HomeSponsored5 เหตุผล ทำไม Mitsubishi Heavy Duty ถึงเป็นเครื่องปรับอากาศในตำนาน และครองใจคนไทยกว่า 50 ปี

5 เหตุผล ทำไม Mitsubishi Heavy Duty ถึงเป็นเครื่องปรับอากาศในตำนาน และครองใจคนไทยกว่า 50 ปี

แชร์ :

เมื่อเอ่ยถึงแบรนด์ที่โดดเด่นในสมรภูมิเครื่องปรับอากาศ (หรือแอร์) แบรนด์ที่มักปรากฎขึ้นเป็น Top of Mind ของผู้บริโภคโดยเฉพาะในแง่ของความเย็นเร็ว ทนทาน ก็คือ Mitsubishi Heavy Duty ถึง แบรนด์ระดับตำนานจากญี่ปุ่น ภายใต้การขับเคลื่อนของมหาจักรดีเวลอปเมนท์ จนกระทั่งครองใจผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 50 ปี ซึ่งมี 5 เหตุผลหลัก ๆ ด้วยกัน ที่ทำให้ Mitsubishi Heavy Duty ยืนหนึ่งแบบไร้ข้อกังขา

1. Long History of Success  (ประวัติศาสตร์และความสำเร็จยาวนาน)

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ในโลกนี้มีแบรนด์ระดับตำนานไม่มากนัก หนึ่งในนั้นคือ Mitsubishi Heavy Duty ซึ่งมีรากเหง้าและประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า โดยแบรนด์เครื่องปรับอากาศระดับแนวหน้านี้ มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งโดย Iwasaki Yataro เมื่อปี 1870 ในนาม Tsukumo Shokai ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพาณิชย์นาวี จากนั้นขยายสู่ธุรกิจเหมืองแร่ อู่ต่อเรือ และธนาคาร ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Mitsubishi Heavy Industries (MHI) ในปี 1964 ปัจจุบันถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่และกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก อาณาจักรธุรกิจแห่งนี้ที่มีสินค้าหลากหลายมากกว่า 700 ประเภท ครอบคลุมทั้งภาคพื้นดิน ทะเล อากาศ และอวกาศ อาทิ พลังงาน ขนส่ง โลจิสติกส์ ยานยนต์ ยานอวกาศ โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และอาวุธยุทโปกรณ์ในการป้องกันประเทศ เป็นต้น เพราะฉะนั้นในเรื่องของการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนขุมพลังทางเทคโนโลยีต่าง ๆ จึงไม่เป็นสองรองใคร

สำหรับ บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด บริษัทชั้นนำของไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 1971 ในเครือกลุ่มบริษัทมหาจักร เริ่มดำเนินธุรกิจเป็นผู้แทนจำหน่ายและติดตั้งเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ ต่อมาได้ขยายเข้าสู่ธุรกิจนำเข้าเครื่องเสียงจากต่างประเทศ จนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านคุณภาพและการให้บริการ ปัจจุบันดำเนินธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่าย และให้บริการสำหรับสินค้า 3 ประเภทหลัก ได้แก่ 1. เครื่องปรับอากาศ  Mitsubishi Heavy Duty 2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Lifestyle Audio 3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Home & Smart Living 4. กลุ่มผลิตภัณฑ์ Professional Audio, Visual และ Lighting

โดยในปี 1984 ถือเป็นจุดเริ่มต้นตำนานเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ในไทย เนื่องจากมหาจักรดีเวลอปเมนท์ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จากนั้นในปี 1988 ได้ร่วมทุนกับ Mitsubishi Heavy Industries ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้ง Mitsubishi Heavy Industries – Mahajak Air Conditioners หรือ “MACO” เพื่อผลิตเครื่องปรับอากาศจัดจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและส่งออกทั่วโลก

2. Distinctive Features, Great Quality & Service (คุณภาพและบริการสุดปัง)

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Mitsubishi Heavy Duty ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องยาวนานขนาดนี้ก็คือ คุณสมบัติที่โดดเด่นและคุณภาพของสินค้าอันเป็นที่ประจักษ์ชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่อง “เย็นเร็ว ทนทาน ได้สุขภาพ”

เบื้องหลังที่ทำให้เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty เย็นเร็ว ทนทาน ประหยัดไฟได้นั้น เนื่องจากมีเทคโนโลยีด้านพลังงานที่ล้ำสมัย รวมถึงการพัฒนาทั้งด้านการออกแบบและด้านวิศวกรรม ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความแข็งแกร่ง ไม่สึกหรอง่าย รวมถึงมีการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ตัวอย่างคุณสมบัติที่อัดแน่นของเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty รุ่น KAZE SERIES SRK13CXV-W1 ขนาด 12,262 บีทียู ที่มีราคาเพียง 20,000 บาทเศษ คือ มีการออกแบบช่องลมแบบ Jet Flow ที่ช่วยกระจายลมได้ไกลสูงสุด 11-17 เมตร เย็นเร็วด้วยโหมดการทำงานพลังสูง (Hi power) ทำให้ห้องเย็นฉ่ำภายใน 15 นาที ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ด้วยระบบ 24 Hour ION ที่ช่วยสร้างประจุลบให้อากาศสดชื่นตลอดการใช้งาน ผนวกกับฟังก์ชั่น Self Clean Operation ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ป้องกันการเกิดกลิ่นอับชื้นในคอยล์เย็น พร้อมยกระดับอากาศสดชื่นด้วยแผ่นฟอกอากาศ Nano Air Filter PM2.5 และ Natural Solar Filter ช่วยปกป้องจากฝุ่น PM2.5 และกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นคุณสมบ้ติมาตรฐานของเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty

ขณะที่การให้บริการหลังการขายด้วยความใส่ใจและรวดเร็ว ก็เป็นอีกหนึ่งหมัดเด็ด ที่ทำให้ Mitsubishi Heavy Duty ยืนหยัดในตลาดเครื่องปรับอากาศมาได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการรับประกันนาน 5 ปี ทุกชิ้นส่วน

3. Product Variety with Innovation (ความหลากหลายของสินค้า)

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Mitsubishi Heavy Duty เป็นเครื่องปรับอากาศในดวงใจของผู้บริโภคชาวไทยก็คือ สามารถนำเสนอเครื่องปรับอากาศที่มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม โดยมีขนาดทำความเย็นตั้งแต่ 9,000-48,000 บีทียู ซึ่งทั้งหมดนี้มาพร้อมกับนวัตกรรมอันโดดเด่น

วาง Product Positioning เป็น “เครื่องปรับอากาศประเภทติดผนัง สำหรับทุกระดับที่พักอาศัย ทั้งแบบนอนอินเวอร์เตอร์ และอินเวอร์เตอร์ ตอบสนองต่อความต้องการทุกความเย็นสบายด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลาย ประหยัดไฟได้มากกว่าด้วยเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์แท้ทั้งระบบและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”

เครื่องปรับอากาศจาก Mitsubishi Heavy Duty มีหลายระดับราคา ไล่เรียงไปตั้งแต่ KAZE SERIES (สแตนดาร์ด นอนอินเวอร์เตอร์), HOSHI SERIES (อินเวอร์เตอร์) , HARU SERIES (สแตนดาร์ด อินเวอร์เตอร์), AKI / YUKI SERIES (ดีลักซ์ อินเวอร์เตอร์) และ FUYU SERIES (ซูเปอร์ดีลักซ์ อินเวอร์เตอร์) และยังมีเครื่องปรับอากาศประเภทอื่นๆ อีก 4 ประเภท ได้แก่ เครื่องปรับอากาศแบบ 4 ทิศทาง, แบบแขวนใต้ฝ้า, แบบต่อท่อลมและแบบตู้ตั้งพื้น รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยมอย่างเครื่องฟอกอากาศ หลายคนก็ยังไม่รู้ว่า Mitsubishi Heavy Duty เอง ก็มีสินค้าประเภทนี้ด้วย เปิดตัวภายใต้ชื่อ Mori Series ตอกย้ำสัญชาติแบรนด์ญี่ปุ่น มาพร้อมกับคุณสมบัติยอดเยี่ยมที่สามารถกรองฝุ่นอนุภาคขนาดเล็ก PM2.5 ได้มากถึง 99% เลยทีเดียว

4. World Class Production  (มาตรฐานระดับโลก)

เป็นเวลากว่าศตวรรษที่ Mitsubishi Heavy Industries ได้รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดและเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมให้กับโลก สร้างประโยชน์และคุณค่าให้กับสังคม ตลอดจนมอบความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมโลก และยังคงยืนหยัดที่จะท้าทายนวัตกรรมทางเทคนิคใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องสำหรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งโรงงาน MACO ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ก็ได้สืบทอดมรดกนี้เช่นกัน โดยไม่ลืมจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรม และใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อสร้างอนาคตที่สดใสและยั่งยืนยิ่งขึ้นให้กับทั้งผู้บริโภคและโลกของเรา

ด้วยโรงงานที่ทันสมัยมาตรฐานระดับโลกของ MACO ซึ่ง ได้รับการการันตีจากรางวัลต่าง ๆ มากมายจากทั่วโลกนับตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา จึงมั่นใจได้ว่าเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty เป็นเครื่องปรับอากาศที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง จนเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคจากรุ่นสู่รุ่น

ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศจากโรงงาน MACO มีกำลังการผลิตรวมกันทั้งเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ ไปแล้วมากกว่า 40 ล้านเครื่อง ซึ่งนอกจากจะเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศไทยแล้ว ยังส่งออกไปยังยุโรป ญี่ปุ่น จีน รัสเซีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมกันแล้วถึง 65 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย

5. Effective Marketing Campaign  (การตลาดที่มีประสิทธิภาพ)

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ของ Mitsubishi Heavy Duty ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เนื่องจากได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ Consumer Insight อย่างแท้จริง โดย “Mahajak Plus” แคมเปญการตลาดล่าสุดที่ตีแตก Pain Point ของผู้บริโภคได้ตรงจุด โดยนำเสนอบริการติดตั้งเครื่องปรับอากาศใหม่แทนเครื่องเดิม พร้อมรับราคาลดพิเศษ ขณะเดียวกันก็บริการติดตั้งฟรี รื้อถอนและล้างแอร์ 1 ครั้ง ภายใน 1 ปี

รวมถึงข้อเสนออื่น ๆ ที่ผู้บริโภคไม่อาจปฏิเสธได้ เช่น เมื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty และทำการลงทะเบียนผ่าน LINE: Heavy Duty Warranty รับสิทธิ์ประกันเพิ่ม 6 เดือน  และรับสิทธิ์ในการ ผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน (เฉพาะธนาคารที่ร่วมรายการ) เป็นต้น

ขณะที่การใช้ “มาริโอ้ เมาเร่อ” พระเอกหนุ่มสุดฮอตเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อสื่อสารถึงคุณสมบัติที่ชัดเจนของเครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Heavy Duty ว่า “ทนทาน ประหยัดไฟ ได้สุขภาพ” ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์เด่นที่คาดว่าจะช่วยเพิ่ม Brand Awareness และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น เพราะหนักแน่นด้วยข้อดีขนาดนี้ รับรองว่าผู้บริโภคอย่างเราไม่หนักใจอย่างแน่นอน

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 50 ปี ของมหาจักรดีเวลอปเมนท์ วางรากฐานที่แข็งแกร่งและต่อยอดความสำเร็จของ Mitsubishi Heavy Duty ในทุกด้าน ตลอดจนการให้บริการที่ดีเยี่ยมแบบครบวงจร ครอบคลุมทั่วประเทศ จึงทำให้เป็นสามารถปักหมุดเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด


แชร์ :

You may also like