HomeSponsoredSC Asset ครบรอบ 20 ปี เปิดตัวแอนิเมชันสุดคิวท์ “Thriving Together” เล่าเรื่องราวการดูแลลูกค้ามาตลอด 20 ปี และหมุดหมายการเติบโตต่อไป

SC Asset ครบรอบ 20 ปี เปิดตัวแอนิเมชันสุดคิวท์ “Thriving Together” เล่าเรื่องราวการดูแลลูกค้ามาตลอด 20 ปี และหมุดหมายการเติบโตต่อไป

แชร์ :

จากแบรนด์อสังหาริมทรัพย์เล็กๆ ที่เข้ามาปักหมุดในตลาดเมื่อปี 2546 โดยมียอดขายไม่กี่พันล้านต่อปี นับตั้งแต่นั้น “บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” หรือ “SC Asset” มีการขยายธุรกิจเรื่อยมา จนปัจจุบันครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโด แถมรายได้ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2565 มียอดขาย 24,468 ล้านบาท จนกลายเป็นแบรนด์อสังหาฯ แถวหน้าของเมืองไทย และมาวันนี้ SC Asset ยังคงต่อยอดการพัฒนาไม่หยุด เพื่อสร้าง “คุณค่า” ที่มากกว่า “กำไร” หรือ Value over profit เพราะ SC Asset เชื่อในพลังของความร่วมมือ ว่าหากจะให้ธุรกิจเติบโต เราไม่สามารถโตคนเดียวได้ เราต้องเติบโตไปพร้อมกับทุกคนทุกฝ่าย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

หลายคนอาจยังเห็นภาพไม่ชัดว่า “คุณค่า” ที่มากกว่าผลกำไรเป็นเช่นไร และพลังของคุณค่าจะสร้างการเติบโตให้กับทุกคนทุกฝ่ายได้อย่างไร? ในโอกาสครบรอบ 20 ปี SC Asset จึงปล่อยหนังโฆษณาแอนิเมชันเรื่อง “Thriving Together” เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวตลอด 20 ปีผ่านจุดแข็งของแบรนด์ พร้อมบอกเล่าแนวคิดและเป้าหมายการสร้างคุณค่าที่มากกว่ากำไรให้ชัดเจนขึ้น

ต่อยอดจุดแข็ง สู่ Value over Profit

หากดูจากอายุของ SC Asset ในปีนี้ที่ก้าวสู่ขวบปีที่ 20 แม้ในแง่หลักไมล์อาจไม่ได้ยาวนานเมื่อเทียบกับบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแบรนด์ แต่ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ก็มีวิธีคิดและการทำตลาดที่แตกต่าง ไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ โดย คุณโฉมชฎา กุลดิลก หัวหน้าสายงานกลยุทธ์แบรนด์และสื่อสารองค์กร ของ SC Asset เล่าว่า ช่วงแรกที่เข้ามาทำตลาด ด้วยความเป็นน้องใหม่ จึงพยายามทุกวิถีทางให้สินค้าแข่งขันได้ท่ามกลางแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่ทำตลาดมานาน ตอนนั้น SC Asset จึงเลือกโฟกัสที่กลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์เพราะเป็นสมรภูมิที่คู่แข่งยังไม่มาก พร้อมๆ กับให้ความสำคัญกับคุณภาพ จนสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์ เพราะนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชื่อของ SC Asset ก็ค่อยๆ เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์อสังหาฯ คุณภาพระดับไฮเอนด์

กระทั่งยุคสมัยเปลี่ยนไป พฤติกรรมและวิถีการใช้ชีวิตของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย SC Asset จึงทรานส์ฟอร์มตัวเองจาก Property Developer สู่การเป็น Living Solution Provider ต่อจากนั้นยังประกาศ Mission ใหม่คือ การสร้างเช้าที่ดีให้ลูกค้าทุกคน (For Good Mornings) โดยยึดหลัก Customer Centric มาเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพให้ตอบไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนทุกเจน ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาบริการต่างๆ ให้การอยู่อาศัยของลูกบ้านสะดวกสบายอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้แบรนด์เริ่มไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆ จากที่อยู่ในอันดับ 10 ทั้งในด้านยอดขาย และการรับรู้แบรนด์ ก้าวกระโดดขึ้นมาติด Top 5 ในตลาดในปัจจุบัน

“วันนี้ เราเลยจุดของการสร้างสินค้าให้แข่งขันได้ แก่นสำคัญของธุรกิจจากนี้จึงไม่ได้มองเพียงยอดขายและผลกำไร แต่จะต้องมองถึงการสร้างคุณค่าด้วย เพราะเราเชื่อว่าการทำธุรกิจในยุคนี้ จะพึ่งตัวเองอย่างเดียวคงไม่มีพลังมากพอ ยิ่งธุรกิจเติบโต มีฐานลูกค้ามากขึ้น การจะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้ไกลและยั่งยืน ความร่วมมือกันเป็นสิ่งสำคัญเพราะสิ่งนี้จะทำให้เกิดพลังในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่มีคุณค่ากว่าเดิม”

คุณโฉมชฎา อธิบายถึงความสำคัญของการสร้างคุณค่า และความเป็นมาของประกาศแนวทางการดำเนินธุรกิจใหม่ บนแนวคิด Thriving Beyond หรือ เติบโต อย่างมีคุณภาพ แบบเหนือชั้น และยั่งยืน เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเพื่อสร้างคุณค่าที่มากกว่ากำไร

ปั้นหนังแอนิเมชัน ส่งต่อความเชื่อ “การร่วมมือกัน คือ พลังของอนาคต”

เมื่อพูดถึงความหมายของ “คุณค่า” ที่มากกว่ากำไร สิ่งเหล่านี้ยากต่อการอธิบายให้คนเข้าใจ เพราะคำว่าคุณค่าเป็นนามธรรมจับต้องยาก ซึ่งหากตีความหมายให้เห็นภาพมากขึ้น คุณค่า ในมุมมอง SC Asset หมายถึง ความสบายใจไร้กังวล หรือ Worry-free home เพื่อสร้างสิ่งที่ดีให้กับทุกคน แต่คุณโฉมชฎา บอกว่า ความสบายใจไร้กังวลในที่นี้ ไม่ใช่แค่ SC Asset พัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงความร่วมมือของทุกคนในระบบนิเวศ ทั้งคู่ค้า พนักงาน รวมถึงสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มความสุขและมอบประสบการณ์ในการอยู่สบายไร้กังวลในบ้านให้ดียิ่งขึ้น

แม้ว่าความหมายของคุณค่าที่มากกว่ากำไรจะชัดขึ้น แต่คุณโฉมชฎา บอกว่า ความยากคือ จะส่งต่อความเชื่อเหล่านี้ให้ทุกคนเข้าใจง่ายๆ และเห็นภาพของพลังการร่วมมือกันอย่างไร นั่นเลยเป็นที่มาของหนังโฆษณาชุดใหม่ในชื่อ Thriving Together”  

ที่ผ่านมาถ้านึกถึงโฆษณาอสังหาฯ เราก็จะมักเห็นภาพหน้าโครงการ หน้าบ้าน ห้องนอน ห้องน้ำ ที่จอดรถ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในบ้านและคอนโด แต่กับหนังเรื่องนี้อาจไม่ได้ทำให้คนดูเห็นภาพเหล่านี้ เพราะเนื้อหาของหนังตลอดเรื่องเน้นถ่ายทอดให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือกันผ่านการนำเสนอในรูปแบบ “แอนิเมชัน” ซึ่งเป็นรูปแบบแปลกใหม่ในวงการอสังหาฯ ของไทยที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน จึงทำให้ตัวหนังน่าสนใจ ทั้งยังน่ารัก และที่สำคัญ ตัวละครทุกตัวที่อยู่ในหนังแอนิเมชัน มาจาก Ecosystem ทั้งหมดของ SC Asset ซึ่งนอกจากแบรนด์ที่กล้าทำสิ่งใหม่แล้ว ที่ขาดไม่ได้คือ ทีมงานเบื้องหลังผู้สร้างสรรค์หนังแอนิเมชันเรื่องนี้ ที่ได้ทีมครีเอทีฟไฟแรงอย่าง GGWP Bangkok และ Riff Studio นักปั้นแอนิเมชันไทยฝีมือระดับอินเตอร์ที่มาร่วมกันทำให้หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างน่าประทับใจ

“ตอนแรกเราไม่ได้คิดจะทำเป็นหนังแอนิเมชัน พอให้โจทย์ครีเอทีฟไป เขาก็เริ่มจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารองค์กร หลังจากนั้นก็กลับไปคิดไอเดีย จนได้ออกมา 2-3 ไอเดีย หนึ่งในนั้นคือ แอนิเมชัน ตอนแรกเขาก็ยังกล้าๆ กลัวๆ เพราะแอนิเมชันทำยากกว่าการใช้คน และใช้เวลานาน แต่พอเห็นไอเดียครั้งแรก ก็ซื้อไอเดียเลย เพราะสามารถสะท้อนภาพที่เราคิดและทำภาพออกมาตรงกับที่เรานึกไว้ได้ชัดเจน” คุณโฉมชฎา เล่าเบื้องหลังก่อนจะเป็นหนังสุดน่ารัก อบอุ่น

โดยตัวหนังจะใช้วิธีเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลักของเรื่อง “ดอว์น” ดอกทานตะวัน (Sunflower) เป็นตัวแทนของพนักงาน SC Asset ที่คอยเป็นเพื่อนรู้ใจและดูแลบริการลูกค้าด้วยความจริงใจตั้งแต่วันแรกที่เป็นลูกบ้าน พร้อมทั้งเนรมิตโรงเรียนทานตะวัน “SC College” ซึ่งเปรียบเป็นสถานที่ฝึกอบรมพนักงาน SC Asset ในการสร้างเช้าที่ดีให้กับคนในหมู่บ้านมาเป็นซีนเปิดเรื่อง เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดูแลลูกค้าให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น

ก่อนจะโยงและย้ำถึงพลังของความร่วมมือกัน โดยอาจารย์ซันนี่  ได้แนะนำสมาชิกใหม่อย่างหุ่นยนต์ ChatGGWPT ซึ่งเป็นตัวแทนของพันธมิตรและเทคโนโลยีมาร่วมภารกิจดูแลลูกบ้านให้ดีขึ้น โดยให้ดอว์นเป็นพี่เลี้ยงสอนวิธีดูแลลูกค้า เมื่อดอว์นพา ChatGGWPT กลับมาที่บ้าน “น้องซัน” ซึ่งเป็นตัวแทนลูกบ้าน และเห็นภาพดอว์นที่ดูแลน้องซันในห้องนอน จึงเข้าใจว่าดอว์นดูแลน้องซันมาตั้งแต่แรกเกิด จนวันหนึ่งดอว์นกำลังจะทำแพนเค้กเมนูโปรดให้กับน้องซัน แต่ปรากฏว่าไข่หมด ซึ่งระหว่างที่ดอว์นคิดว่าจะทำยังไง เจ้าหุ่นยนต์ก็เข้ามาช่วยคิดวิธีทำแพนเค้กโดยที่ไม่ต้องใช้ไข่ ซึ่งดอว์นก็ลุ้นมากว่าจะถูกใจน้องซันไหม แต่หลังจากที่น้องซันได้ชิมปรากฏว่าชอบและมีความสุขมาก จึงทำให้ดอว์นได้เรียนรู้ว่าการร่วมมือกันเป็นหนทางที่จะช่วยให้เกิดสิ่งใหม่ที่ดีขึ้นได้

ผลตอบรับเกินคาด ส่ง Sunflower System สร้างประสบการณ์พิเศษ มัดใจลูกค้า

ด้วยไอเดียการเล่าเรื่องที่แปลกแตกต่าง บวกกับเรื่องราวที่น่ารัก ดูแล้วอมยิ้มตลอดเรื่อง จึงดึงดูดคนให้ดูหนังโฆษณาจนจบได้ไม่ยาก อีกทั้งผลตอบรับยังดีเกินคาด โดยมียอดวิวกว่า 5 ล้านวิวบน Facebook หลังจากปล่อยหนังโฆษณา “Thriving Together” มาได้เพียง 1 สัปดาห์ และมีคนเข้าเว็บไซต์ของ SC Asset กว่า 30,000 คน ซึ่งหลังจากนี้จะใช้ช่องทางออฟไลน์ เช่น โฆษณาบน BTS และสื่อกลางแจ้ง OOH Media เพื่อเชื่อมโยงการสื่อสารให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น

“เราค่อนข้างพอใจมากกับตัวเลขนี้ เพราะหนังเรื่องนี้ไม่มีของมาขาย แต่สิ่งที่สำคัญกว่ายอดวิว คือ การที่ลูกค้าได้เห็นภาพการ์ตูนน่ารักๆ และเมื่อดูจบแล้วเข้าใจและรับรู้ว่า SC Asset มุ่งมั่นดูแลลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเราทุกคนอย่างดีที่สุดมาโดยตลอดเพื่อให้ทุกคนมีเช้าที่ดีในทุกวัน เหมือน “ดอกทานตะวัน” ที่เป็นเสมือนตัวแทนของ SC Asset ที่มองเห็นลูกค้าและผู้คนเปรียบเสมือนดั่งแสงอาทิตย์ ที่ทานตะวันจะหันตามแสงอาทิตย์เสมอ คอยดูแลลูกค้ามาตลอด 20 ปี และจะดูแลตลอดไปเพื่อที่จะเติบโตเคียงข้างลูกค้า คู่ค้าพันธมิตร และสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน แค่นี้เราพอใจแล้ว และสุดท้ายหากความเชื่อนี้ ถูกใจคน เราก็หวังว่าในอนาคตหากเขาจะเลือกซื้อบ้าน จะนึกถึงเราเป็นแบรนด์แรกๆ

คุณโฉมชฎา บอกถึงหมุดหมายของ SC Asset โดยหนังโฆษณาเรื่องนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจภายใต้แนวคิดใหม่เท่านั้น ใน Step ต่อไป SC Asset ยังมีอะไรใหม่ๆ มาสร้างคุณค่าและยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การนำเหรียญ Morning Coin มาให้ลูกบ้านและคนทั่วไปได้ลองใช้ รวมถึงการเปิดตัว Sunflower System หรือระบบทานตะวัน เพื่อเป็นหลักในการบริการดูแลลูกค้าทุกมิติมาสร้างความประทับใจตลอดการใช้บริการ

ไม่ว่าจะเป็น การทำยูนิฟอร์มพนักงานใหม่ โดยมีคุณ Milin ดีไซน์เนอร์ชื่อดังมาช่วยออกแบบชุดเป็นลายดอกทานตะวัน เพื่อให้พนักงานรู้สึกถึงการเอาใส่ใจลูกค้าอยู่เสมอ และคอยเตือนใจว่าทุกเช้าที่ตื่นมา คือ ดอกทานตะวันที่จะมอบความสดใสให้กับลูกค้า โดยตอนนี้เริ่มใช้ในโครงการแนวราบแล้ว ตลอดจนบริการ Sunflower Service ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเยี่ยมชมบ้านอย่างมีความสุขมากขึ้น

ทั้งหมดนี้จึงไม่เพียงจะสะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนของแบรนด์ SC Asset ที่เชื่อในพลังของการร่วมมือกัน แต่ยังทำให้เห็นถึงการเป็นองค์กรที่ไม่หยุดนิ่ง และพร้อมปรับตัวให้สอดรับกับโลกที่เปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างการเติบโตและดูแลกันตลอดไปด้วย สำหรับใครที่อยากเห็นถึงพลังความร่วมมือกันจะสร้างประสบการณ์สุดพิเศษอย่างไร คลิกชมวิดีโอฉบับเต็มได้ที่ https://m.scasset.com/Etcs

#SCAsset #20ปีSCAsset #ThrivingTogether

 


แชร์ :

You may also like