HomePR Newsสยามพิวรรธน์ x INNOCEAN อัพเวลระดับโลก สู่ รีเทลครองใจคนทั่วโลก

สยามพิวรรธน์ x INNOCEAN อัพเวลระดับโลก สู่ รีเทลครองใจคนทั่วโลก

แชร์ :

สยามพิวรรธน์ x INNOCEAN เพราะเป้าหมายของ “สยามพิวรรธน์” ไม่ใช่เพียงแค่สร้างการเติบโตด้านยอดขายให้กับธุรกิจ และการเป็น Brand Love ของผู้บริโภคชาวไทยเท่านั้น แต่ต้องการก้าวไปเป็น Global Admiration ที่เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจของคนทั่วโลก ซึ่งการจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้ หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือ การขับเคลื่อนธุรกิจแบบ Co-create & Collaboration to Win ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรแถวหน้าระดับโลก เพื่อสร้างประสบการณ์เหนือคาดหมายให้กับนักช้อปและนักเดินทางทุกเจนเนอเรชั่น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ล่าสุดสยามพิวรรธน์ได้สร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญ ด้วยการจับมือกับเอเจนซี่ระดับโลกอย่าง INNOCEAN (อินโนเซียน) ในเครือฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป ผุด “ไลฟ์สไตล์ป๊อปอัพ ช็อป” พร้อมกัน 2 ร้าน เป็นครั้งแรกในไทย เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ระดับโลกให้กับผู้บริโภค ตอกย้ำการเป็น Showcase of The World ในการนำเสนอสินค้าไทยสู่เวทีโลกอีกครั้ง ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างไร Brand Buffet พามาหาคำตอบไปพร้อมกัน

ลุยกลยุทธ์ Collaboration สร้างโอกาส-เติมประสบการณ์แปลกใหม่ 

“สยามพิวรรธน์” เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ที่วางจุดยืนชัดเจนมาตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัวในการเป็นสถานที่ที่จะสร้างประสบการณ์แตกต่างให้กับลูกค้าอยู่เสมอ ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราจึงเห็นสยามพิวรรธน์พยายามฉีกกรอบเดิมๆ ทั้งการออกแบบพื้นที่ศูนย์การค้าในคอนเซ็ปท์ใหม่ ทั้งยังนำเสนอสินค้าและบริการที่มีความพิเศษ รวมไปถึงการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างประสบการณ์ล้ำยุคไม่เหมือนใคร

“เราเชื่อมั่นในศักยภาพไร้ขีดจำกัดของอีโค่ซิสเต็มที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำทั้งในและต่างประเทศทั่วโลกจะสร้างโอกาสทางธุรกิจกว้างไกล รวมทั้งก่อให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ๆ และมอบประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจกว่าเดิม”

คุณมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด บอกถึงความสำคัญและการยึดมั่นในกลยุทธ์ Co-create & Collaboration to Win มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้สยามพิวรรธน์ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่เป็นโกลบอลเดสติเนชั่นของประเทศไทยมาทุกยุคทุกสมัย ทั้งยังเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั้งชาวไทยและผู้คนทั่วโลก

และจากความสำเร็จดังกล่าว ในปี 2566 สยามพิวรรธน์ จึงได้จับมือกับ “INNOCEAN” ซึ่งเป็น Innovative Global Agency ต่อเนื่อง โดยความร่วมมือกันครั้งนี้ ถือเป็นการนำเอาจุดแข็งของ 2 แบรนด์มาผสานกันอย่างลงตัว โดยสยามพิวรรธน์ เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกที่ครองใจคนไทยและคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ด้วยการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่  ส่วน INNOCEAN เป็นเอเจนซี่ที่โดดเด่นด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมจากเกาหลีใต้และได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก ด้วยผลงานที่โดนใจคนมาตลอด ทั้งยังมีสาขากว่า 33 สาขาใน 23 ประเทศทั่วโลก

ดังนั้น เมื่อ 2 แบรนด์รวมพลังกัน จึงคาดว่าจะสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์การดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ ตลอดจนเชื่อมโยงเครือข่ายเน็ตเวิร์คทางธุรกิจที่มีอยู่ทั่วโลก เพื่อสร้างปรากฏการณ์และมอบประสบการณ์แปลกใหม่ในธุรกิจรีเทลที่ไม่เคยมีมาก่อนทั้งในประเทศไทย, เกาหลีใต้ และนานาประเทศทั่วโลก

 

ประเดิมไลฟ์สไตล์ป๊อบอัพช็อป สุดฮอต 2 ร้าน ครั้งแรกในไทย 

สำหรับการผนึกกำลังกันครั้งนี้ จะเริ่มจากการประเดิมเปิดตัว ไลฟ์สไตล์ป๊อบอัพช็อป สุดฮอต ครั้งแรกในประเทศไทยพร้อมกัน 2 โปรเจค ได้แก่  K-Ramyun Pop-up Shop และอีกหนึ่งร้านป๊อบอัพช็อป เพื่อให้ทุกคนได้มาสัมผัสความมหัศจรรย์ และสนุกสนานที่สยามดิสคัฟเวอรี่ไปพร้อมกัน

โดย “Boggle Boggle K-Ramyun Pop-up Shop” เป็นป็อบอัพช็อปครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้มาสัมผัสกับราเมนเกาหลีสุดฮอตจากเกาหลีใต้ ที่ไม่ได้นำเสนอเพียงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารระดับตำนาน แต่ยังให้ความสนุกไปกับเทรนด์และไลฟ์สไตล์สุดฮอตของชาวเกาหลีในแบบออริจินัล ซึ่งผู้สนใจใน K-Culture โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจนเนอเรชั่น Z สามารถสนุกกับเทรนด์สุดฮิปที่ยกรูปแบบจากเกาหลีส่งตรงมาถึงกรุงเทพฯ บนชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน – 31 กรกฏาคม 2566 พร้อมทั้งมีอีกหนึ่งร้านป๊อบอัพช็อป ที่จะมาสร้างเซอร์ไพรส์เร็วๆ นี้

ดังนั้น การเปิดไลฟ์สไตล์ป๊อบอัพพร้อมกันถึง 2 แบรนด์ ให้เป็นหมุดหมายใหม่ล่าสุดที่ดึงดูดทั้งลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในศูนย์การค้า ถือเป็นเพียงก้าวแรกจากการ Collaboration ขององค์กรซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจจากทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งในอนาคตจะนำไปสู่การเสริมศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัด และสร้างปรากฏการณ์แปลกใหม่สู่โลกอนาคตต่อไป ซึ่งจะทำให้สยามพิวรรธน์ครองความเป็นแบรนด์ที่หนึ่งในใจลูกค้าทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

 


แชร์ :

You may also like