HomeBrand Move !!ล้วงสูตร “แพร – แพรวา ไชยซาววงศ์” ปั้น Brown Cafe  เมื่อธุรกิจขนมหวานต้องมาจาก Passion เป็นอย่างแรก

ล้วงสูตร “แพร – แพรวา ไชยซาววงศ์” ปั้น Brown Cafe  เมื่อธุรกิจขนมหวานต้องมาจาก Passion เป็นอย่างแรก

แชร์ :

Brown Cafe

ในยุคที่ร้านชานมไข่มุกกลับมาบูมอีกครั้ง และ Top Brand ในใจลูกค้าส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ แต่สำหรับคอชานม ชาไข่มุก คงคุ้นเคยกับชื่อแบรนด์ บราวน์  (Brown) ร้านชานมไข่มุกที่ให้บริการทั้งเครื่องดื่มและขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นหลากหลายเมนู การเป็นแบรนด์สัญชาติไทยที่ประสบความสำเร็จท่ามกลางสมรภูมิชานมไข่มุกจากต่างประเทศ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

BrandBuffet คุยกับ “แพร – แพรวา ไชยซาววงศ์” ผู้ที่ก่อตั้ง Brown ขึ้นมาด้วยจุดเริ่มต้นจาก Passion ที่มีใจรักต่อชานมไข่มุกและขนมหวานอย่างแรงกล้า ตั้งแต่วันแรกของการเริ่มต้นธุรกิจจากการลองผิดลองถูก ด้วยสูตรจาก Youtube ที่แม้กระทั่งไข่มุกยังต้มทิ้งซ้ำแล้วซ้ำอีก ที่ประสบผลสำเร็จจนถึงปัจจุบัน

“คุณแพร” เล่าที่มาของ Brown ว่า นอกจากความต้องการในการเปิดร้านชานมไข่มุก ซึ่งเป็นสิ่งที่ชื่นชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ช่วงแรกเริ่มของการเปิดร้านยังมีการเรียนรู้ เข้าคอร์สการทำชานมไข่มุก และทดลองต้มไข่มุกเองตั้งแต่ต้น (ที่ไต้หวัน) เป็นระยะเวลากว่า 4 เดือนจนกลายมาเป็นสูตรที่ลงตัวในปัจจุบัน  ผ่านพ้นไป 4-6 เดือน แบรนด์ Brown เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง กลายเป็นร้านบราวน์ (Brown) สาขาแรกที่ นิมมาน ซ.9 จ.เชียงใหม่

จากนั้นจึงย้ายมาสาขาที่กรุงเทพฯ เป็นแห่งแรก โดยปรับโมเดลให้เข้ากับพื้นที่ที่มีจำกัด ด้วยการขายเครื่องดื่มมากกว่าขนมหวาน  ก่อนที่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ CRG  จะเข้ามาร่วมทุน (Joint Venture: JV) กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด บราวน์ กรุ๊ป ร่วมกันก่อตั้ง บริษัท บราวน์ดีเซิร์ท จำกัด โดย CRG เข้าร่วมทุนในสัดส่วน 51% ด้วยเงินลงทุนราว 70 ล้านบาท และเริ่มมีการปรับแผนงาน หลังบ้านอย่างจริงจังในปี 2563

แพร - แพรวา ไชยซาววงศ์

คุณแพร – แพรวา ไชยซาววงศ์

 

เส้นทางตลอดระยะเวลา 3 ปีหลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ CRG ว่า  มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่งขึ้น มีมืออาชีพเข้ามาดูแลระบบ การวางแผน บริหารจัดการจากมืออาชีพให้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ในมุมของธุรกิจการเติบโตดังกล่าว แม้จะประสบผลสำเร็จ แต่ในฐานะที่แบรนด์เข้ามาอยู่ในร่มยักษ์ใหญ่อย่าง CRG การเติบโตระยะยาว ไปพร้อมๆกับการขยายสาขาเพื่อครอบคลุมตามสเกลธุรกิจคือสิ่งจำเป็น

แต่ด้วยทำเลที่มีจำกัด บวกกับในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ทำให้ Brown ต้องโฟกัสการบริการที่ง่ายและคล่องตัวอย่าง ร้านรูปแบบ Mini House และบริการดิลิเวอรี่ก่อน ทำให้ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา “โควิด”  คือจุดพีคสุดของปัญหาที่แบรนด์ต้องเผชิญ ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวต้องบริหารจัดการและดูแลน้องๆเพื่อฝ่าวิกฤติไปให้ได้มากที่สุด แต่โชคดี Brown เป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่สามารถปรับตัวเข้าสู่บริการแบบดิลิเวอรีได้ง่ายทำให้สามารถฝ่าช่วงวิกฤติมาได้โดยไม่ต้องเฉือนเนื้อตัวเอง

ขณะที่หลังโควิดพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป หันมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ทำให้แบรนด์ Brown ต้องกลับมาโฟกัสการทำตลาดที่เน้นการมอบประสบการณ์ภายในร้านให้ลูกค้าเพิ่ม ด้วยการรุกตลาดในโมเดลคาเฟ่ Brown Cafe  ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ที่เกิดขึ้นในสาขาแรก จ.เชียงใหม่ ให้มากขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ Dine-in จากร้านสู่ลูกค้าโดยตรง เพื่อสร้างแบรนด์ให้เติบโตแบบมีเสถียรภาพมากที่สุด

3 ปี แห่งการเปลี่ยนแปลงในร่มใหญ่ CRG กับการเปิด Brown Cafe ที่มากกว่าชานมไข่มุก

ล่าสุดกับการเปิดร้าน Brown Cafe โมเดลธุรกิจใหม่เพื่อดึงลูกค้าให้กลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้นในยุคที่พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลงหลังโควิด และรองรับการแข่งขันในธุรกิจขนมหวานที่แทบจะเป็น Red Ocean ในไทย โดยมีการเพิ่มเติมเมนูขนมหวานเข้ามาภายในร้านมากขึ้น จากเดิมที่ร้าน Brown สาขากรุงเทพฯ เน้นเมนูชานมไข่มุกเป็นหลัก นอกจากนี้ยังตกแต่งรูปแบบภายในร้านด้วยบรรยากาศโทนสีน้ำตาล หรือบ้านไม้ ให้ความรู้สึกเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในร้าน ในสไตล์ Warm Welcome Japanese Dessert ที่ชัดเจน แต่เพิ่มเติมเรื่องความหลากหลาย วาไรตี้ ในส่วนของเมนูต่าง ๆ ให้ลูกค้ากลับออกไปด้วยความประทับใจ

โดยปัจจุบัน Brown Cafe  หรือที่เรียกว่า Full House (Dessert Cafe จำหน่ายของหวาน และ เครื่องดื่ม) จำนวน 4 สาขา ได้แก่ สาขา เชียงใหม่, เซ็นทรัล พระราม 9, เซ็นทรัล เวสต์เกตต์, แฟชั่นไอส์แลนด์ จากจำนวนทั้งหมดที่มีอยู่ 14 สาขาในปัจจุบัน

 

Brown Cafe

โมเดล Brown Cafe หรือ Full house (dessert café จำหน่ายของหวาน และ เครื่องดื่ม)

การโฟกัสโมเดลคาเฟ่ของ Brown แม้จะเป็นการทำตลาดในยุคที่ธุรกิจคาเฟ่เติบโต มีร้านจากผู้ประกอบการมากมายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แต่ “คุณแพร” บอกว่า จุดต่างของ Brown Cafe ในการเปิดร้านคาเฟ่ภายในศูนย์การค้าคือการให้ลูกค้าเข้าถึงง่าย สะดวกสบาย ในทุกครั้งที่ลูกค้าต้องการในชีวิตประจำวัน  ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าการทำธุรกิจยุคใหม่ จำเป็นต้องใส่ความมั่นใจและไอเดียเข้าไป เพื่อสร้างการเติบโต 

แนวคิดสำคัญที่ทำให้ Brown สร้างแบรนด์จนประสบความสำเร็จท่ามกลางธุรกิจชานมไข่มุกที่มีการเติบโตสูงในช่วงที่ Brown เข้ามาในตลาด สิ่งแรกที่ต้องมีคือ มาตรฐานที่ต้องมีอย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันก็ต้องมีความต่าง โดย “คุณแพร” คือคนที่คิดสูตรไปจนถึงพัฒนาเมนูต่างๆที่มีร่วม 200 รายการภายในร้านเองทั้งหมด นั่นคือการรับมือกับความท้าทายคือการปรับตัว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเฉพาะในธุรกิจขนมหวานที่มีคู่แข่งจำนวนมากในยุคปัจจุบัน

“แม้ตลาดชานมจะมีช่วงพีค แต่ตอนนี้ตลาดกลับมาเติบโตแบบสม่ำเสมอแล้ว เราจำเป็นต้องหาอะไรมาเติมให้ลูกค้าเพื่อสร้างความแปลกใหม่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีหลายโซนที่เรายังขยายสาขาไปไม่ถึง แผนงานต่อจากนี้คือการขยายสาขาให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ในศูนย์การค้าที่มีทราฟฟิก มีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบชานมไข่มุกอยู่จำนวนมาก”

 

พัฒนาเมนูของหวาน ขยายฐานลูกค้าใหม่ครอบครัวก่อนขยายสาขาทั่วไทย

อีกหนึ่งความสำเร็จของ Brown Cafe คือการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มครอบครัวได้มากขึ้น เนื่องจากมีการเติมเมนูขนมหวานเข้าไปในร้าน จึงทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น จากช่วงแรกกลุ่มลูกค้าของ Brown เป็นคนรุ่นใหม่ นักศึกษา วัยทำงาน แต่พอมาโฟกัสขนมหวาน ได้ลูกค้าที่เป็นกลุ่มครอบครัวมากยิ่งขึ้น 

นั่นทำให้การเพิ่มเติ่ม ปรับเปลี่ยนเมนูขนมหวานภายในร้าน กลายเป็นอีกหนึ่งคีย์หลักที่ทางแบรนด์ให้ความสำคัญ โดยจะต้องมีเมนูใหม่ออกมาทุกๆ 3 เดือน ตามเทรนด์และกระแสในขณะนั้นอยู่ตลอดเวลา เพราะในธุรกิจขนมหวานส่วนสำคัญคือ Emotional ที่ทำอย่างไรให้ลูกค้ามีอารมณ์ร่วม และนึกอยากรับประทานขึ้นมา เพราะต้องยอมรับว่าขนมหวานนั้นไม่ใช่อาหารมื้อหลักที่ลูกค้ารับประทานประจำ นอกเหนือจากคุณภาพ รสชาติ จำเป็นต้องสร้างความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นสินค้า แพ็คเกจจิ้ง สร้างความโดดเด่นให้ไม่เหมือนใคร และต้องตามกระแสให้ทันตลอดเวลา 

 

Brown dessert

 

จากนี้ไป Brown ถูกวางโพซิชั่นเป็น Dessert Cafe ในตลาดพรีเมี่ยมแมส กับคอนเซ็ปต์  Friendly Dessert for Your Health  มีระดับราคาตั้งแต่ 60-300 บาท โดยมีชานมไข่มุกเป็นฮีโร่โปรดักต์ แน่นอนแผนธุรกิจนับจากนี้คือการขยายสาขาให้ครอบคลุมมากที่สุดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมทั้งพัฒนาเมนูให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น และยังต้องเพิ่มบริการที่เข้าถึงลูกค้าในทุกรายละเอียดให้มากขึ้น

 

“ตอนนี้ลูกค้าอาจจะจำว่าเราคือแบรนด์ชานมไข่มุก แต่จากนี้ไปเราจะเน้นการสื่อสารแบรนด์ที่บอกว่าเราเป็นมากกว่าชานมไข่มุก มีเมนูของหวานให้เลือกกว่า 200 รายการในแต่ละหมวดหมู่ที่หลากหลาย”

 

ขณะที่การเปิดสาขาของ Brown ในปี 2566 นี้จะเน้นขยายให้ครอบคลุมในกรุงเทพฯ ก่อนจะขยายออกไปต่างจังหวัดเพื่อสร้างการเข้าถึงให้มากขึ้น โดยปัจจุบันสามารถขยายสาขาแล้ว  14 สาขา ใน 2 โมเดลหลัก  ได้แก่  Full House (Dessert cafe จำหน่ายของหวาน และ เครื่องดื่ม) จำนวน 4 สาขา , Mini House (จำหน่ายเครื่องดื่ม และของหวานเฉพาะรูปแบบ Takeaway) จำนวน 10 สาขา และมีสาขาในอีก 3 ประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน คือ กัมพูชา มาเลเซีย และ ฟิลิปปินส์

นอกจากนี้อนาคตยังมีแผนขยายแบรนด์เข้าหาลูกค้าให้มากที่สุด ในช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยจะมีการต่อยอดชานม และขนมหวานต่างๆ ของแบรนด์ไว้ในบรรจุภัณฑ์เพื่อเข้าจำหน่ายในช่องทางรีเทลในอนาคต

 

ซินเนอร์ยี่แบรนด์ในเครือ CRG ต่อยอดธุรกิจในอนาคต

แม้จะกลายเป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างการเติบโตท่ามกลางตลาดขนมหวาน คาเฟ่ ระอุมาได้ แต่ “คุณแพร” บอกว่าสิ่งที่ยังต้องทำสม่ำเสมอคือการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ด้วยการหมั่นเข้าคอร์ส ฝึกอบรม และประชุม โดยมีทีมงานของ CRG เป็นผู้ผลักดันสำคัญอยู่เบื้องหลังเสมอ 

 

Mini house

Brown Mini House (จำหน่ายเครื่องดื่ม และของหวานเฉพาะรูปแบบ takeaway)

 

โดยจากนี้ไปจะมีการ Collaboration กับแบรนด์ในกลุ่ม CRG เพื่อผนึกกำลังสร้างโอกาส เพิ่มการรับรู้ให้แก่ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ และยังเป็นการเพิ่มวาไรตี้ให้กับเมนู เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ ทุกกลุ่มอายุ และทุกไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงการนำ innovation ต่าง ๆ มาพัฒนาต่อยอด และนำเสนอเมนูใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 

เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า สามารถสร้างความน่าสนใจ แปลกใหม่ และแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นการจับมือทำสินค้าร่วมกัน หรือแม้กระทั่งการนำเมนูจาก Brown ไปวางจำหน่ายเป็นเมนูขนมหวานภายในร้าน เช่น การนำเมนูไอศกรีมไปวางจำหน่ายในร้านโอโตยะ หรือการแชร์พื้นที่สาขาร่วมกันกับแบรนด์ โคลสโตน ร้านไอศกรีมในเครือ CRG ที่ Brown Cafe ในสาขาเซ็นทรัล พระราม 9

สุดท้าย คุณแพร เผยว่า อนาคตถ้าระบบการบริหารจัดการนิ่งแล้ว Brown ยังมีแผนขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ต่อไป แต่ตอนนี้ขอวางระบบและพัฒนาคุณภาพ บริการให้ตอบโจทย์มากที่สุดเสียก่อน โดยวางเป้าหมายแรกในช่วง 5 ปีนับจากนี้ (2565-2569) ไว้ที่  500 ล้านบาท พร้อมทั้งกลายเป็น Top Of Mind Brand ที่เมื่อใครนึกถึงชานมไข่มุกและขนมอยากให้นึกถึงแบรนด์ Brown จนกลายเป็น Brand Love ของคนไทย


แชร์ :

You may also like