ทวิตเตอร์ (Twitter) โซเชียลมีเดีย แหล่งรวม “เทรนด์” จุดกระแสสังคม ของบรรดา “ด้อม” ต่างๆ ถือเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ Gen Z
ในงาน GroupM FOCAL 2023 เวทีเสวนาที่ว่าด้วยเทรนด์การตลาด การบริโภคสื่อ อัพเดทเทคโนโลยีและเครื่องมือการตลาดใหม่ๆ ในหัวข้อ Winning The Tribe of a New Generation of Consumers with Twitter Conversation คุณปัญชรี สิทธิเสนี Head of Twitter – APAC Country Head จากเอ็นทราวิชั่น (ประเทศไทย) ได้พูดถึงการใช้บทสนทนาบน Twitter เพื่อชนะใจผู้บริการกลุ่มนิวเจนไว้ดังนี้
หากดูผู้ใช้งาน Twitter กลุ่มใหญ่สุดคือ Gen Z อายุ 16-24 ปี มีสัดส่วน 33% รองลงมาอายุ 25-34 ปี มีสัดส่วน 25% อายุ 35-44 ปี มีสัดส่วน 22% และอายุ 45 ปีขึ้นไป มีสัดส่วน 21%
บทสนทนา Twitter จุดกระแสธุรกิจ
สิ่งที่ Twitter โดดเด่นคือเป็นแพลตฟอร์มสร้างกระแส จากบทสนทนาของคนในสังคมออนไลน์ ที่เริ่มจากวงพูดคุยเล็กๆ แต่สามารถขยายวงกว้างได้ จากความสนใจอยากรู้ของคนว่าวันนี้สังคมกำลังพูดถึงเรื่องอะไรและนำไปต่อยอดธุรกิจได้
สิ่งที่เป็นกระแสบน Twitter มักจะไปเป็นกระแสในแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างที่ชัดเจนของบทสนทนาบน Twitter คือ กระแสฮิต “หมาล่า” ในประเทศไทย มาจากจุดเริ่มต้นเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา จากบทสนทนาแรกๆ ของ “หมาล่า” บน Twitter ในช่วงโควิด ที่มีคนคุยกันว่าอยากกิน “หมาล่า” และพูดถึงเมนูต่างๆ ทำให้ร้านอาหาร ไม่ว่าจะร้านเล็ก ร้านใหญ่ แบรนด์ดัง ทำเมนูหมาล่าขึ้นมาให้บริการจำนวนมาก เพราะมีคนพูดถึงหมาล่าอยู่ตลอดเวลาในโซเชียลมีเดีย จึงเกิดเป็นกระแส FOMO (Fear Of Missing Out) และ JOMO (Joy of Missing Out) ที่คนในออนไลน์ไม่อยากพลาดเทรนด์นี้เช่นกัน
ไม่เพียงกระแสหมาล่าเท่านั้น บนแพลตฟอร์ม Twitter ได้เห็นบทสนทนาที่มีกระแสคล้ายกับเรื่องนี้ ที่เริ่มจากจุดเล็กๆ แล้วฮิตเป็นกระแสในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ ซีรีส์วาย เครื่องสำอาง เทรนด์การแต่งหน้าแบบใหม่ ล้วนแล้วเกิดจาก Twitter ที่เริ่มจากบทสนทนาไม่กี่คนที่พูดถึงจนกลายเป็นกระแสฮิต
บทสนทนากระตุ้นการซื้อ
เมื่อชาวโซเชียลมีพฤติกรรมเกาะติดเทรนด์ต่างๆ อยู่ตลอดเวลา “บทสนทนา” ที่อยู่บนหลากหลายบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจึงมีผลทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น จากการสำรวจสรุปได้ดังนี้
– 57% ของผู้บริโภคบอกว่าบทสนทนามีผลกับการตัดสินใจซื้ออย่างมาก
– 1 ใน 3 เห็นด้วยว่าการเห็นบทสนทนาบนออนไลน์สามารถทำให้ตัดสินใจซื้อทางออนไลน์ได้มากกว่าปกติ
– 2 ใน 3 บอกว่าการเห็นบทสนทนาบนออนไลน์รู้สึกว่าเป็นของจริง (ไม่ได้ถูกจ้างมา) จึงมีส่วนช่วยในการตัดสินใจซื้อ
– 1 ใน 3 ตัดสินใจซื้อเพราะเชื่อ Brand Advocacy ที่ใช้ผลิตภัณฑ์จริง มากกว่าคนรีวิวสินค้าหลายๆ แบรนด์
เปิดสูตรป้ายยา-ปั่นเทรนด์ Twitter
ในมุมของนักการตลาด สามารถใช้กลยุทธ์สร้าง “บทสนทนา” เพื่อสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ ทำให้เกิดอีคอมเมิร์ซตามมาทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ดังนี้
– การสร้างบทสนทนา (Conversation) บนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ดู Real สามารถทำให้การสื่อสารกระจายไปได้ในวงกว้าง กระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจและไปเลือกซื้อสินค้าในช่องทางต่างๆ ที่พวกเขาสะดวก
– แพลตฟอร์มที่สร้างบทสนทนาได้ดี ก็ต้องยกให้ Twitter ดังนั้นหากแบรนด์มีโจทย์ต้องการสร้างยอดขายด้วยบทสนทนา Twitter เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเปรียบได้กับการเป็นบ้านของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z ที่มีพฤติกรรมเป็น FOMO ตามเทรนด์ตลอดเวลา เมื่อเจอเทรนด์ใหม่ ก็แชร์ประสบการณ์ รีวิว บอกต่อ ทำให้เกิดลักษณะการ “ป้ายยา” เกิดขึ้นแบบวนลูปไม่สิ้นสุด
– ดูได้จาก #ป้ายยา ต่างๆ ที่เกิดขึ้นครั้งแรกบน Twitter เพื่อทำให้เกิดบทสนทนาเกี่ยวกับแบรนด์และทำให้เกิดการซื้อ โดยหัวข้อบทสนทนาที่ติดเทรนด์ Twitter ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา มีปริมาณมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การดูแลตัวเอง (Self-care) สินค้าแฟชั่น-บิวตี้ อีเวนท์ คอนเสิร์ต เทคโนโลยี ดังนั้นแบรนด์จึงป้ายยา ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของบทสนทนาเหล่านี้ที่ผู้คนสนใจ เชื่อมโยงกับสินค้า ทำให้เกิดบทสนทนาเพิ่มขึ้น
– แฮชแท็กบทสนทนาป้ายยายอดนิยม ที่ทำให้เกิดการบอกต่อและกระตุ้นการซื้อ คือ #ใช้ดีบอกต่อ #อร่อยไปแดก #HowToPerfect #ไว้รีวิวห้ามขายของโว้ยย #รีวิวสินค้า #รีวิวเซเว่น
– หากต้องการทำให้สินค้าขายได้ในชั่วข้ามคืน ก็ควรต้องสร้างบทสนทนาเพื่อดึงความสนใจจากผู้คน และหากสามารถสร้างบทสนทนาในมุมบวก (Positive Conversation) ได้ 10% จะช่วยสร้างยอดขายให้แบรนด์เพิ่มขึ้น 3%
– การทำให้เกิดบทสนทนาไม่ใช่เพียงการปั่นเทรนด์แฮชแท็กเท่านั้น แต่สามารถทำบทสนทนาแบบออร์แกนิกได้เช่นกัน ซึ่งจะกระจายไปได้เร็วจากการใช้โฆษณาบนตำแหน่งต่างๆ ของ Twitter ค่าเฉลี่ยของแบรนด์ที่มีบทสนทนาบน Twitter ส่วนใหญ่ขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น 5%
3 ข้อบทสรุปสร้างบทสนทนาบน Twitter
1. บทสนทนา มีความสำคัญมากกับการตัดสินใจซื้อ จากยุค Word of Mouth ปัจจุบันคือการบอกให้คนพูดถึงแบรนด์ผ่านเทรนด์
2. สินค้าที่ติดเทรนด์ Twitter ส่วนใหญ่เริ่มจากจุดเล็กๆ บน Twitter แล้วขยายต่อในวงกว้าง
3. การสร้างบทสนทนาในมุมบวกกระจายต่ออย่างรวดเร็ว นั่นคือแบรนด์ได้ฟรีมีเดีย (Free Media)
อ่านเพิ่มเติม