HomeBrand Move !!ส่องกลยุทธ์ Sport Marketing ฉบับ “สปอนเซอร์” จาก 2 นักฟุตบอลระดับโลก สู่ 2 สาว ขวัญใจคนไทย

ส่องกลยุทธ์ Sport Marketing ฉบับ “สปอนเซอร์” จาก 2 นักฟุตบอลระดับโลก สู่ 2 สาว ขวัญใจคนไทย

แชร์ :

คุณอนุรักษ์ ตีระลัภนานนท์

ในตลาด Sport Drink  แทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก “สปอนเซอร์” (Sponsor) เครื่องดื่มเกลือแร่ขวดสีเหลือง ที่ยึดตำแหน่ง “ผู้นำ” มากว่า 38 ปี  นับตั้งแต่เปิดตัวจนถึงปัจจุบันแบรนด์ก็สามารถครองมาร์เก็ตแชร์ได้ 90% ต่อเนื่องยาวนาน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ความสำเร็จตลอดช่วงหลายสิบปีผ่านมาของ “สปอนเซอร์” คือการ Dominate ตลาด Sport Drink ด้วยการสร้างกระแสผ่าน Sport Marketing รูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง  ที่เด่นชัดในปี 2019 กับคือการดึง 2 ดาวเตะระดับโลกจากสโมสรลิเวอร์พูลอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ ซาดิโอ มาเน่ เป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ สร้าง Impact ให้แก่ตลาดได้อย่างตรงจุด เพราะสามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบกีฬา และออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมอันดับ 1 ของไทยได้เป็นอย่างดี

ประกอบกับเทรนด์ใหม่ ๆ ที่ คุณอนุรักษ์ ตีระลัภนานนท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด (ประเทศไทย) กลุ่มธุรกิจ TCP อธิบายว่า เทรนด์ Sport Drink ในปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มยังเจนหรือมิลเลเนียล หันมาดื่มมากขึ้น ขณะที่สภาวะเร่งหลังโควิด ประชาชนหันมาออกกำลังกาย และต้องการเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น ทดแทนพลังงานที่หายไปได้ ประกอบกับเมกะเทรนด์เรื่องของน้ำตาล ที่คนรุ่นใหม่ต้องการเครื่องดื่มแบบ Zero Sugar มากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเกลือแร่เมืองไทยเติบโตแบบระดับเลข 2 หลัก

ปัจจัยดังกล่าว ทำให้ Sentiment ของอุตสาหกรรมมีการฟื้นตัวได้ดีอีกครั้ง โดยส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่มูลค่า 4,713 ล้านบาทในปี 2565 เติบโตเพิ่มขึ้นที่ 13% เป็นการฟื้นตัวจากช่วงโควิดที่ติดลบ 5%  และคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีมูลค่าตลาดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 5,326 ล้านบาท เติบโต 13% ต่อเนื่อง โดยสปอนเซอร์ครองความเป็นผู้นำตลาดด้วยมาร์เก็ตแชร์ 90% 

ทำให้แบรนด์ยังคงเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก ผ่าน Sport Marketing ที่ถือเป็นแกนหลักของการทำธุรกิจเครื่องดื่มเกลือแร่ต่อไป ท่ามกลางความท้าทายต่างๆ ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด แต่ต้องขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ

 

BB Pure limited edition

Box Set สองแบรนด์แอมบาสเดอร์ “บุ๋มบิ๋ม-เพียว” limited edition จำหน่ายราคา 499 บาท

จากนักฟุตบอลระดับโลก สู่ 2 แบรนด์แอมบาสเดอร์ดาวดังวอลเลย์บอลทีมชาติไทย  บุ๋มบิ๋มเพียว

ภายใต้กลยุทธ์ Sport Marketing ปีนี้นับเป็นครั้งแรกการเลือกเข้าไปเป็นผู้สนับสนุน หรือ Main Title Sponsorship  ครั้งแรกให้แก่กีฬาวอลเลย์บอล “SPONSOR WOMEN’S VOLLEYBALL NATIONS LEAGUE THAILAND 2023” ซึ่งถือเป็น “การเข้าเป็นสปอนเซอร์ VNL 2023 ในไทย จะทำให้ผู้ชมกีฬาเห็นแบรนด์สปอนเซอร์ (Eyeballs) ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน ในช่วงที่มีการถ่ายทอด ตั้งแต่ 27 มิ.ย.-2 ก.ค.66 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูง นี่ยังไม่นับการถ่ายทอดที่โลโก้ของเราจะไปปรากฏในช่องทางต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นการสร้างแบรนด์ที่ดีผ่านแมทซ์ระดับโลก”

BB PURE

 

อีกหนึ่งเป้าหมายของ “สปอนเซอร์” คือการขยายฐานผู้บริโภคกลุ่มลูกค้าชาวไทย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มากขึ้น เนื่องจาก พบว่า อัตราการดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 18-35 ปี ในช่วงโควิดมีความถี่เฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และดื่มเพิ่มมากหลังช่วงโควิดเป็น 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือมากเป็น 3 เท่าของการดื่มปกติ

ทำให้แบรนด์เพิ่มความพิเศษด้วยการดึง 2 นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยอย่าง “บุ๋มบิ๋ม-ชัชชุอร โมกศรี” และ “เพียว-อัจฉราพร คงยศ” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ในการสร้างแบรนด์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้จุดแข็งความเป็นนักกีฬาไทยโกอินเตอร์ระดับโลก มาถ่ายทอดคาแรคเตอร์ความสนุกมาใช้ในการสื่อสาร และนำ 2 สาวนักตบ “บุ๋มบิ๋ม-เพียว” ไปอยู่บนฉลากลิมิเต็ดเอดิชั่น 1 แสนขวด 4 ลายพิเศษ  จำนวน 5,000 เซ็ต  นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมบริเวณหน้าสนามที่มีการแข่งขันวอลเลย์บอล VOLLEYBALL NATIONS LEAGUE บริเวณอินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ในช่วงการแข่งขัน เพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์ไปในตัว

“เราใช้สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเป็นหลักในการสร้างภาพลักษณ์ และให้ความรู้ในการดื่มเกลือแร่อย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนก้าวสำคัญของแบรนด์ในการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบวอลเลย์บอล และกลุ่มเป้าหมายคนไทยได้ไปในตัว”

เปิดกลยุทธ์สปอนเซอร์ 4E  ย้ำแชมป์เบอร์ 1 ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่เมืองไทย

นอกจากการใช้ Sport Marketing ระดับโลกแล้ว แบรนด์ยังเดินหน้ากลยุทธ์ 4E ในการขับเคลื่อนตลาด ซึ่งนอกจะเป็นการย้ำความเป็นผู้นำแล้ว ยังเป็นการสานต่อนโนบาย House Of Great Brands ของกลุ่มธุรกิจ TCP ในฐานะที่สปอนเซอร์คือแบรนด์ที่ทำรายได้สูงสุดให้ทางกลุ่ม ประกอบไปด้วย

1.Entrenched No.1 Sport Drink : พัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าตลอดเวลา ควบคู่กับการพัฒนารสชาติแบบออริจินัลที่เป็นจุดแข็งของแบรนด์ 

2.Engage & Inspire : การสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ผ่านการกระตุ้นให้คนไทยหันมาออกกำลังกายมากขึ้น ด้วยการเข้าไปสนับสนุนการจัดงานกีฬาต่างๆกว่า 150 งาน แบ่งเป็นงานวิ่ง 120 งาน งานจักรยาน 5 งาน และงานวิ่ง Trail, Trekking, Ultra & Triathlon อีก 30 งาน โดยคาดการณ์ว่าทั้งหมดจะมีคนร่วมงานกว่า 8 แสนคน 

3.Educational Content : การให้ความรู้ ด้านคอนเทนต์ต่างๆ ถึงคุณประโยชน์ของการดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ ด้วยการร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างๆ

4.Enlarge Category : ตอกย้ำผู้นำตลาดด้วยมาร์เก็ตแชร์ 90% ด้วยการขยายฐานลูกค้า-คนดื่มมากขึ้น  เพื่อตอบรับเทรนด์โดยมีสปอนเซอร์โกล น้องใหม่ที่เติบโตสูงถึง 120% เป็นตัวผลักดันสำคัญ

 

pack size sponsor

 

ชู Pack Size ที่หลากหลาย สร้าง Occasion ในการดื่มทุกกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากการเดินหน้ากิจกรรมการตลาดแล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์ของ “สปอนเซอร์” ในการสร้างแบรนด์เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนในวงกว้าง คือการมี Pack Size ที่หลากหลายเพื่อเพิ่ม Occasion ในการดื่มที่หลากหลายแก่ผู้บริโภค ประกอบด้วย 4 ขนาดหลัก ได้แก่

  • รูปแบบขวดแก้ว (Sponsor Glass) : เติบโต 7% และยังเป็นขนาดแฟล็กชิปที่สามาารถสร้างการเติบโตเป็นแกนหลัก 
  • รูปแบบกระป๋อง (Sponsor Can) : เติบโต 46% ถือเป็นอีกแพ็คเกจจิ้งที่ได้รับความนิยม ในกลุ่มคนรุ่นใหม่
  • รูปแบบขวด PET (Sponsor Go) : เป็นตัวผลักดันสำคัญที่ทำให้สปอนเซอร์เติบโตก้าวกระโดด สูงถึง 129% และยังเป็นหัวใจสำคัญในการขยายกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ เพราะพกพาง่าย สะดวก และยังมีสูตรนำ้ตาลน้อยที่ตอบโจทย์เทรนด์คนรุ่นใหม่อีกด้วย
  • สปอนเซอร์ แอคทีฟ ขวดแก้ว สูตรน้ำตาลน้อย (Sponsor Active ) : เติบโต 18% เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมเพราะเป็นสูตรน้ำตาลน้อย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่และรสชาติแบบออริจินัล

แชร์ :