อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ยอมรับแล้ว รายได้ค่าโฆษณาของทวิตเตอร์ (Twitter) แพลตฟอร์มที่เขาซื้อมาในราคา 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั้นได้ลดลงไปแล้วถึง 50% และทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดติดลบ รวมถึงมีภาระหนี้ที่สูงมาก
การออกมาประกาศดังกล่าวถือเป็นการสวนกระแสกับสิ่งที่ Elon Musk เคยพูดไว้เมื่อเดือนเมษายนที่บอกว่า เม็ดเงินโฆษณากำลังไหลกลับมาที่ Twitter โดยข้อมูลจาก Sensor Tower ระบุว่า ในกลุ่มผู้ซื้อโฆษณาขาใหญ่ 1,000 รายของ Twitter (เมื่อเดือนกันยายน 2022) นั้น มาในเดือนเมษายน 2023 เหลือเพียง 43% ที่ยังลงโฆษณากับ Twitter อยู่
Elon Musk ยอมรับด้วยว่า รายได้ที่ลดลง 50% นี้ทำให้ Twitter ยากที่จะต่อยอดสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อผนวกกับการเปิดตัวแอปพลิเคชัน Threads ของฝั่ง Meta ที่ทำท่าจะไปได้ดี ก็ยิ่งทำให้ Twitter ต้องแบกรับความกดดันมากขึ้นนั่นเอง
ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า รายได้ที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ของ Twitter ส่วนหนึ่งมาจากความไม่มั่นใจของนักโฆษณาต่อการบริหารงานของ Elon Musk เอง โดยเฉพาะหลังจากที่เขาซื้อกิจการสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกพนักงานกลับเข้าออฟฟิศ หรือไม่ก็บอกให้พนักงานลาออกไป จนเกิดการลาออกของพนักงานจำนวนมาก
นอกจากนั้น ยังมีกรณีดราม่าที่ Elon Musk ประกาศเลิกจ้างพนักงาน และมีการตามตัวพนักงานบางส่วนกลับมา รวมถึงการที่มีข่าวออกไปว่า Twitter ไม่มีเงินจ่ายค่าบริการคลาวด์ – ทำความสะอาดออฟฟิศ ฯลฯ
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผู้ลงโฆษณาเกิดความไม่มั่นใจว่า Twitter จะยังเป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย – เชื่อถือได้สำหรับการลงโฆษณาหรือไม่นั่นเอง
ส่วนอนาคตของ Twitter จะเป็นอย่างไรนั้น คาดว่าในอนาคตคงมีรายได้แบบใหม่ออกมาดึงดูดผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ Elon Musk ก็เพิ่งออกมาทวีตว่าจะมีการแบ่งรายได้ค่าโฆษณาจากการเข้ามาที่หน้า Profile Page แต่จะนับเฉพาะคนที่เป็น Verified users เท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนใช้บ็อทมาปั่นตัวเลขยอดวิวนั่นเอง
As promised.
Soon, we will share ad revenue from profile page views, which should roughly double payouts.
Note, only views from verified users count, as it is otherwise trivial to bot scam the view count.
— Elon Musk (@elonmusk) July 16, 2023