หากเอ่ยชื่อเต็ม “Jimmy Donaldson” อาจเป็นชื่อที่หลายคนไม่คุ้นเคย แต่ถ้าหากเรียก Jimmy หรือ MrBeast เชื่อว่าทั้งเด็ก Gen Alpha, Gen Z และกลุ่มมิลเลนเนียล คงรู้จักเขาเป็นอย่างดี ในฐานะเจ้าของช่อง YouTube ยักษ์ใหญ่ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 167 ล้านแอคเคาน์ “MrBeast”
แม่ให้ไปเรียน แต่ MrBeast ไปนั่งตัดคลิปในรถ
ความรักในการทำคลิปของ MrBeast ถูกบอกเล่าออกมาผ่านรายการพ็อดแคสต์รายการหนึ่งเมื่อเดือนกันยายน โดย Jimmy เล่าว่า เขาเริ่มทำคลิปตั้งแต่อายุ 13 ปี (ช่วงปี 2013) ผ่านแล็ปท็อปเก่า ๆ เครื่องหนึ่ง ซึ่งคลิปในช่วงแรก ๆ ก็เป็นคลิปที่ไม่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เช่น คลิปเล่นเกม Minecraft หรือ Call of Duty ทั่ว ๆ ไป
ต่อมาในช่วงปี 2015 – 2016 คลิปของ Jimmy เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น (ในเวลานั้นเขาเลือกทำคลิปตลก ๆ และมีผู้ติดตามราว 30,000 คน) ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เขาเรียนจบมัธยม และแม่อยากให้เขาไปเรียนต่อที่ East Carolina University ซึ่งเขาก็ไปเรียน แต่เรียนได้เพียงสองสัปดาห์ก็ตัดสินใจดรอป เพื่อมาเป็น YouTuber เต็มตัว และใช้เวลานั่งตัดต่อคลิปในรถยนต์แทน
Jimmy ยอมรับว่า ในเวลานั้นเขาหายใจเข้าหายใจออกเป็นการทำคลิปบน YouTube จริง ๆ ซึ่งพอแม่รู้เข้าก็ผิดหวังมากที่เขาดรอปเรียน และไล่เขาออกจากบ้านด้วย
อย่างไรก็ดี ความตั้งใจที่จะเป็น Creator อย่างแรงกล้าของ Jimmy บรรลุผลในปี 2017 โดยเป็นคลิปที่เขานั่งนับ 1 – 100,000 ได้สำเร็จ และคลิปนั้นกลายเป็นไวรัล เพราะมันใช้เวลานานถึง 40 ชั่วโมงในการนั่งนับ โดยที่ไม่มีการพักดื่มน้ำ ฯลฯ ใด ๆ เลย (ส่วนเวอร์ชันที่นำมาโพสต์ลงใน YouTube ถูกตัดให้กระชับขึ้น โดยเป็นคลิปที่มีความยาว 24 ชั่วโมง)
ศึกษาอัลกอริธึม YouTube
ความรักในการทำคอนเทนต์ของ MrBeast ทำให้ช่องของเขามีเนื้อหาที่น่าสนใจมากมาย เช่น
- การนำคนอายุ 1 ขวบ – 100 ปี มาอยู่รวมกันในกล่องสี่เหลี่ยมใส และค่อย ๆ ทยอยโหวตคนออกด้วยเกมรูปแบบต่าง ๆ (87) อายุ 1-100 ต่อสู้เพื่อ $ 500,000 ดอลลาร์ – YouTube
- การช่วยคนพิการทางสายตา 1,000 คนให้กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง (87) คนตาบอด 1,000 คนมองเห็นเป็นครั้งแรก – YouTube
- การช่วยคนขาพิการให้มีขาเทียม 2,000 คน (87) ผมช่วยเหลือคนพิการ 2000 คนให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง – YouTube
- การเปรียบเทียบเรือสำราญสุดหรู กับเรือยอร์ชประเภทต่าง ๆ (87) เรือยอร์ช $1 vs $1,000,000,000 – YouTube
น่าสนใจว่าคอนเทนต์เหล่านี้ได้รับเสียงวิจารณ์ในด้านบวกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด และแวดวงการศึกษาในโลกตะวันตก เช่น Vince Miller อาจารย์ด้านสังคมและวัฒนธรรมจาก the University of Kent ในอังกฤษที่มองว่า คอนเทนต์ของ MrBeast เป็นการนำรายได้จาก YouTube มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Jimmy ไม่ได้ขออะไรมาก เขาแค่ฝากให้ติดตามคลิปของเขาเท่านั้น ซึ่งคนดู (ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ๆ ที่อาจยังไม่มีเงินมากนัก) ก็แค่บริจาค “เวลา” มาดูคลิปที่เขาสร้าง และได้ความบันเทิงกลับไป ส่วน Jimmy ก็ได้เงินค่าโฆษณาจาก YouTube เป็นการตอบแทน และนำไปทำการกุศลอย่างที่ตั้งใจไว้ได้ต่อ หรือ Kristen Ruby นักการตลาดจาก Ruby Media Group ที่มองว่า มันเป็นคอนเทนต์เปิดโลกให้กับเด็ก ๆ ที่อาจไม่มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์นั้นจริง ๆ
นอกจากหมกมุ่นกับการทำคลิปให้ดีแล้ว สิ่งที่ Jimmy ค้นคว้าเพิ่มเติมก็คือ การศึกษาวิธีการทำงานของอัลกอริธึมบน YouTube รวมถึงศึกษาข้อมูลสถิติของ Youtuber คนอื่น ๆ และนำมาปรับใช้กับคลิปของตนเอง เพื่อให้คลิปของเขาถูกอัลกอริธึมแนะนำให้กับผู้คนในวงกว้าง (ซึ่งแน่นอนว่า ยิ่งมีคนดูมาก ก็ยิ่งทำรายได้ให้กับ Jimmy และ YouTube มากขึ้นตามไปด้วย)
ผลก็คือ ในตอนนี้ อาณาจักรของ Jimmy Donaldson หรือ MrBeast ในวัย 25 ปีถูกประเมินว่ามีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปแล้วเรียบร้อย โดยนอกจากเขาจะเป็นเจ้าของช่องอย่าง MrBeast, Beast Reacts, MrBeast Gaming, MrBeast 2 (เดิมชื่อ MrBeast Shorts) และ Beast Philanthropy แล้ว เขายังมีผู้ติดตาม 85 ล้านแอคเคาน์บน TikTok และอีก 39 ล้านคนบน Instagram ด้วย
นอกจากนั้น เขายังเป็นคนแรกที่มีผู้ติดตามเกิน 1 ล้านคนบน Threads ด้วย (แถมยังทำได้ก่อน Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta เสียอีก)
เคล็ดลับในการทำคลิปของ MrBeast
Jimmy เคยกล่าวถึงเคล็ดลับในการทำคลิปของเขาเอาไว้ในหลาย ๆ โอกาส หนึ่งในนั้นคือการให้สัมภาษณ์กับ The Detroit News ว่า มันคือการทดลอง โดยเขาเปรียบเทียบการทำคลิปของเขากับการรับเลี้ยงสุนัขจากสถานรับเลี้ยง ที่เขาทดลองนำมาเลี้ยงทุกรูปแบบ (ไม่ว่าจะเป็นการทำภาพปกคลิปที่น่าเบื่อ คลิปที่ยาวเกินไป คลิปที่สั้นเกินไป การใช้พาดหัวแบบต่าง ๆ) และใช้เวลา 30 วินาทีแรกของคลิปในการตัดสินว่าคลิปนั้น ๆ จะประสบความสำเร็จหรือไม่
“Once you know how to make a video go viral, it’s just about how to get as many out as possible, … you can practically make unlimited money. [But] the videos take months of prep. A lot of them take four to five days of relentless filming. There’s a reason other people don’t do what I do.”
Jimmy บอกด้วยว่า เขาไม่สามารถสรุปออกมาเป็นสูตรสำเร็จในการทำคลิป แต่เขาผสมผสานมันจนออกมาเป็นคลิปในรูปแบบของตนเอง ซึ่งทุกวันนี้ เขาก็ยังตื่นขึ้นมาพร้อมกับความตั้งใจว่า จะสร้างคลิปที่ดีที่สุดออกมาให้ได้อย่างต่อเนื่อง และนั่นทำให้งบประมาณในการทำคลิปแต่ละครั้งของเขา ทะลุเกิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปแล้ว (ปัจจุบันเขามีสตูดิโอมูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ใน Greenville สำหรับการถ่ายทำ)
MrBeast กลับสู่รั้วการศึกษา
แม้ว่าทาง YouTube จะไม่มีการเปิดเผยว่า บริษัทได้จ่ายเงินค่าโฆษณาให้กับ MrBeast เป็นจำนวนเท่าใด แต่จากการจัดอันดับของหลาย ๆ เวที ปฏิเสธไม่ได้ว่า MrBeast คืออินฟลูเอนเซอร์ยักษ์ใหญ่แห่งยุค เช่น Guinness World Records ระบุว่า ในปี 2021 เขาเป็น YouTube Contributor ที่ทำรายได้สูงสุดของปีนั้น นั่นคือ 54 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,871 ล้านบาท โดยนอกจากช่อง YouTube แล้ว เขายังมีแบรนด์ขนม – เบอร์เกอร์ของตนเองอย่าง Feastables และ MrBeast Burger ด้วย
เช่นเดียวกับนิตยสาร Time ที่จัดอันดับเขาเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจของโลก และความสำเร็จเหล่านี้ได้นำให้เขากลับเข้าสู่แวดวงการศึกษาอีกครั้ง โดยที่ผ่านมา MrBeast เคยเปิดคลาสร่วมกับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง เช่น Harvard Business School และในเดือนพฤศจิกายนนี้ MrBeast ยังมีแผนจะกลับไปยัง East Carolina University อีกครั้ง โดยเป็นการกลับไปเปิดคอร์สสอนการเป็น content creators ให้กับทางสถาบันนั่นเอง
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand