได้ว่าการปรับเปลี่ยนเชิงเศรษฐกิจและนโยบาย มีโอกาสใหม่ๆ ในหลายธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น  

4. AI Automation จากการเข้ามาของ Generative AI ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ได้หลากหลาย ทำให้ AI มีการใช้งานในวงกว้างมากขึ้น สามารถนำมาช่วยทำการตลาดได้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนคอนเทนต์ การทำรูปภาพ วิดีโอ ทำเสียง ส่งผลให้เกิดความคิดสร้างสรรค์จากการให้ AI มากขึ้น  แต่ต้องดูแลเรื่อง Privacy ด้วยเช่นกัน  ปี 2023 นักการตลาดมีแนวโน้มใช้ MarTech เครื่องมือใหม่ๆ มากขึ้น

5. Event กลับมาแล้ว โดยเป็นการตลาดออฟไลน์ ที่บรรดา CMO ขององค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านอีเวนต์มาเป็นอันดับ 1 เพราะผู้คนยังชื่นชอบการมีปฏิสัมพันธ์ (Interact) ผ่านช่องทางต่างๆ ที่หลากหลาย

6. Affiliate Marketing  การตลาดช่วยขาย จะได้รับความสนใจมากขึ้น โดยมีแพลตฟอร์ม TikTok เป็นตัวจุดกระแส รูปแบบที่ให้อินฟลูเอนเซอร์มาช่วยขายและแบ่งรายได้จากยอดขาย หรือหากขายไม่ได้ก็ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการจ้าง เป็นเทรนด์การตลาดที่จะได้เห็นมากขึ้นในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

7. Skill Sets ที่นักการตลาดต้องมี คือ Purposeful แบรนด์ต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนตรงกับกลุ่มเป้าหมาย, Outstanding ต้องโดดเด่น กล้า เลือกทำสิ่งที่เป็น Game Changer เพื่อทำให้แบรนด์เป็นผู้นำ,  Always-on มีปฎิสัมพันธ์กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทาง ต่อยอดทำ Personalized Marketing ในแต่ละกลุ่ม

สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลากับ 3 ร. คือ  

– เรียนรู้ที่จะเรียนรู้ : เพราะโลกเปลี่ยนเร็ว นักการตลาดจึงต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

– เรียนรู้ที่จะเลิกรู้ : เพราะสิ่งที่เคยใช้ในช่วงที่ผ่านมา อาจจะใช้ไม่ได้ผลในยุคนี้ จึงต้องเรียนรู้สิ่งใหม่และทิ้งเรื่องเดิมๆ

– เรียนรู้ที่จะเลิกเรียน : ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว มีเรื่องที่ต้องเรียนรู้ใหม่ๆ จำนวนมาก ต้องเลิกบางเรื่อง และเลือกสิ่งที่สำคัญกับตัวเรา อาชีพเรา  เพราะเราไม่สามารถเรียนรู้ได้ทุกเรื่อง

บทสรุปของการทำมาร์เก็ตติ้ง Content is King, Distribution is Queen และ Experience is God เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภคแต่ละคน   


แชร์ :

You may also like