หลังต้นปีที่ผ่านมา “ไมเนอร์ ฟู้ด” ประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 22 ปี กับแบรนด์ “The Pizza Company” โฉมใหม่เพื่อรองรับแนวโน้มธุรกิจร้านอาหารที่กลับมาเติบโตอีกครั้ง ที่มาพร้อมภาพลักษณ์ที่ทันสมัยขึ้น มีการยกเครื่องใหม่ทั้งตัวอักษรที่เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความสนุกสนาน ขี้เล่น มาพร้อมโทนสีใหม่ของแบรนด์ ที่เรียกว่า “สีเขียวไอคอนนิค (Iconic Green)” มีความอ่อนลงเพื่อให้ดูสดใสขึ้น
ทำให้ผลประกอบการของ “The Pizza Company” ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เติบโต 25% เมื่อเทียบปีที่ผ่านมา ส่วนของ Dine-in เติบโต 40% ขณะที่ดิลิเวอรี่เติบโตขึ้น 27% ซึ่งเป็นตัวเลขการเติบโตที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับภาพรวมบริการดิลิเวอรี่ทั้งหมดที่ค่อนข้างชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเติบโตจาก 58% ในไตรมาส 1 เพิ่มเป็น 65% ในไตรมาส 2
คุณปัทม์ พงษ์วิทยาพิพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในเดือนกุมภาพันธุ์ที่ผ่านมา เดอะ พิซซ่ามีการ Rebranding ครั้งใหญ่ ภายใต้งบ 200 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาฐานลูกค้าที่เป็นครอบครัว และดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยช่วงที่ผ่านมาได้ปรับโลโก้ ดีไซน์ร้านใหม่ พร้อมกับทยอยปรับเปลี่ยนโฉมร้านในกรุงเทพฯ ให้หมด และภายในสิ้นปีนี้เดอะพิซซ่า จะมีร้านโฉมใหม่ทั้งสิ้น 100 สาขา
“การเปิดตัวพิซซ่าหน้าหมูชาบู และหน้ามะม่วงในช่วงที่ผ่านมาประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเป็นอย่างดี และเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การรีแบรนด์ ที่ต้องการสลัดภาพให้มีความสดใหม่มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการรักษาฐานลูกค้าเดิมอย่างกลุ่มครอบครัวแล้ว ยังเป็นการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่เป็น Young Gen (อายุ 16-29 ปี) เพิ่มเป็น 20% จากปัจจุบันมีสัดส่วนคิดเป็น 17% หลังการรีแบรนด์ กระแสตอบรับดี ในไตรมาส 2 และเชื่อว่าจากการทำตลาดเชิงรุกจะสามารถสร้างการเติบได้จนถึงสิ้นปี ในอัตรา 25% ต่อไตรมาสได้อย่างต่อเนื่อง”
The Game Changer กลยุทธ์หลักปลุกตลาดครึ่งปีหลัง
สำหรับในครึ่งปีหลังนี้โจทย์ใหญ่ของ “The Pizza Company” คือการโฟกัสการรุกตลาดเพื่อสร้างยอดขาย และเข้าไปอยู่ในใจลูกค้ามากขึ้นในทุกช่วงวัย ภายใต้กลยุทธ์ The Game Changer ในฐานะที่เดอะพิซซ่าคือเจ้าตลาดที่มีมาร์เก็ตแชร์กว่า 70% ซึ่งจะเป็นการสร้างความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญให้แก่ตลาดพิซซ่า โดยมีนวัตกรรม บริการ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Best Pizza Moment ในการสื่อสารแบรนด์เพื่อเข้าไปอยู่ในใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ผ่าน 4 หัวใจสำคัญได้แก่
1.New Membership Program: เปิดตัวบัตรบัตรสมาชิก The Pizza Club ครั้งแรก ซึ่งเป็นการใช้กลยุทธ์สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าในการรับบริการ ผ่าน The Best Pizza Moment ด้วยการออกระบบสมาชิก New Member Program ในชื่อ The Pizza Club รูปแบบใหม่ที่ให้สิทธิมากกว่าเดิม และสามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี โดยเชื่อว่าจะขยายสมาชิกใหม่ได้ 15% และเพิ่มความถี่ในการใช้งานได้ 35% และยอดขายมากขึ้นกว่า 30% จากบัตรแบบเดิม โดยปัจจุบันเดอะพิซซ่า มีสมาชิกอยู่ 2.3 ล้านคน
2.New Design : การดีไซน์ร้านใหม่ในรูปแบบ Dining Experience ขนาดใหญ่ในห้างฯ ที่ลูกค้าสามารถนั่งรับประทานได้นานขึ้น ซึ่งโมเดลดังกล่าวจะเป็นการ Revamp สู่ความเป็น New Brand ในสาขาในศูนย์การค้า โดยเตรียมเปิดตัวไตรมาส 4 นี้
นอกจากนี้ยังเปิดโฉมกล่องดิลิเวอรี่แบบใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมแสง LED โดดเด่นสะดุดตาทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน ติดตั้งอยู่กับมอร์เตอร์ไซค์ดิลิเวอรี่ เป็นการสร้างจุดสนใจและความประทับใจแก่ลูกค้าที่พบเห็น สะท้อนบุคลิกใหม่ของแบรนด์ให้เป็นที่จดจำในวงกว้าง โดยพร้อมนำร่องให้บริการ 9 คันแรก ในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ที่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี สาขา พันธ์ทิพย์
3. New Core Men : พัฒนาสินค้าใหม่ เน้นคอนเซ็ปต์ที่โดนใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยแบรนด์ได้ปรับสูตรเมนูพิซซ่าหลักให้มีท็อปปิ้งชิ้นใหญ่ขึ้น ปริมาณมากขึ้นอิ่มอร่อยจุใจกว่าเดิม พร้อมนำเสนอเมนูที่มีความพรีเมียมมากขึ้น ตลอดจนการรังสรรค์เมนูพิซซ่าพิเศษรูปแบบใหม่ ๆ ที่จะมาสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคยุคใหม่ต่อเนื่องตลอดทั้งปี อย่างล่าสุด แคมเปญ The Shabu Company ครั้งแรกของพิซซ่าหน้าหมูชาบูและเนื้อชาบู
4.New Service Model : การบริการยกระดับผ่านบริการในโมเดลใหม่ๆ ผ่านความคิดสร้างสรรค์ กระฉับกระเฉง และกิจกรรมต่างๆเพิ่มมากขึ้น ในการดึงดูดให้ผู้บริโภคกลับมาใช้บริการซ้ำ รวมทั้งการจัดกิจกรรมพิเศษมากมายตลอดปีที่ให้ลูกค้าทุกวัยได้มีส่วนร่วม เช่น ‘เดอะ พิซซ่า จูเนียร์ เชฟ’ (The Pizza Junior Chef) กิจกรรมเวิร์คชอปที่เปิดพื้นที่ให้น้อง ๆ ได้ร่วมสวมบทบาทเป็นเชฟพิซซ่า โดยสามารถร่วมสนุกกับเวิร์กชอปดังกล่าวได้ ณ ร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี 10 สาขานำร่อง ก่อนจะขยายความสนุกเพิ่มเติมไปยังสาขาอื่น ๆ ทั่วประเทศ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ที่ “The Pizza Company” ได้ดำเนินการเพื่อส่งมอบประสบการณ์และสร้าง The Best Pizza Moment เพื่อให้แบรนด์เป็นมากกว่าร้านอาหาร แต่เข้าใจและเข้าถึงทุกโมเมนต์ของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป