HomeBrand Move !!ภารกิจทรูมันนี่ยกระดับเป็นซูเปอร์แอปการเงิน สู้ภัยมิจฯ ลงทุนซีเคียวริตี้ 100 ล้านบาทต่อปี

ภารกิจทรูมันนี่ยกระดับเป็นซูเปอร์แอปการเงิน สู้ภัยมิจฯ ลงทุนซีเคียวริตี้ 100 ล้านบาทต่อปี

แชร์ :

การออกมาประกาศดึง “ลิซ่า BLACKPINK” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของทรูมันนี่ (TrueMoney) แอปพลิเคชันทางการเงินในเครือแอสเซนด์ มันนี่ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมประกาศเป้าใหญ่ จะเป็นซูเปอร์แอปด้านการเงินที่มียอดผู้ใช้งานในไทยแตะ 35 ล้านบัญชีภายในสิ้นปี 2023 กำลังนำไปสู่การปรับตัวด้านระบบซีเคียวริตี้ของแอปพลิเคชันดังกล่าว โดยล่าสุด ผู้บริหารทรูมันนี่ประกาศดึง AI เข้ามาช่วยป้องกันการทำธุรกรรมที่ผิดปกติเพิ่ม พร้อมงบลงทุน 100 ล้านบาทต่อปีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนแล้ว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ส่วนหนึ่งของการยกระดับระบบซีเคียวริตี้ดังกล่าวมาจากข้อมูลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) ที่ระบุว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีคดีทุจริตทางการเงินแจ้งมายังเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 247,753 เรื่อง และมีการขออายัดบัญชี 54,017 บัญชี ยอดเงิน 6.9 พันล้านบาท แต่สามารถอายัดได้ทัน 449 ล้านบาท หรือเพียง 6.4% ของยอดเงินที่มีการร้องขออายัดเท่านั้น โดยความเสียหายรวมของทั้ง 247,753 เรื่องนั้นมีมูลค่าสูงถึง 32,083 ล้านบาท

truemoney fraud

ไม่เพียงเท่านั้นสมาคมธนาคารไทย ยังพบอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมาเริ่มมีการล่อลวงติดตั้งแอปเพื่อเข้ามาดูดข้อมูล รวมถึงปลอมเป็นแอปการเงิน เพื่อเข้ามาควบคุมอุปกรณ์และแอปการเงินของผู้เสียหาย (ATO – Account Take Over) เพื่อดูดเงินจากบัญชี ส่งผลให้มีผู้เสียหายจากการตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย ราว 500 ล้านบาทด้วย โดย 5 อันดับการหลอกลวงสูงสุดที่นำไปสู่ความเสียหายดังกล่าว พบว่า มีดังนี้

  • หลอกลงทุน
  • หลอกเป็นคอลเซ็นเตอร์
  • หลอกทำกิจกรรมหารายได้
  • หลอกขายสินค้า
  • หลอดติดตั้งแอปมิจฉาชีพ

เพิ่มซีเคียวริตี้รับการเป็นซูเปอร์แอปทางการเงิน

truemoney secure

การเพิ่มความสามารถในการปกป้องเงินของลูกค้าในแอปพลิเคชันทรูมันนี่จึงต้องเกิดขึ้นตามมา โดยคุณมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เผยว่า ทรูมันนี่มีการจับมือกับ ชิลด์ (SHIELD) ผู้ให้บริการระบบซีเคียวริตี้ยักษ์ใหญ่จากสิงคโปร์ และ โซลอส (ZOLOZ) ผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชั่นและเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนแบบ Biometric ระดับโลก รวมถึงมีวิศวกรด้านซีเคียวริตี้ในการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยสำหรับแอปพลิเคชันดังกล่าว โดยเทคโนโลยีจะทำงานในรูปแบบต่าง ๆ กัน ดังนี้

  • Biometric Technology ใช้ในการจดจำใบหน้า เปรียบเทียบใบหน้ากับฐานข้อมูล และการตรวจสอบว่าเป็นใบหน้าของคนจริง ไม่ใช่การเปิดคลิปเพื่อหลอกแอปพลิเคชัน
  • Mobile In-app Protection การตรวจสอบความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในตัวแอปพลิเคชัน
  • BigData and AI การใช้ AI และ BigData ในการคาดการณ์ – ทำนายความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้
  • Authentication การยืนยันตัวตน
  • Device Profiling การทำโปรไฟล์ของตัวเครื่องว่า ปกติลูกค้าใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใด สมาร์ทโฟนเคยถูกทำเจลเบรกมาก่อนหรือไม่ มีการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ผิดปกติหรือไม่ โลเคชันในการใช้งานของลูกค้าอยู่ที่ใด ฯลฯ

คุณอธิปัตย์ พลอยพรายแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความเสี่ยงและตรวจสอบทุจริต บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยีในการป้องกันจะมีการตรวจสอบตั้งแต่ชั้นแรกว่า คนที่กำลังจะล็อกอินคือเจ้าของบัญชีตัวจริง ผ่านการยืนยันหลายรูปแบบ (secure log in) เช่น การเรียกสแกนหน้าเพื่อตรวจสอบข้อมูลชีวมิติ (Biometric – Face recognition) กรณีนี้ ถึงมิจฉาชีพจะล่อลวงจนรู้ OTP หรือ Pin Code ก็จะไม่สามารถล็อกอินบัญชีได้ เพราะถูกระบบสแกนตรวจใบหน้าป้องกันไว้ รวมถึงการตรวจจับผ่านค่า IP address หรือ Location ที่หากพบว่า มีการเข้าใช้งานจากอุปกรณ์ที่ต่างไปก็จะถูกตั้งข้อสงสัยได้เช่นกัน

นอกจากนั้น จะมีการตรวจจับมัลแวร์ แอปดูดเงิน และแอปแปลกปลอมที่ไม่ปลอดภัย โดยหากพบว่าติดตั้งบนอุปกรณ์ที่ใช้งานทรูมันนี่ ระบบจะปฏิเสธการอนุญาตเข้าใช้งาน และสุดท้าย จะเป็นการใช้ AI และ BigData เข้ามาช่วยจำแนกและกำหนดค่าความเสี่ยง (Risk score) เพื่อตรวจสอบความผิดปกติจากประวัติการทำรายการย้อนหลัง โดยในกรณีที่พบว่ามีการทำรายการที่ผิดปกติเกิดขึ้น ระบบจะปฏิเสธการทำธุรกรรม หรือหากลูกค้าแสดงความจำนงว่าจะทำรายการจริง ๆ ระบบจะให้ลูกค้าทำการยืนยันตัวตนผ่าน 7-eleven, True Shop หรือตู้คีออส โดยลูกค้าต้องนำบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งแอปทรูมันนี่ไปด้วย

คุณอธิปัตย์ยังได้ยกกรณีที่ระบบ AI สามารถตรวจจับความผิดปกติได้ โดยเป็นเคสของนักลงทุนรายหนึ่งที่ไม่เคยถอนเงินออกจากแอปทรูมันนี่เลย แต่ AI ของระบบตรวจจับได้ว่ามีความพยายามถอนเงินจากระบบเกิดขึ้นหลายครั้ง และเมื่อ AI ปฏิเสธการถอนเงิน ก็พบว่ามีการปรับลดยอดเงินลงเรื่อย ๆ จนในที่สุด AI ได้ส่งแจ้งเตือนให้พนักงานมนุษย์เข้ามาดูแล และสามารถรักษาเงินในบัญชีเอาไว้ได้

ปัจจุบัน มีผู้ใช้แอปทรูมันนี่ในการลงทุนและฝากเงินแล้ว 12% ของผู้ใช้งานทั้งหมด 26 ล้านแอคเคาน์ และในแต่ละเดือนมียอดเงินไหลผ่านในแอปพลิเคชัน 40,000 ล้านบาท หรือประมาณ 500,000 ล้านบาทต่อปี

อ่านเพิ่มเติม


แชร์ :

You may also like