ในที่สุดสาวกคนรักบ้านที่ชื่นชอบการตกแต่งแบบเน้นฟังก์ชั่น ที่มาพร้อมความมินิมอลเล็กๆ ก็ได้เฮ เมื่อ“นิโตริ” (NITORI) เชนร้านเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านชื่อดังจากญี่ปุ่น ก็ได้ฤกษ์เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ สาขาแรกในประเทศไทย ที่ชั้น 5 โซน I (ฝั่งห้างอิเซตันเดิม) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 นี้แล้ว
BrandBuffet ชวนทำความรู้จักกับแบรนด์ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านชื่อดังที่มียอดขายเป็นดันดับ 1 ในญี่ปุ่นที่ประสบผลสำเร็จจนกลายเป็นเครือข่ายร้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุด (ในญี่ปุ่น) ที่ว่ากันว่าความยิ่งใหญ่ที่แม้แต่ IKEA ก็ล้ม NITORI ไม่ได้
“นิโตริ” (NITORI) ก่อตั้งครั้งแรกในปี พ.ศ. 2510 โดย “คุณอากิโอะ นิโตริ” ภายแนวคิด “มอบความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้คนทั่วโลก” ด้วยความตั้งใจที่จะทำให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันของผู้คนสะดวกสบายยิ่งขึ้น สินค้ามีจุดเด่นคือคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย เน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ และยังตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ สามารถใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วของที่พักอาศัยให้คุ้มค่าที่สุด สอดรับกับสรีระของคนญี่ปุ่นและคนเอเชีย
ตลอด 56 ปีที่ผ่านมา NITORI ฝ่ามรสุมล้มละลาย และถอดบทเรียนสำคัญนำมาใช้ สร้างการเติบโตจนกลายเป็นเครือเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นมีจำนวนสาขามากกว่า 400 แห่ง และขยายสาขามาแล้วกว่า 900 สาขาจาก 5 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ จีน โดย ประเทศไทยถือเป็นแห่งที่ 5 ที่เข้ามาทำตลาดในเอเชีย และแห่งที่ 3 ในภูมิภาคอาเซียน
สำหรับ NITORI สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถือเป็น Flagship Store แห่งแรกในไทย มีพื้นที่ทั้งสิ้น 2,600 ตร.ม. ภายในประกอบด้วยสินค้ากว่า 5,000 รายการ ซึ่งเป็นสินค้าที่ทางแบรนด์พัฒนาขึ้นมาเอง 95% แบ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ 60% และของแต่งบ้าน 40% สินค้าภายในร้านเริ่มต้นตั้งแต่หลักสิบขึ้นไป ซึ่งมีราคาใกล้เคียงกับที่ประเทศญี่ปุ่น และแพงกว่าประเทศมาเลเซียราว 1-2%
ภายในร้านถูกออกแบบภายใต้แนวคิดความเรียบง่าย สร้างสรรค์ เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งจะเหมาะกับคนไทย ทั้งคนที่รู้จักแบรนด์ดีอยู่แล้ว และให้คนที่ยังไม่รู้จักแบรนด์ ให้สามารถเปิดประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าโดยเข้าถึงและมาเป็นลูกค้าได้ง่าย
มีไอเทมเด็ด ที่เป็นสินค้ายอดนิยมของแบรนด์ ซึ่งเป็นสินค้านวัตกรรมที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ ประกอบไปด้วย เครื่องนอนเย็น กับเทคโนโลยี N-cool ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นเครื่องนอนต่างๆ ทั้ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ผ้าปูหมอน ฯลฯ ที่มีความเย็นให้เลือก 3 ระดับ คือ Cool, Super Cool และ Ultra Cool
นอกจากนี้ยังมีผ้าม่านทุกฟังก์ชั่น กันร้อน ดักฝุ่น PM2.5 กันแสง เก็บเสียง , จานชามเบาพิเศษ สินค้า Made In Japan เทคโนโลยีเฉพาะของ NITORI ที่ทำให้ดินเผามีน้ำหนักเบาพิเศษ เบากว่าเครื่องดินเผาปกติถึง 25% และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย
อีกหนึ่งจุดแข็งของแบรนด์คือ พนักงานที่บริการด้านการขายหน้าร้าน จะได้รับการเทรนเป็นพิเศษมากกว่า 6 เดือน โดยจะมีการอบรมทั้งที่ไทยและส่งไปฝึกงาน-อบรมจริงที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะกลับมาทำหน้าที่ในสาขาที่ประเทศไทย โดยคุณสมบัติเด่นของทุกคนคือ สามารถพูด ภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่นได้
โดย NITORI จะเปิดให้บริการสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์อย่างเป็นทางการในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 นี้ ก่อนจะเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 3 แห่ง ภายในปี 2567 ไม่ว่าจะเป็น สาขาเซ็นทรัล เวสต์วิลต์ ในช่วงปลายปี 2566 นี้ ก่อนที่จะขยายอีก 2 แห่งในช่วงครึ่งปีแรก ได้แก่ สาขาซีคอนบางแค สาขาเซ็นทรัลเวสต์เกต