Sam Altman ผู้ก่อตั้ง OpenAI บริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าของผลงานการพัฒนา ChatGPT เปิดตัวโปรเจ็คใหม่ “Worldcoin” ที่ใช้เทคโนโลยีการสแกนม่านตา ในการยืนยันตัวตน และแยกแยะมนุษย์ออกจากเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและกำลังก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ อย่าง Generative AI
เป้าหมายของการพัฒนา Worldcoin คือการสร้างเทคโนโลยีสำหรับใช้ระบุตัวตน โดยเฉพาะเวลาทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งผู้พัฒนามองว่า หากประสบความสำเร็จก็จะเปิดโอกาสใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจได้อีกมากนั่นเอง
ส่วนสาเหตุที่ต้องพัฒนา Worldcoin ขึ้นมานั้น ทางผู้พัฒนาเผยว่ามาจากความก้าวหน้าของ AI ที่เข้ามาท้าทายระบบรักษาความปลอดภัยแบบเดิม ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะ Gen AI ที่เริ่มเลียนแบบมนุษย์ได้ใกล้เคียงอย่างมาก
สำหรับการใช้งาน ทางผู้พัฒนาเผยว่าต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน World ก่อน (โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวจะมีลักษณะเป็น Wallet) จากนั้นก็ไปที่อุปกรณ์เก็บข้อมูลชีวภาพ (อุปกรณ์รูปทรงกลมขนาดเท่าลูกฟุตบอล และมีน้ำหนักประมาณ 6 ปอนด์) ซึ่งคนที่ทำครบกระบวนการดังกล่าวจะได้รับ WorldID สำหรับใช้ในการยืนยันตัวตน และ Worldcoin Token จำนวน 25 เหรียญเป็นการตอบแทนด้วย
ทั้งนี้ การเปิดตัว Worldcoin มีขึ้นอย่างเป็นทางการในอังกฤษ โดยทางผู้พัฒนาเผยว่า ปัจจุบัน มีอุปกรณ์สแกนม่านตาจำนวน 150 ชิ้น ที่กระจายออกไปสำหรับเก็บข้อมูลผู้คนทั่วโลก (มีสองตัวอยู่ในกรุงลอนดอน) และมีการเก็บข้อมูลของผู้คนไปแล้วประมาณ 2 ล้านราย จากมนุษย์ทั้งหมดบนโลกที่มีอยู่ราว 8 พันล้านราย
หวั่นใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ดี มีความกังวลเรื่องการเก็บข้อมูลในทางที่ผิดอยู่เช่นกัน เหตุเพราะมีการเก็บข้อมูลไบโอเมทริกซ์นี้เกิดขึ้นในซูดานและประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างมาเลเซีย ซึ่ง The MIT Technology Review อ้างว่า ประชาชนส่วนหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวเข้าใจว่าเป็นโครงการของรัฐบาล หรือมีรัฐบาลให้การสนับสนุน ซึ่งผิดจากความเป็นจริง เพราะเป็นการเก็บข้อมูลของบริษัทสตาร์ทอัพเท่านั้น
อีกประเด็นที่น่าเป็นห่วงก็คือ ผู้ที่เข้ามาสแกนข้อมูลชีวภาพด้วยอุปกรณ์ดังกล่าวจะได้รับ Worldcoin Token จำนวน 25 เหรียญเป็นการตอบแทน ซึ่ง Token ดังกล่าวได้เริ่มเทรดอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ผ่านมาด้วยราคา 1.70 เหรียญสหรัฐฯ และปัจจุบันราคาได้เขยิบขึ้นไปที่ 3.53 เหรียญสหรัฐฯ แล้ว นี่จึงอาจเป็นหนทางในการได้มาซึ่งข้อมูลชีวภาพที่ไม่สง่างามนักก็เป็นได้
นอกจากนั้นยังมีความกังวลว่า สตาร์ทอัพที่ครอบครองข้อมูลชีวภาพของผู้คนจำนวนมากนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้นมากน้อยแค่ไหนด้วย เพราะหากข้อมูลดังกล่าวหลุดออกไปสู่ภายนอก หรือไม่ได้รับการเก็บรักษาที่ดีมากพอ ก็อาจเกิดความเสี่ยงต่อเจ้าของข้อมูลได้นั่นเอง
สำหรับโปรเจ็ค Worldcoin นี้มีนักลงทุนจากโลกคริปโตอย่าง Andreessen Horowitz ให้การสนับสนุนด้วย โดยสามารถระดมทุนมาได้ประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ด้วยปัญหาด้านข้อกฎหมาย ทำให้ไม่มีการเปิดตัว WorldCoin ดังกล่าวในสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด