หลังนักบินอวกาศนาซ่า ส่งทวีตข้อความ Hello, Thailand! จนโซเชียลสะเทือน CP ก็เล่นใหญ่ประกาศ HELLO ASTRONAUT! WE ARE READY ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยต่างจับตามองถึงปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งในที่สุดก็เฉลยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าไวรัลดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของบิ๊กโปรเจกต์แห่งปีของ CPF หรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ที่ได้ประกาศภารกิจเตรียมส่งไก่ไทยไปพิชิตอวกาศ ในโครงการ Thai food – Mission to Space ขึ้นเป็นครั้งแรก
สำหรับโครงการ Thai food – Mission to Space นอกจากจะมีซีพีเอฟเป็นโต้โผใหญ่แล้ว ยังมีการวิจัยร่วมกับ 2 พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมอวกาศจากสหรัฐอเมริกา NANORACKS LLC และ บจก.มิว สเปซ แอนด์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี หรือ MU Space สตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมอวกาศที่ก่อตั้งโดยคนไทย เพื่อร่วมยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ไทย แบรนด์ไทยก้าวสู่มาตรฐานใหม่ ไก่ไทยจะไปพิชิตมาตรฐานอวกาศ (Space Food Safety Standard) ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยระดับเดียวกับที่นักบินอวกาศรับประทาน ตามหลักเกณฑ์ขององค์กร NASA
ปฏิบัติการ Thai Food – Mission to Space ส่งไก่ไปอวกาศครั้งแรกของแบรนด์ไทย
คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟ กล่าวว่า โครงการ Thai food – Mission to Space เกิดจากความตั้งใจของซีพีที่ต้องการยกระดับอาหารไทย สู่มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดของโลก โดยเฉพาะไก่ไทย ที่จะขึ้นสู่ยานอวกาศ ด้วยโจทย์ที่ว่าทำอย่างไรให้ทุกคำได้คุณค่าสูงสุด ปลอดภัยสูงสุด อร่อยมากที่สุด เท่าที่ซีพีเอฟจะทำได้ โดยปฏิบติการในครั้งนี้ไก่ไทยต้องผ่านการรับรองความปลอดภัยมาตรฐานอวกาศ ซึ่งก็คือมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารขั้นสูงระดับเดียวกับที่นักบินอวกาศสามารถรับประทานได้
“เทรนด์การดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะเพื่อเป็นยานั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นในอนาคต ซีพีเอฟในฐานะที่เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านอาหาร จึงต้องการยกระดับมาตรฐานของไก่ซีพีให้ไปได้ไกลเกินระดับโลก และปลอดภัยพอจนถึงขั้นที่จะไปเสิร์ฟบนอวกาศได้ จึงเกิดเป็นโครงการนี้ขึ้นมา”
ภายใต้โครงการ Thai food – Mission to Space สิ่งที่ต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายคือ กระบวนการ มาตรฐานต่างๆ ที่ทางซีพีเอฟต้องพัฒนาในทุกกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้คุณภาพระดับสูงสุด โดยปัจจุบันซีพีเอฟได้รับมาตรฐานการผลิตและความปลอดภัยด้านอาหารระดับนานาชาติสูงสุดถึง 6 มาตรฐาน เป็นส่วนช่วยให้ซีพีเอฟเดินตามเป้าหมายในการพาไก่ซีพีไปสู่อวกาศ และมาตรฐานอวกาศจะต้องผ่านกระบวนการตรวจเชื้อโรค สารตกค้าง ความปลอดภัย และคุณภาพด้านอาหารต่างๆ ตามหลักเกณฑ์ของ Space Food Lab อีกมากกว่า 40 รายการ
โดย Mr. Michael James Massimino อดีตนักบินอวกาศ NASA กล่าวว่า การทำภารกิจบนอวกาศ 1 ครั้งใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ ด้วยระยะเวลาที่นาน ดังนั้นเรื่องอาหารจึงนับเป็นเรื่องสำคัญต่อนักบินอวกาศ จำเป็นต้องมีคุณภาพโภชนาการ รสชาติ ความปลอดภัย และเก็บรักษาบนอวกาศได้ดี เพราะอาหารที่นักบินอวกาศต้องรับประทานนั้น จะต้องมีความปลอดภัยไร้สารตกค้างซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้นการที่อาหารที่ได้มาตรฐานสูงสุดจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการปฏิบัติภารกิจนอกโลกที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง
ด้าน Miss Vickie Kloeris นักวิทยาศาสตร์อาหารที่เคยทำงานในห้องวิจัยของ NASA มานานกว่า 34 ปี และเป็นผู้จัดการระบบอาหารสำหรับเที่ยวบินแรกสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) กล่าวว่า อาหารเป็นสิ่งสำคัญ NASA จำเป็นต้องดูแลนักบินอวกาศให้แข็งแรงผ่านเรื่องของโภชนาการอาหารเป็นหลัก เพราะอาหารมีผลต่อสุขภาพของลูกเรือ NASA จึงให้ความสำคัญสูงกว่าอาหารพาณิชย์ทั่วไป เพื่อลดความเสี่ยงจากอาหารป่วยที่เกิดจากอาหาร และจากมาตรฐานทั้งหมด เชื่อว่าโครงการ Thai food – Mission to Space นั้นจะประสบความสำเร็จ ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยในระดับที่ NASA กำหนด และหากมีการส่งไก่จากไทยในเมนูแบบไทยขึ้นไปบนสถานีอวกาศจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีของนักบินอวกาศอย่างแน่นอน
“การรับประทานอาหารบนอวกาศที่ผ่านมาในอดีตจะเป็นรูปแบบหลอด หรือเมนูง่ายๆ ที่สะดวกต่อการับประทาน ซึ่งไม่หลากหลาย การส่งอาหารไทยที่มีรสเผ็ดขึ้นไป จะช่วยให้การหมุนเวียนเลือดในร่างกายทำได้ดีขึ้น และยังช่วยในการรับกลิ่น รส ให้ดีขึ้นอีกด้วย”
ไม่เพียงแค่พิสูจน์ความสำเร็จและขีดความสามารถในการพัฒนาอาหารไทยให้มีมาตรฐานระดับโลกเท่านั้น หากแต่เป็นอีกหนึ่งเจตนารมณ์ของซีพีเอฟในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยได้เดินตามความฝันให้เป็นจริง “ซีพีเอฟ” ในฐานะที่เป็นบริษัทด้านอาหารไทย จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการเริ่มต้นสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย คนเอเชีย หรือคนทั่วโลก หากมีความมุ่งมั่น แรงบันดาลใจก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้
“เราไม่เลือกทำสิ่งที่ง่าย.. ซีพีเอฟ
เราเลือกที่จะทำสิ่งที่ยาก ถ้าเราเชื่อว่าสิ่งนั้นดีที่สุด
เพราะเราเชื่อว่า คนไทยทำได้!!”