HomeBrand Move !!ปิดตำนานจับเสือใส่ถังพลังสูง 129 ปี ESSO สู่ปั๊ม ‘บางจาก’ ดีเดย์ 1 ก.ย. เปลี่ยนสูตรน้ำมันทั้งหมด

ปิดตำนานจับเสือใส่ถังพลังสูง 129 ปี ESSO สู่ปั๊ม ‘บางจาก’ ดีเดย์ 1 ก.ย. เปลี่ยนสูตรน้ำมันทั้งหมด

ทยอยเปลี่ยนปั๊ม 832 แห่งภายใน 2 ปี

แชร์ :

ถือเป็นการปิดตำนานปั๊มพี่เสือ กิจการ 129 ปี ของ ESSO ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการแล้ว ในวันที่ 31 สิงหาคม 2566

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

หลังจาก บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น หรือ BCP จ่ายเงินค่าหุ้นมูลค่า 22,605 ล้านบาท ให้กับ ExxonMobil Asia Holding Pte. Ltd (เอ็กซอน โมบิล) เพื่อซื้อหุ้นสัดส่วน 65.99% ในราคาหุ้นละ 9.8986 บาท เรียบร้อยแล้วในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 พร้อมรับโอนทรัพย์สินของเอสโซ่ ในประเทศไทย

โดยจะทำ Tender offer หุ้น ESSO ที่เหลืออีก 34.01% ในราคาหุ้นละ 9.8986 บาท หรือมูลค่า 11,651 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 8 กันยายน – 12 ตุลาคม 2566 เพื่อซื้อหุ้นทั้ง 100% ใน ESSO  ด้วยมูลค่าการเข้าซื้อกิจการทั้งหมด 34,257 ล้านบาท  (ในระยะเวลา 1 ปีนี้จะไม่นำหุ้น ESSO ออกจากตลาดฯ ยังเป็นหุ้นที่ซื้อขายได้ปกติ)

ย้อนประวัติ “เอสโซ่” ในประเทศไทย

บริษัทในเครือเอ็กซอนโมบิล หรือ ESSO ในประเทศไทย เริ่มในปี พ.ศ. 2437 บริษัท แสตนดาร์ดออยล์ จำกัด แห่งนิวยอร์ก เปิดสาขาในประเทศไทยที่ตรอกกัปตันบุช จำหน่ายน้ำมันก๊าดตราไก่และตรานกอินทรี

พ.ศ. 2505 เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น บริษัท เอสโซ่ แสตนดาร์ด อีสเทอร์น จำกัด ในวันที่ 1 เมษายน 2505 และเปลี่ยนแปลงเครื่องหมายการค้าจาก “ตราม้าบิน” มาเป็น “ตราเอสโซ่” ESSO ในวงรีรูปไข่

พ.ศ. 2539 เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

พ.ศ. 2544 ได้กิจการของบริษัท โมบิลออยล์ไทยแลนด์ จำกัด และดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

พ.ศ. 2551 บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ปั๊ม ESSO ใช้ “พี่เสือ” เป็นมาสคอตประจำปั๊มกับสโลแกนที่คุ้นหูคนไทย “จับเสือใส่ถังพลังสูง” พี่เสือยังเป็นโลโก้ประจำร้าน Tiger Mart ร้านสะดวกซื้อของปั๊ม ESSO อีกด้วย

“บางจาก” ได้อะไรจากเอสโซ่

– บางจากซื้อกิจการเอสโซ่ ในส่วนที่เป็นสินทรัพย์ทั้งหมดที่อยู่ในประเทศไทย (ไม่ได้ซื้อสิทธิการใช้แบรนด์ ESSO และสูตรน้ำมัน)

– ปัจจุบันเอสโซ่ มีโรงกลั่นน้ำมัน ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีกำลังการผลิตสูงสุด 174,000 บาร์เรลต่อวัน มีสถานีบริการน้ำมัน ESSO 832 แห่งทั่วประเทศ  มีส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมัน 9.8%  คลังน้ำมัน 2 แห่ง ศรีราชาและลำปาง

– ได้หุ้นบริษัทท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด 21% และหุ้นบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS 7.06%

ไทม์ไลน์การเปลี่ยนปั๊ม ESSO 

– วันที่ 31 สิงหาคม 2566 บางจากได้ซื้อกิจการ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 65.99% เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นบริษัทในเครือบางจาก หลังจบ Tender offer จะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน  2566

– ปัจจุบันเอสโซ่ มีปั๊มน้ำมัน 832 แห่ง เป็นปั๊มที่เอสโซ่ เป็นเจ้าของ 280 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 552 แห่ง เป็นปั๊มดีลเลอร์ลงทุน

– สำหรับปั๊ม 280 แห่งที่เอสโซ่ เป็นเจ้าของจะทยอยเปลี่ยนเป็นปั๊มบางจาก ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป โดยจะเปลี่ยนให้เสร็จภายในสิ้นปี 2566  ส่วนปั๊มของดีลเลอร์ที่เหลือจะทยอยเปลี่ยนทั้งหมดภายใน 2 ปี (ตามสัญญาซื้อกิจการปั๊มน้ำมันสามารถใช้แบรนด์ ESSO ได้อีก 2 ปี)

– ส่วนร้านกาแฟและร้านสะดวกซื้อ ในปั๊ม ESSO  ซึ่งเป็นผู้เช่าพื้นที่ จะเปิดให้บริการตามสัญญาที่มีอยู่  สำหรับร้านสะดวกซื้อ Tiger Mart เป็นแบรนด์ของเอสโซ่ สามารถใช้ต่อได้อีก 90 วัน จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นแบรนด์ของบางจาก

– สิทธิประโยชน์บัตรเอสโซ่ สไมล์ส ยังคงระบบสมาชิกสะสมแต้มไป 1 ปี ถึง วันที่ 31 สิงหาคม 2567 โดยจัดแคมเปญให้โอนคะแนนมาที่บัตรกรีนไมลส์ ของบางจาก ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566  ได้เพิ่ม 100 คะแนน

เปลี่ยนสูตรน้ำมันเป็นบางจาก 1 ก.ย.

– โดยตั้งแต่เที่ยงคืน เข้าสู่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป น้ำมันที่ออกจากคลังเอสโซ่ จะเปลี่ยนเป็นสูตรบางจากทั้งหมด จัดส่งให้กับปั๊มน้ำมัน ESSO ดังนั้นปั๊มที่มีสต็อกน้ำมันเอสโซ่ลดลง และสั่งน้ำมันใหม่ก็จะเปลี่ยนเป็นสูตรน้ำมันบางจากทันที โดยมีป้ายบอกที่หัวจ่ายน้ำมัน ว่าเป็นชื่อสูตรน้ำมันบางจาก

– ตามสัญญาบางจากสามารถใช้สูตรน้ำมันเอสโซ่ ได้อีก 90 วัน แต่กระบวนการเปลี่ยนสูตรน้ำมันทุกปั๊ม ESSO เป็นสูตรบางจาก จะทำให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 30 วัน (ภายใน 30 กันยายน 2566)

ดีลการซื้อกิจการ ESSO มูลค่า 34,257 ล้านบาท (หากทำ Tender offer ได้ 100%) บางจาก มองว่าจะคุ้มทุนภายใน 5 ปี 


แชร์ :

You may also like