เคยสงสัยไหมว่าเวลาทำอาหารฝรั่งหรือทำเบเกอรี่ให้ออกมาอร่อย เค้าเลือกใช้วัตถุดิบอะไรกัน แน่นอนว่าใครที่เพิ่งเข้าวงการทำอาหารอาจมีจังหวะสับสนกันบ้าง เพราะวัตถุดิบที่เป็นส่วนผสมสำคัญในอาหารฝรั่งหรือเบเกอรี่ต่าง ๆ คือเนยและชีส นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งประเภทของเนยและชีสออกมาอีกมากมาย จนแทบจะเลือกไม่ถูกว่าควรใช้ตัวไหนมาประกอบอาหารดี ข้อสงสัยทั้งหมดนี้ Allowrie มีคำตอบให้คุณแล้ว …
เนยกับชีสแตกต่างกันอย่างไร แล้วทำไมต้องเลือกยี่ห้อที่มีคุณภาพ
ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักเนยและชีสก่อนว่า ทั้งสองอย่างเป็นวัตถุดิบที่ตั้งต้นมาจากนมวัวทั้งคู่ แตกต่างกันตรงกรรมวิธีการผลิต โดยเนยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากไขมันที่ปั่นออกมาจากนมที่แยกชั้นแล้ว แต่ชีสเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการตกตะกอนของโปรตีนในนม จากนั้นจึงนำโปรตีนมาผสมกับแบคทีเรียหรือเชื้อรา และนำมาบ่มต่อเพื่อให้ขึ้นรูปเป็นชีสแข็ง ๆ เหมือนที่เราเห็นได้ตามซูเปอร์ฯ ทั่วไป
สำหรับประเด็นที่สงสัยว่า แล้วทำไมต้องเลือกเนยและชีสที่มีคุณภาพมาประกอบอาหาร ปัจจัยหลักเลยคือเนยและชีสที่มีคุณภาพดีจะเพิ่มอรรถรสให้เราดื่มด่ำกับความหอมและความอร่อยของอาหารได้ดียิ่งขึ้น และอีกประการหนึ่งคือ มีผลดีต่อสุขภาพ เพราะหากเลือกใช้เนยแท้ที่ทำมาจากนมวัว มีกรรมวิธีการผลิตที่มีมาตรฐาน และควบคุมคุณภาพวัตถุดิบอยู่เสมอ จะทำให้ร่างกายได้รับไขมันอิ่มตัว ซึ่งเป็นไขมันดีเข้าสู่ร่างกายได้โดยตรง ในด้านของชีสก็เช่นเดียวกัน โดยประโยชน์ของชีสคือ อุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามินต่าง ๆ มากมาย ที่สำคัญ ยังเหมาะเป็นอาหารสำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วน เพราะทำให้อยู่ท้องได้นาน และช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารได้ดี
Allowrie ตอบโจทย์คนรักอาหารและรักสุขภาพ ด้วยเนยและชีสเกรดพรีเมียม
Allowrie (อลาวรี่) เป็นแบรนด์เนยและชีสเกรดพรีเมียมภายใต้ บมจ. เคซีจี คอร์ปอเรชั่น (KCG) ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 60 ปี โดย KCG ยังมีแบรนด์ในเครือที่เกี่ยวข้องกับอาหารอีกมากมาย ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์บิสกิต ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่คุ้นหูคนไทย ก็คือ Imperial หรือคุกกี้ปีใหม่กล่องแดงนั่นเอง
ความพิเศษของแบรนด์ Allowrie คือ การนำเข้าวัตถุดิบไขมันนมจากประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ จึงทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าวัตถุดิบมีคุณภาพและได้รับมาตรฐาน โดย Allowrie มีสินค้าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) ดังนี้
1. เนย (Butter) จำแนกออกเป็น 2 กลุ่มตามส่วนผสมของวัตถุดิบ คือ เนยแท้ (Pure Butter) ซึ่งมีส่วนผสมของไขมันนมขั้นต่ำ 80% และเนยผสม (Butter Blend) ซึ่งมีการผสมระหว่างไขมันนมและน้ำมันพืช ในสัดส่วนตามมาตรฐานของผลิตภัณฑ์เนย
2. ชีส (Cheese) จำแนกออกเป็น 2 กลุ่มตามกระบวนการผลิต คือ ชีสธรรมชาติ (Natural Cheese) ซึ่งเป็นการนำเอาผลิตภัณฑ์ชีสสำเร็จรูปนำเข้ามาจากต่างประเทศ และมาปรับเปลี่ยนรูปทรงของผลิตภัณฑ์ เช่น นำมาขูดเป็นเส้น หรือนำมาบดให้เป็นผงหยาบ ๆ และชีสที่ผ่านกระบวนการปรับแต่งรสชาติ (Processed Cheese) ซึ่งเป็นการนำชีสสำเร็จรูปมาหลอมผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ
ความเชื่อใจจากเชฟอาหารทั่วโลก และกระแสอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังมาแรง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Allowrie เป็นตัวเลือกที่ได้รับการยอมรับจากเชฟชั้นนำกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยมักถูกเลือกเป็นส่วนประกอบในการแข่งขันทำอาหาร หรือใช้ในร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลินไกด์ (Michelin Guide) สิ่งนี้จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า นอกจากทักษะฝีมือของผู้ประกอบอาหารแล้ว วัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารก็ช่วยเสริมให้รสชาติอร่อยด้วยเช่นกัน
และหากพูดถึงสิ่งที่เป็นกระแสมาแรงตั้งแต่ช่วงแพร่ระบาด Covid-19 คือเทรนด์การดูแลสุขภาพ รวมไปถึงอาหารที่ใช้รับประทานก็ต้องดีต่อสุขภาพ โดยสามารถวัดได้จากจำนวนคนที่หันมาเป็นสายมังสวิรัติมากขึ้น ซึ่งสามารถบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมอย่างเนยหรือชีสได้ หรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักก็จำเป็นต้องเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ของ Allowrie เช่น ชีส Vegan และเนย MCT เป็นต้น จึงเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ที่ผู้บริโภคหลายคนนึกถึง เพราะคุณภาพที่เสมอต้นเสมอปลาย และรางวัลการันตีต่าง ๆ ของการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนยและชีสอันดับ 1 ของไทย
Reference
https://www.komchadluek.net/news/pr/550165
https://krua.co/food_story/cheese_benefit