เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) เพิ่มความเข้มข้น ประกาศยกเลิกแพกเกจราคาต่ำสุดในสหรัฐอเมริกา และอังกฤษแล้ว โดยผู้ที่สมัครสมาชิกใหม่ หรือคนที่เคยยกเลิกไปแล้วกลับมาสมัครใหม่จะไม่สามารถสมัครแพกเกจนี้ได้อีกต่อไป ซึ่งคาดว่าการเคลื่อนไหวนี้เป็นเพราะทางแพลตฟอร์มต้องการผลักดันผู้บริโภคกลุ่มนี้ไปสู่แพกเกจที่มีโฆษณานั่นเอง
สำหรับแพกเกจที่ Netflix ยกเลิกไปคือ “Basic Plan” โดยในสหรัฐอเมริกามีราคาอยู่ที่ 9.99 เหรียญสหรัฐฯ และในอังกฤษอยู่ที่ 6.99 ปอนด์ต่อเดือน ส่วนลูกค้า Basic Plan ปัจจุบัน จะยังคงจ่ายในราคาเดิมได้ต่อไปจนกว่าจะมีการยกเลิกบริการ หรือตัดสินใจเปลี่ยนแผน ซึ่งนอกจากผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษแล้ว Netflix ก็ได้ยกเลิก Basic Plan ในประเทศแคนาดาแล้วเช่นกัน
หนึ่งในตัวเลขที่ต้องพิจารณาจากนี้ไปคือกลุ่มสมาชิกในแพกเกจที่มีโฆษณา หรือ Standard With Ads โดยข้อมูลไตรมาส 1 ของปี 2023 พบว่า แพกเกจดังกล่าวของ Netflix สร้างรายได้เฉลี่ยรวมต่อลูกค้า (หรือ ARPU) สูงกว่าแพกเกจราคา 15.49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือนแล้ว หรืออาจกล่าวได้ว่า บริษัทสามารถสร้างรายได้จากโฆษณาอย่างน้อย 8.50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน ต่อสมาชิกหนึ่งคนในแผน Standard With Ads (ปัจจุบัน แผนดังกล่าวสามารถรับชมได้ 2 เครื่องพร้อมกัน โดยจะมีโฆษณาให้ชมชั่วโมงละ 4 นาที)
นอกจากนี้ ตัวเลขในเดือนพฤษภาคมของ Netflix ยังระบุว่า บริษัทมีลูกค้าในแพกเกจดังกล่าวแล้วกว่า 5 ล้านคน โดย 25% เป็นสมาชิกใหม่ด้วย ในแง่ของคอนเทนต์ พบว่า 95% ของคอนเทนต์บน Netflix สามารถรับชมได้ผ่านแพกเกจแบบมีโฆษณาแล้ว (ตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปี 2023) โดยมีคอนเทนต์เพียงส่วนน้อยที่ยังติดสัญญา หรือเงื่อนไขทางลิขสิทธิ์ทำให้ไม่สามารถรับชมได้เท่านั้น
สิ่งที่ต้องติดตามจึงอาจเป็นตัวเลขสมาชิกแบบ Standard With Ads ของ Netflix ว่าในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่เท่าไหร่ และ Netflix มีแผนอย่างไรในการสร้างการเติบโตของลูกค้ากลุ่มนี้ให้โดนใจนักลงทุน โดยในปัจจุบัน แพกเกจดังกล่าวเปิดให้บริการแล้วในหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เม็กซิโก และสเปน